ต่างประเทศ
ยูเอ็นเรียกระดมเงินสู้โควิด-19 สูงถึง 10,300 ล้านดอลลาร์
มาร์ก โลว์ค็อก ปลัดกระทรวงกิจการมนุษยธรรมของสหประชาชาติ หรือ ยูเอ็นเรียกร้องให้ประเทศผู้นำอุตสาหกรรม จี 20 ระดมเงิน 10,300 ล้านดอลลาร์หรือราว 326,000 ล้านบาท เพื่อต่อสู้กับการแพร่ระบาดของไวรัสโคโรนาในประเทศ
ยูเอ็นวางแผนว่าจะนำเงินก้อนนี้ไปช่วยประเทศที่รายได้น้อยและปานกลาง 63 ประเทศ โดยจะให้ความสำคัญกับกลุ่มเปราะบางก่อน เช่น คนแก่ ผู้มีความบกพร้องทางร่างกาย ผู้หญิงและเด็กผู้หญิง และเงินก้อนนี้จะถูกนำไปให้เอ็นจีโอสามารถตอบสนองสถานการณ์ได้รวดเร็วขึ้น ป้องกันภาวะอดอยาก และป้องกันความรุนแรงที่เกี่ยวข้องกับเพศ
เมื่อเดือนมี.ค.ที่ผ่านมา มีการเรียกระดมเงินก้อนแรกในการต่อสู้กับไวรัสโคโรนา 2,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ หรือราว 63,000 ล้านบาท และในเดือนพ.ค.ก็เพิ่มเป็น 6,700 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ หรือประมาณ 212,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ โดยการเรียกระดมทุนรอบล่าสุด 10,300 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ถือเป็นการเรียกระดมทุนก้อนใหญ่ในประวัติศาสตร์ 75 ปีของยูเอ็น
โลว์ค็อกกล่าวว่า ช่วงแรก ยูเอ็นไม่ได้คาดการณ์ความรุนแรงของผลกระทบทางอ้อมของไวรัสโคโรนา รวมถึงเศรษฐกิจถดถอยทั่วโลก ความยากลำบากในการทำงานช่วงปิดเมือง บริการด้านสาธารณสุขที่ถดถอย และความไม่มั่นคงทางอาหารที่เพิ่มขึ้น
ยูเอ็นเตือนว่าการแพร่ระบาดของโควิด-19 ส่งผลกระทบอย่างมากต่อกลุ่มคนที่จนที่สุดในโลก ประเทศกำลังพัฒนาจะเกิดความหายนะ จะเกิดโศกนาฏกรรมที่ร้ายแรงและทำลายล้างมากกว่าผลกระทบโดยตรงจากไวรัส ความล้มเหลวในการช่วยเหลือจะทำให้การพัฒนาในประเทศรายได้ต่ำและปานกลางในช่วงหลายทศวรรษที่ผ่านมาจะหายไป
นอกจากนี้ ยูเอ็นระบุว่า ประเทศร่ำรวยได้โยนกฎเกณฑ์ตำราทางการเงินเพื่อปกป้องเศรษฐกิจของตัวเอง และควรต้องทำเช่นเดียวกันเพื่อประเทศยากจนด้วย หากไม่ช่วยเหลือประเทศยากจน อาจมีคนมากถึง 265 ล้านคนที่อาจประสบปัญหาความขาดแคลนอาหารภายในสิ้นปีนี้ ซึ่งเป็นผลกระทบจากโควิด-19 และอาจทำให้อัตราคนยากจนเพิ่มขึ้นเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่ปี 2533
แรงงานข้ามชาติหลายล้านคนถูกเลย์ออฟระหว่างการปิดเมืองป้องกันโรคระบาด ทำให้ไม่สามารถส่งเงินกลับไปให้ครอบครัว โครงการให้วัคซีนป้องกันโรคในเด็กก็ถูกระงับ และความขัดแย้งที่ดำเนินมายาวนานในหลายประเทศ ทำให้ประเทศเหล่านี้ไม่มีความพร้อมในการรับมือโรคระบาด เช่น เยเมน มีรายงานว่า คนที่ติดเชื้อไวรัสโคโรนาในเยเมนถึง 1 ใน 4 เสียชีวิต ซึ่งเป็รอัตราการเสียชีวิตที่สูงกว่าค่าเฉลี่ยของโลกถึง 5 เท่า
ปัจจุบัน มีรายงานว่ามีคนที่ได้รับการยืนยันว่าติดโควิด-19 ทั่วโลกมากกว่า 13 คน และมีผู้เสียชีวิตเกือบ 600,000 ราย
