วันที่ 6 สิงหาคม 2568 นายประเสริฐ จันทรรวงทอง รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (กระทรวงดีอี) เป็นประธานในพิธีมอบรางวัลกิจกรรม Digital Agriculture Final Pitching Day ซึ่งเป็นกิจกรรมภายใต้โครงการ 1 ตำบล 1 ดิจิทัล (One Tambon One Digital: OTOD#2) โดยมี ผศ.ดร.ณัฐพล นิมมานพัชรินทร์ ผู้อำนวยการใหญ่ สำนักงานส่งเสริมเศรษฐกิจดิจิทัล หรือ ดีป้า คณะผู้บริหารและผู้แทนจากหน่วยงานต่าง ๆ รวมถึงเกษตรกร และกลุ่มชุมชนที่เข้าร่วมโครงการร่วม
โดยนายประเสริฐ กล่าวว่า ภาคเกษตรกรรมมีความสำคัญและถือเป็นเสาหลักของเศรษฐกิจไทย โดยตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา กระทรวงดีอี มุ่งพัฒนาศักยภาพเกษตรกรโดยการส่งเสริมให้เกิดการปรับเปลี่ยนสู่การสร้างมูลค่าเพิ่มด้วยการขับเคลื่อนให้เกิดการนำเทคโนโลยีและนวัตกรรมดิจิทัลด้านการเกษตร (Digital Agriculture) มาประยุกต์ใช้ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการผลิต ลดต้นทุน เพิ่มรายได้และสามารถเพิ่มประสิทธิภาพการผลิตในระยะยาว ซึ่งถือเป็นส่วนช่วยในการสร้างข้อได้เปรียบในการแข่งขันของประเทศ และหนึ่งในโครงการสำคัญที่เป็นกลไกขับเคลื่อนแนวทางดังกล่าวคือ โครงการ 1 ตำบล 1 ดิจิทัล (One Tambon One Digital) หรือ OTOD ซีซั่น 2 ที่ดำเนินการโดย ดีป้า มีวัตถุประสงค์เพื่อส่งเสริมและสนับสนุนให้เกษตรกร กลุ่มชุมชน และช่างชุมชนสามารถเข้าถึงและประยุกต์ใช้เทคโนโลยีภาคการเกษตร
“โครงการ OTOD#2 ที่ดำเนินการโดย กระทรวงดีอี และ ดีป้า ได้ดำเนินการส่งเสริมให้เกิดการประยุกต์ใช้เทคโนโลยีดิจิทัลภาคการเกษตรใน 5 ภูมิภาคทั่วไทย โดยมีจำนวนผู้เข้ารับการส่งเสริมแยกตามภูมิภาค ประกอบด้วย
- ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ 54.83%
- ภาคเหนือ 18.88%
- ภาคกลาง 14.16%
- ภาคตะวันออก 8.31%
- ภาคใต้ 3.82%
ซึ่งเทคโนโลยีที่ได้รับความสนใจมากที่สุดคือ อินเทอร์เน็ตเพื่อสรรพสิ่ง (IoT) ภาคการเกษตรอัจฉริยะ โดรนเพื่อการเกษตร และแทรกเตอร์การเกษตรอัจฉริยะ ตามลำดับ ซึ่งทั้งหมดจะช่วยส่งเสริมให้ชุมชนสามารถสร้างรายได้และก้าวทันความเปลี่ยนแปลงในยุคเศรษฐกิจดิจิทัล ซึ่งเป็นการสร้างสังคมดิจิทัลบนฐานความรู้ ทั่วถึง รู้ประยุกต์ใช้เป็น สนองตอบเป้าหมายสำคัญในการเพิ่มขีดความสามารถด้านดิจิทัล เพื่อสร้างข้อได้เปรียบทางการแข่งขันของประเทศตามแผนการดำเนินงานในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจและสังคมดิจิทัลของประเทศ” รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงดีอี กล่าว
