'จิรวัฒน์ สุภรณ์ไพบูลย์' หัวหน้าฝ่ายไพรเวทแบงก์ ธุรกิจให้บริการสำหรับลูกค้าที่มีสินทรัพย์สูง ธนาคารกสิกรไทย มองทิศทางเศรษฐกิจโลกในปี 2563 เริ่มหันหัวพุ่งขึ้นหลังจากที่ดิ่งลงในช่วงปีนี้ พร้อมมองว่าโอกาสที่เศรษฐกิจโลกจะเกิดการถดถอยเป็นไปได้ยากมากหากไม่เกิดเหตุการณ์ไม่คาดฝันขึ้น
ปัจจัยส่งเสริมทิศทางที่ดีนี้มาจากการเจรจาหาข้อยุติของสงครามการค้าระหว่างสหรัฐฯ และจีนเริ่มมีทิศทางที่ดีขึ้น ทั้งยังคาดว่าจะได้ข้อตกลงเรื่องการจัดเก็บอัตราภาษีในการพูดคุยกันในครั้งต่อไป 'จิรวัฒน์' เชื่อว่า 'โดนัลด์ ทรัมป์' ประธานาธิบดีสหรัฐฯ จะยอมอ่อนข้อในการเจรจากับจีนเพื่อให้ได้ผลงานไปใช้ในการหาเสียงเลือกตั้งปี 2563
นอกจากนี้การเข้ามาของ 'คริสติน ลาการ์ด' ในฐานะประธานธนาคารกลางของสหภาพยุโรปจะช่วยให้เศรษฐกิจของ 'อียู' ฟื้นตัวได้ โดยมีเยอรมนีเป็นผู้นำทัพและมีนโยบายการคลังเป็นอาวุธ
อย่างไรก็ตาม ประเด็นเรื่องการเจรจาทางการค้าก็ยังเป็นเรื่องที่วางใจไม่ได้และต้องติดตามอย่างต่อเนื่อง เช่นเดียวกับสถานการณ์การเลือกตั้งของสหรัฐฯ ที่จะสร้างแรงสะเทือนเศรษฐกิจโลกอย่างแน่นอนไม่ว่าฝ่ายไหนจะเป็นผู้ชนะก็ตาม
ลงทุนที่ดีต้องกระจายความเสี่ยง-พร้อมปรับตัว
'จิรวัฒน์' สะท้อนความเห็นว่าลูกค้าที่จะลงทุนในปีหน้าควรมีความระมัดระวังและไม่มองข้ามความความผันผวนที่ยังคงมีอยู่ในตลาด ทั้งยังควรกระจายความเสี่ยงด้วยการไม่ลืมลงทุนในสินทรัพย์ที่สามารถป้องกันความเสี่ยงจากความผันผวนในสินค้าอื่นๆ ได้ อาทิ ทองคำ
"นักลงทุนต้องจ้องความเสี่ยง ถ้าทำเองไม่ได้ ให้ Private Banker ทำ" จิรวัฒน์ กล่าว
ทางออกสำหรับนักลงทุนรายใหญ่ในสายตาของ 'จิรวัฒน์' คือเน้นการกระจายความเสี่ยงและเพิ่มสภาพคล่องของพอร์ต พร้อมป้องกันความเสี่ยงด้วยสินทรัพย์ปลอดภัย เน้นผลิตภัณฑ์ที่ให้ผลตอบแทนสูง ระมัดระวังการลงทุนหุ้น โดยควรเลือกในกลุ่มที่มีการเติบโตดี เช่น กลุ่มสุขภาพ เทคโนโลยี และพลังงาน ไปจนถึงหุ้นในตลาดเกิดใหม่บางประเทศ ซึ่ง 'จิรวัฒน์' ยังมองว่าจีนและประเทศรอบข้างในเอเชียยังเป็นตัวเลือกของประเทศเศรษฐกิจตลาดเกิดใหม่ที่ดีอยู่
ประเด็นสุดท้ายที่นักลงทุนควรมองหาคือการสร้างผลตอบแทนเพิ่มเติมในสินทรัพย์ทางเลือก อย่าง อสังหาริมทรัพย์ หุ้นนอกตลาด และโครงสร้างพื้นฐานที่มีความผันผวนด้านราคาตามตลาดน้อยกว่าแต่อาจะต้องใช้ระเวลานานกว่า