28 ม.ค.2567 ที่ศาลฎีกา นางอโนชา ชีวิตโสภณ ประธานศาลฎีกา เป็นประธานและกล่าวให้โอวาทในพิธีเปิดโครงการ “เยาวชนไทย หัวใจเดียวกัน รุ่นที่ 8”ซึ่งจัดขึ้นระหว่างวันที่ 27 มกราคม ถึง 2 กุมภาพันธ์ 2567 โดยได้คัดเลือกเยาวชนจาก 3 หวัดชายแดนใต้ อายุระหว่าง 15-18 ปี ที่กำลังศึกษาอยู่ในระดับมัธยมศึกษาตอนปลายหรือเทียบเท่าในสถาบันการศึกษา ที่ตั้งในจังหวัดชายแดนใต้หรือมีภูมิลำเนาในจังหวัดชายแดนใต้ ได้แก่ จังหวัดปัตตานี ยะลา นราธิวาส และ 4 อำเภอ ของจังหวัดสงขลา ได้แก่ อำเภอจะนะ อำเภอนาทวี อำเภอเทพา และอำเภอสะบ้าย้อย จำนวนทั้งสิ้น 120 คน เข้าร่วมโครงการ
ประธานศาลฎีกา กล่าวว่า มีความยินดีและรู้สึกเป็นเกียรติอย่างยิ่งที่ได้มาเป็นประธานในพิธีเปิดโครงการ การที่สำนักงานศาลยุติธรรมจัดโครงการนี้เป็นสิ่งที่ดี สอดคล้องต่อนโยบายประธานศาลฎีกา ข้อที่ 3 เรื่อง “เท่าเทียม” เนื่องจากทำให้เยาวชนที่เข้าร่วมโครงการนี้ มีโอกาสได้รับความรู้ ความเข้าใจที่ถูกต้องทางด้านกฎหมายและกระบวนการยุติธรรม ทั้งเข้าใจถึงบทบาทและหน้าที่ของศาลยุติธรรมในฐานะองค์กรหลักของประเทศ ที่ใช้อำนาจตุลาการในพระปรมาภิไธยพระมหากษัตริย์ เพื่ออำนวยความยุติธรรมให้แก่คนในชาติโดยไม่เลือกปฏิบัติ ภายใต้หลักนิติธรรม และในโอกาสต่อไปภายหน้าหากเยาวชนมีความจำเป็นต้องใช้กระบวนการทางศาล ไม่ว่าด้วยเหตุผลทางประกอบวิชาชีพหรือเหตุผลการมีอรรถคดี ย่อมมีความรู้พื้นฐานในกระบวนการยุติธรรมในเบื้องต้น อันเป็นการส่งเสริมความรู้ให้แก่เยาวชนอย่างเท่าเทียมกัน
นอกจากนี้การที่โครงการจัดให้มีการแนะนำแนวทางการศึกษาวิชากฎหมายให้แก่เยาวชนผู้เข้าร่วมกิจกรรมใช้เป็นข้อมูลประกอบการตัดสินใจสำหรับการศึกษาต่อและการประกอบอาชีพ นับเป็นเรื่องที่น่าชื่นชมและเป็นประโยชน์อย่างยิ่งต่อเยาวชน ซึ่งเป็นพลังของสังคมที่สำคัญต่อไปในอนาคตที่มาทดแทนคนรุ่นเก่าที่ย่อมร่วงโรยไปตามกาลเวลา
นายธานี สิงหนาท เลขาธิการสำนักงานศาลยุติธรรม กล่าวว่า สำนักงานศาลยุติธรรม จัดโครงการ “เยาวชนไทย หัวใจเดียวกัน” ขึ้น โดยมี วัตถุประสงค์เพื่อส่งเสริมและเผยแพร่ความรู้ ความเข้าใจ ทางด้านกฎหมายและกระบวนการยุติธรรมเบื้องต้น ตลอดจนให้ความรู้เกี่ยวกับสิทธิและหน้าที่ของเด็กและเยาวชนตามกฎหมายให้แก่เยาวชน ด้วยรูปแบบกิจกรรมที่หลากหลาย ทั้งการ บรรยาย ให้ความรู้ในหัวข้อเกี่ยวกับกฎหมาย การศาลยุติธรรม การศึกษาวิชา กฎหมายทั้งในและต่างประเทศ การแนะนำแนวทางสู่การเป็นผู้พิพากษาและวิชาชีพกฎหมายอื่นๆ ตลอดจนกิจกรรมเสริมสร้างทัศนคติในการดำเนินชีวิตที่ดี ปลูกฝังคุณธรรม จริยธรรม เพื่อการเรียนรู้ตนเอง และอยู่ร่วมกับผู้อื่นได้อย่างมีความสุข นอกจากนี้ยังจัดให้มีการศึกษาดูงานการพิจารณาพิพากษาอรรถคดี ของศาลยุติธรรม การเข้าเยี่ยมคารวะบุคคลสำคัญของประเทศด้วย