ไม่พบผลการค้นหา
หัวหน้าเพื่อไทย ยืนยันเปิดสมัยประชุมรัฐสภา เตรียมลุยยื่นซักฟอก 'ประยุทธ์' ทันที ใช้เวทีสภาฯ ปิดเกมกดดันสภาฯ โหวตคว่ำ 'ประยุทธ์' เชื่อได้เสียงไม่ไว้วางใจจากรัฐบาลผสมกับพรรคฝ่ายค้านแน่

วันที่ 8 มี.ค. 2565 ที่พรรคเพื่อไทย นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว หัวหน้าพรรคเพื่อไทย ในฐานะผู้นำฝ่ายค้านของสภาผู้แทนราษฎร ให้สัมภาษณ์ถึงการเตรียมความพร้อมยื่นเปิดอภิปรายทั่วไป เพื่อลงมติไม่ไว้วางใจรัฐมนตรีเป็นรายบุคคล ตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 151 ว่า วานนี้ (7 มี.ค.) ที่ประชุมพรรคร่วมฝ่ายค้านได้มีการหารือเรื่องดังกล่าว และมีข้อสรุปให้ทุกพรรคร่วมฝ่ายค้านเริ่มเตรียมความพร้อมด้านเนื้อหาทันที อีกส่วนหนึ่งคือการจัดให้มีคณะทำงานติดตามการยื่นอภิปรายไม่ไว้วางใจโดยเฉพาะ โดยมี สุทิน คลังแสง ส.ส.มหาสารคาม พรรคเพื่อไทย ในฐานะประธานวิปฝ่ายค้าน ดำรงตำแหน่งประธานคณะทำงานชุดนี้ ซึ่งจะเริ่มต้นทำงานและหารือกันในวันที่ 22 มี.ค.นี้

สำหรับช่วงเวลายื่นขอเปิดอภิปรายก็จะดำเนินการให้เร็วที่สุดทันทีที่สภาฯ กลับมาเปิดสมัยประชุมรัฐสภา ตั้งแต่วันที่ 22 พ.ค. เป็นต้นไป โดยมีเงื่อนไขว่าการยื่นจะต้องไม่ไปกระทบกับผลประโยชน์ของประชาชน และต้องคำนึงถึงกฎหมายที่จะเข้าสู่การพิจารณาของสภาด้วยว่าจะส่งผลต่อการยื่นหรือไม่ อาทิ กฎหมายประกอบรัฐธรรมนูญ และ พ.ร.บ.งบประมาณ

ส่วนการลงมติไม่ไว้วางใจนั้น ต้องอาศัยเสียงในสภาเกินกึ่งหนึ่ง คือ 238 เสียง ซึ่ง นพ.ชลน่าน ระบุว่า เมื่อพิจารณาเสถียรภาพของพรรคร่วมรัฐบาลในตอนนี้ ฝ่ายค้านมีความมั่นใจในการใช้กลไกสภาฯ ยุติบทบาทการทำงานของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม รวมทั้งรัฐมนตรีที่เกี่ยวข้อง ซึ่งต้องไปหารือกันต่อไปว่าจะยื่นอภิปรายไม่ไว้วางใจบุคคลใดในรัฐบาลบ้าง 

ทั้งนี้ นพ.ชลน่าน เชื่อว่า การบริหารราชการแผ่นดินที่ล้มเหลว แก้ไขปัญหาต่างๆให้ประชาชนไม่ได้จนถึงจุดเดือด จะสร้างแรงกดดันไปยังส.ส.ฝั่งรัฐบาล ให้เทคะแนนเสียง แม้เพียงเล็กน้อย มาร่วมกับ 208 เสียงของฝ่ายค้านได้ไม่ยาก โดยข้อกล่าวหาที่จะมาใช้ในการอภิปรายไม่ไว้วางใจต้องมีหลักฐานหนักแน่นชัดเจน จึงจะเน้นไปที่เรื่องของการทุจริตคอรัปชันเป็นหลัก ส่วนเรื่องการบริหารงานที่ผิดพลาดจะเป็นเรื่องรอง