รศ.ดร.อนุสรณ์ อุณโณ คณบดีคณะสังคมวิทยาและมานุษยวิทยามหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ กล่าวว่า การดำเนินคดีกับ 7 พรรคร่วมฝ่ายค้านและนักวิชาการ ที่เปิดเวทีเสวนารณรงค์แก้ไขรัฐธรรมนูญ สะท้อนว่าผู้มีอำนาจ กำลังหวั่นใจ เมื่อเห็นถึงการขยายตัว ของกลุ่มคนต่างๆ ในสังคม ที่ต้องการให้มีการแก้ไขรัฐธรรมนูญ รวมถึงกลุ่มที่เคยสนับสนุน ปูทางเข้าสู่อำนาจในปัจจุบัน เริ่มตีตัวออกห่างหรือมีแนวคิดต่อการแก้ไขรัฐธรรมนูญแตกต่างจากผู้มีอำนาจ
อย่างไรก็ดี กรณีที่กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร ไปดำเนินการแจ้งความ ด้วยเหตุผลที่ฟังไม่ขึ้นนั้น จะกลายเป็นตัวเร่ง หรือกระตุ้นให้กลุ่มคนในส่วนอื่นๆ ซึ่งไม่สนใจเรื่องการแก้ไขรัฐธรรมนูญเมื่อเห็นการรณรงค์ถูกกดปราบ ถูกใช้อำนาจอย่างไม่เป็นธรรม การรณรงค์ แก้ไขรัฐธรรมนูญ จึงถูกเร่งจังหวะ เพื่อนำไปสู่การขับเคลื่อนให้เป็นรูปธรรมในเวลาที่รวดเร็วขึ้น
'สุทิน จี้ฝ่ายมั่นคงหยุดใช้กม.คุกคาม-เชื่อยิ่งปลุกคนสนใจแก้รธน.
นายสุทิน คลังแสง ประธานคณะกรรมการประสานงานพรรคร่วมฝ่ายค้าน หรือ วิปฝ่ายค้าน กล่าวถึงกรณี พล.ต.บุรินทร์ ทองประไพ ผู้ชำนาญการสำนักงาน กอ.รมน.ภาค 4 ส่วนหน้า แจ้งความจับ แกนนำ 7 พรรคฝ่ายค้าน และนักวิชาการรวม 12 คน ระหว่างจัดเสวนาแก้ไขรัฐธรรมนูญที่จังหวัดปัตตานี ตามมาตรา 116 ว่า เป็นความพยายามข่มขู่ฝ่ายตรงข้าม และทำลายบรรยากาศการเมือง ซึ่งไม่ควรเกิดขึ้นในช่วงรัฐบาลหลังการเลือกตั้ง ทั้งนี้ยอมรับว่า การดำเนินคดี แม้อาจกระทบกับหลายคนที่ร่วมเคลื่อนไหวรณรงค์ เพราะไม่อยากเสี่ยงจะโดนคดีไปด้วย แต่อีกด้านเชื่อว่าจะทำให้คนวงกว้างสนใจกับการแก้ไขรัฐธรรมนูญ จากการใช้กฎหมายมาคุกคาม ดังนั้นมองว่าสิ่งที่ตามมาจะมีทั้งผลบวก และผลลบในตัว ซึ่งอยากเรียกร้องให้ฝ่ายความมั่นคงทบทวนการกระทำดังกล่าว และให้เสรีภาพในการแสดงความเห็นของทุกฝ่าย
ส่วนกรณีที่ พลเอกประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ระบุว่าการแจ้งความดำเนินคดีกับนักการเมือง เพราะไม่มีการห้ามปรามการแสดงความเห็นของ นางชลิตา บัณฑุวงศ์ อาจารย์คณะสังคมศาสตร์ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ นั้น นายสุทิน มองว่า เป็นสิ่งที่เกินเลย เพราะบนเวทีเสวนาถือเป็นเสรีภาพทางความคิดในฐานะนักวิชาการ เชื่อว่าไม่มีเจตนาที่ไม่ดี และต้องแยกแยะว่าอะไรคือความรับผิดชอบส่วนบุคคล
