นางพรรณสิริ กุลนาถศิริ โฆษกคณะกรรมาธิการ (กมธ.) วิสามัญพิจารณาร่างพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) อาสาสมัครสาธารณสุขประจำหมู่บ้านและแนวหน้าสุขภาพ พ.ศ. .... พร้อมคณะ แถลงถึงความก้าวหน้าการดำเนินงานว่า ปัจจุบันการพิจารณาร่าง พ.ร.บ. ของ กมธ.วิสามัญฯ เสร็จสิ้นแล้ว โดยได้แก้ไขเพิ่มเติมร่าง พ.ร.บ.ให้มีความสมบูรณ์ครบถ้วนมากขึ้น มีจำนวนทั้งสิ้น 5 หมวด กว่า 60 มาตรา การดำเนินงานเริ่มต้นจากการที่ที่ประชุมสภาผู้แทนราษฎร เมื่อวันศุกร์ที่ 5 กันยายน 2568 ได้พิจารณาและลงมติรับหลักการร่าง พ.ร.บ.อาสาสมัครสาธารณสุขประจำหมู่บ้าน พ.ศ. .... จำนวน 7 ฉบับ ประกอบด้วย ร่าง พ.ร.บ.ของคณะรัฐมนตรี
โดยนายสมศักดิ์ เทพสุทิน อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข เป็นผู้เสนอ ซึ่งได้รับการรับฟังความเห็นจากประชาชนและอาสาสมัครสาธารณสุขประจำหมู่บ้าน (อสม.) ราว 400,000 คนมาก่อนแล้ว/ ร่าง พ.ร.บ.ของนายสรวงศ์ เทียนทอง กับคณะ /ร่าง พ.ร.บ.ของนายอนุทิน ชาญวีรกูล กับคณะ /ร่าง พ.ร.บ.ของนางสุพัชรี ธรรมเพชร กับคณะ/ ร่าง พ.ร.บ.ของนางศิริวรรณ ปราศจากศัตรู กับคณะ ร่าง พ.ร.บ.ของนายอัครแสนคีรี โล่ห์วีระ กับคณะ และร่าง พ.ร.บ.ของนางสาวกัลยพัชร รจิตโรจน์ กับคณะ เป็นผู้เสนอ โดยที่ประชุมสภาฯ ได้มีมติตั้งคณะกรรมาธิการวิสามัญ 31 คน
โดยมีนายสมศักดิ์ เทพสุทิน เป็นประธาน พร้อมตั้งคณะทำงานขึ้นอีก 1 คณะ เพื่อกลั่นกรองข้อมูลให้มีความชัดเจนก่อนนำเสนอเข้า กมธ.วิสามัญคณะใหญ่ โดยการทำงานเป็นไปด้วยความเรียบร้อย ทั้งนี้ กมธ.ได้สรุปเป็นร่างหลัก รวมทั้งร่างที่มีการปรับปรุงแก้ไขโดย กมธ. และร่างที่สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาได้พิจารณาให้ความเห็น และเมื่อกลับเข้าที่ประชุมอีกครั้ง จึงได้ยึดร่างของกฤษฎีกาเป็นร่างหลักใน กมธ.และมีมติครบทั้ง 5 หมวด กว่า 60 มาตรา
สำหรับสาระสำคัญของร่าง พ.ร.บ. ที่ กมธ.วิสามัญฯ พิจารณาเสร็จแล้วยึดหลักการความเป็น "จิตอาสา" ของประชาชนในการเข้ามามีส่วนร่วมเป็นส่วนหนึ่งของระบบการสาธารณสุขไทย เพื่อดูแลสุขภาพของประชาชนไทยในนาม อสม.ซึ่งมีกำลังราว 1,200,000 คน ร่าง พ.ร.บ.มุ่งเน้นให้ความสำคัญกับการยกระดับสถานะและสร้างหลักประกันที่มั่นคงให้แก่ อสม. พัฒนาขีดความสามารถควบคู่ไปกับการส่งเสริมความเข้มแข็งองค์กร อสม. ให้สามารถบูรณาการการทำงานร่วมกับหน่วยงานอื่นๆ ได้อย่างมีประสิทธิภาพ
ที่สำคัญคือการสร้างขวัญกำลังใจในการปฏิบัติงานและพัฒนาสิทธิประโยชน์และสวัสดิการต่างๆ ให้แก่ อสม. อาทิ สิทธิได้รับเงินค่าตอบแทนและสิทธิเบิกค่าใช้จ่ายสำหรับการปฏิบัติหน้าที่ตามหลักเกณฑ์ วิธีการและเงื่อนไขที่รัฐมนตรีประกาศกำหนด รวมทั้งสิทธิได้รับสวัสดิการช่วยเหลือค่าห้องพิเศษและค่าอาหารพิเศษจากโรงพยาบาลหรือหน่วยบริการสาธารณสุขในสังกัดกระทรวงสาธารณสุข ซึ่งเป็นการยกระดับคุณภาพชีวิตและขีดความสามารถของ อสม. ได้อย่างเป็นรูปธรรมและยั่งยืน
ซึ่งผลจากการมีกฎหมายฉบับนี้คือ ประชาชนจะได้รับการดูแลสุขภาพในระดับชุมชนอย่างเข้มแข็งและยั่งยืน ประเทศไทยจะมีระบบการสาธารณสุขที่มั่นคง สามารถรับมือกับภาวะวิกฤตด้านสุขภาพได้อย่างมีประสิทธิภาพ ในขณะเดียวกันผู้ปฏิบัติงาน อสม. จะมีสถานะทางกฎหมายที่มั่นคง มีขวัญและกำลังใจในการปฏิบัติหน้าที่จากหลักประกันด้านสวัสดิการและสิทธิประโยชน์ที่ชัดเจน ถือเป็นการวางรากฐานที่แข็งแกร่งให้กับระบบความมั่นคงทางสุขภาพของประเทศในระยะยาว เพื่อประโยชน์สุขของพี่น้องประชาชนและเพื่อความมั่นคงทางสุขภาพของประเทศชาติต่อไป