ด้าน ผศ.ดร.ณัฐพล กล่าวว่า โครงการ OTOD#2 มุ่งส่งเสริมให้เกิดการพัฒนาทักษะดิจิทัลเพื่อการเกษตร เพื่อยกระดับกระบวนการผลิต ตั้งแต่การเพาะปลูก การดูแลรักษา และการจัดการผลผลิตอีกทั้งเตรียมความพร้อมเพื่อก้าวสู่เกษตรอัจฉริยะในอนาคต และยกระดับคุณภาพชีวิตกลุ่มชุมชน เกษตรกรช่างชุมชน อีกทั้งสามารถปรับปรุงกระบวนการผลิตให้มีประสิทธิภาพ ลดต้นทุน เพิ่มรายได้ด้วยการประยุกต์ใช้ 3 เทคโนโลยีดิจิทัลที่ได้รับการรับรองมาตรฐาน dSURE และขึ้นทะเบียนบนบัญชีบริการดิจิทัล ได้แก่ โดรนเพื่อการเกษตร แทรกเตอร์การเกษตรอัจฉริยะ และ IoT ภาคการเกษตรอัจฉริยะ
โครงการ OTOD#2 เริ่มต้นตั้งแต่การจัดทำสื่อการเรียนรู้ออนไลน์ใน 3 เทคโนโลยี จากนั้นจะเข้าสู่กระบวนการยกระดับทักษะเข้มข้น (Accelerate) ซึ่ง ดีป้า ได้ลงพื้นที่ 11 จังหวัด และจัดกิจกรรมอบรมข้อมูลเทคโนโลยี จับคู่ธุรกิจ (Business Matching) และเขียนข้อเสนอโครงการ ต่อด้วยการนำเสนอ (Pitching) ข้อเสนอโครงการที่ผ่านการคัดเลือก (Pre-screen) ต่อคณะกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิใน 5 จังหวัด 5 ภูมิภาค ก่อนเข้าสู่เวทีตัดสินระดับประเทศในวันนี้
“โครงการ OTOD#2 เป็นโครงการที่เราเน้นให้เกษตรกรที่เป็นกลุ่มชุมชน และกลุ่มธุรกิจชุมชน ‘คิดเอง ทำเป็น ทำได้’ เริ่มจากได้ลงมือเรียนรู้และคัดเลือกเทคโนโลยีด้วยตัวเองในทุก ๆ กระบวนการ โดยมี ดีป้า เป็นพี่เลี้ยงคอยสนับสนุนเท่าที่จำเป็น เพื่อให้ชุมชนสามารถพึ่งพาตนเองได้ด้วยเทคโนโลยีดิจิทัลที่ได้มาตรฐาน dSURE ซึ่งผลลัพธ์ที่เกิดขึ้นคือ เกิดการเพิ่มทักษะเรื่องเทคโนโลยี โดยเรียนรู้ผ่านสื่อการเรียนรู้ออนไลน์อย่างต่อเนื่องกว่า 550,000 ราย และมีผู้เข้าร่วมกิจกรรมยกระดับทักษะเข้มข้นกว่า 1,300 ราย จากเป้าหมาย 1,000 ราย มีผู้ผ่านการคัดเลือกเข้าสู่รอบ Final Pitching กว่า 500 ราย ซึ่งคาดว่าจะสร้างมูลค่าทางเศรษฐกิจไม่น้อยกว่า 500 ล้านบาทต่อปี สอดคล้องกับเป้าหมายของโครงการที่มุ่งเน้นให้เกิดการพัฒนาทักษะ Digital Agricultureเพื่อร่วมขับเคลื่อนภาคการเกษตรไทยสู่เกษตรอัจฉริยะ และก้าวทันการเปลี่ยนแปลงในยุคดิจิทัล” ผู้อำนวยการใหญ่ ดีป้า กล่าว