นายสุทิน ยังกล่าวถึงการแจ้งความกลับของ 7 พรรคฝ่ายค้าน ว่า ขณะนี้ยังอยู่ระหว่างการพูดคุย ซึ่งคงต้องใช้เวลา และพิจารณาให้รอบคอบ ยืนยันว่าฝ่ายค้านต้องมีมาตรการ ไม่เช่นนั้นจะมีการคุกคามในลักษณะนี้ขึ้นอีก
"รองโฆษกเพื่อไทย"อัดรัฐบาลเผด็จการซ่อนรูป ชี้ “ประวิตร”ไม่รู้กฎหมายเหวี่ยงแหจับทำไม่ได้
นายชุมสาย ศรียาภัย รองโฆษกพรรคเพื่อไทย เปิดเผยถึงกรณีที่ พล.ต.บุรินทร์ ทองประไพ ผู้ชำนาญการสำนักงาน กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 ส่วนหน้าแจ้งความร้องทุกข์ กล่าวโทษต่อพนักงานสอบสวน ให้ดำเนินคดีกับบุคคลรวม 12 คน ที่มาร่วมเสวนาในหัวข้อ “พลวัตแก้ปัญหาจังหวัดชายแดนภาคใต้ สู่นับหนึ่งรัฐธรรมนูญใหม่” ที่บริเวณลานวัฒนธรรมจังหวัดปัตตานี ว่า การกระทำของพล.ต.บุรินทร์ ในครั้งนี้ถือว่าเป็นการกระทำที่ขัดต่อบัญญัติรัฐธรรมนูญในมาตรา 34(2)ที่เขียนว่า ว่า เสรีภาพทางวิชาการย่อมได้รับความคุ้มครอง แต่การใช้เสรีภาพนั้นต้องไม่ขัดต่อหน้าที่ของปวงชนชาวไทยหรือศีลธรรมอันดีของประชาชน และต้องเคารพและไม่ปิดกั้นความเห็นต่างของบุคคลอื่น
ดังนั้นการให้ความคิดเห็นทางวิชาการสามารถกระทำได้ ไม่น่าจะมีความผิดเพราะได้รับความคุ้มครองจากรัฐธรรมนูญ ส่วนกรณีที่พลเอกประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ออกมาให้สัมภาษณ์ว่า นักการเมืองที่นั่งอยู่ด้วยไม่ห้ามนั้น ถือว่าร่วมทำความผิดด้วย เป็นการตีความที่ผิดและเข้าข้างตัวเองมาก
นายชุมสาย กล่าวด้วยว่า การพูดของพลเอกประวิตร นั้นเป็นการพูดที่ไม่รู้จริงด้านข้อกฎหมายเพราะแม้นั่งอยู่ด้วยกันแต่ทั้งหมดไม่ได้ทราบว่าจะมีการพูดแบบนี้ ดังนั้นจะมาบอกว่าทั้งหมดที่นั่งอยู่บนเวทีผิด เป็นการพูดที่ไม่มีข้อกฎหมายรองรับ และการแจ้งความจับแบบเหมารวมเป็นการเหวี่ยงแหไม่เป็นตามกฎหมาย การที่รัฐบาลไปประกาศทั่วโลกว่าเป็นประเทศไทยเป็นประชาธิปไตย เป็นการโกหกต่อชาวโลกมากกว่า เพราะในความเป็นจริงรัฐบาลยังคงใช้อำนาจคสช.โดยผ่าน กอ.รมน.แทนเป็นการปกครองในรูปแบบเผด็จการซ่อนรูปเท่านั้น
อ่านเพิ่มเติม
- 'สิระ' จี้ 5 หัวหน้าพรรคฝ่ายค้านไขก๊อก ชี้เป็นภัยความมั่นคง
- 'ปิยบุตร' ย้อนเกล็ดเรียก 'บุรินทร์' แจงกมธ. กฎหมายฯ - 'ธนาธร' ขำหลังเห็นข่าว
- แกนนำฝ่ายค้านแจ้งความกลับ 'บุรินทร์' ซัดรับใบสั่งมาเอาผิด - 'ปิยบุตร' เรียกแจง กมธ.
- 'หมอระวี' ออกโรงเตือน 'ปิยบุตร' คิดให้ดีก่อนใช้อำนาจ กมธ.เรียก 'บุรินทร์' เข้าชี้แจง