สำหรับกิจกรรม Digital Agriculture Final Pitching Day กิจกรรมภายใต้โครงการ OTOD#2 เป็นเวทีตัดสินสุดยอดโครงการยกระดับชุมชนเพื่อสร้างการเปลี่ยนแปลงสังคมด้วยเทคโนโลยีดิจิทัล โดยแบ่งเป็น 2 ประเภท ประกอบด้วย
1. ประเภทกลุ่มชุมชนประยุกต์ใช้เทคโนโลยี จำนวน 350 ราย รับการส่งเสริมสนับสนุนสูดสุด 150,000 บาทต่อโครงการ
2. ประเภทพัฒนาธุรกิจชุมชน จำนวน 50 ราย รับการส่งเสริมสนับสนุนสูงสุด 200,000 บาทต่อโครงการ พร้อมกันนี้ยังมีรางวัลดีเด่นสำหรับสุดยอดโครงการทั้ง 2 ประเภท อีก 3 รางวัล รวมทั้งสิ้น 6 รางวัล ประกอบด้วย อันดับที่ 1 มูลค่า 50,000 บาท อันดับที่ 2 มูลค่า 30,000 บาท และอันดับที่ 3 มูลค่า 20,000 บาท
นอกจากนี้ ภายในงานตลอดทั้ง 2 วันยังมีการเปิดพื้นที่จำลอง 3 เทคโนโลยีเพื่อการเกษตรสุดล้ำ ทั้งเทคโนโลยีโดรนเพื่อการเกษตร แทรกเตอร์การเกษตรอัจฉริยะ และ IoT ภาคการเกษตรอัจฉริยะ เพื่อถ่ายทอดองค์ความรู้ให้กลุ่มชุมชน เกษตรกร เข้าใจการยกระดับภาคเกษตรอัจฉริยะมากยิ่งขึ้น รวมถึงเวทีเสวนาเข้มข้นที่ระดมหัวกะทิจากทั้งหน่วยงานภาครัฐ ภาคเอกชน และเกษตรกรที่เป็นผู้รู้ตัวจริงในวงการเกษตรดิจิทัลร่วมมอบไอเดียพลิกชีวิตด้วยเทคโนโลยีเพื่อการเกษตรแบบครบจบในงานเดียว
“กิจกรรม Digital Agriculture Final Pitching Day ในวันนี้ทำให้เห็นว่า เกษตรกรไทยของเราเก่ง มีดี ขอเพียงเราสนับสนุนอย่างถูกวิธี พี่น้องเกษตรกรจะเติบโตได้ด้วยตนเองอย่างมั่นคงและยั่งยืน ซึ่งก้าวต่อไป ดีป้า จะขยายการสนับสนุนต่อเนื่องผ่านโครงการ OTOD ประกอบด้วย OTOD AI Transformation ช่วยชาติ ซึ่งเป็นโครงการที่จะเร่งส่งเสริมการประยุกต์ใช้เทคโนโลยีดิจิทัลในกลุ่มชุมชน ผู้ประกอบการ เกษตรกรและธุรกิจโรงงาน รวม 10,000 ราย เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจตามนโยบายของรัฐบาล และ OTOD ทุเรียนดิจิทัล ส่งเสริมและยกระดับเกษตรกรทุเรียนด้วยแพลตฟอร์มดิจิทัล ซึ่งขณะนี้กำลังดำเนินการอยู่ในเฟสที่ 2 พร้อมกันนี้ ดีป้ายังได้ผลักดันในเรื่องของมาตรการลดหย่อนภาษี 200% ซึ่งทุกโครงการ เราต้องการให้คนไทยทุกคนสามารถรู้ เข้าใจ และประยุกต์ใช้เป็น เพื่อให้เศรษฐกิจดิจิทัลของประเทศเติบโตอย่างมั่นคง” ผู้อำนวยการใหญ่ ดีป้า กล่าวทิ้งท้าย