ไม่พบผลการค้นหา
เน็ตฟลิกซ์เปิดรายงานจำนวนผู้ใช้งานที่ลดลง รวมไปถึงกำไรที่ลดลงของไตรมาส 2 ปี 2019 เหตุมาจากการแข่งขันในตลาดวิดีโอสตรีมมิงที่เข้มข้นมากขึ้น

เมื่อวันที่ 18 ก.ค. หลังจากเน็ตฟลิกซ์ออกรายงานผลประกอบการไตรมาส 2 ประจำปี 2019 เมื่อช่วงกลางสัปดาห์ผ่านมาก็ส่งผลให้ราคาหุ้นของเน็ตฟลิกซ์ตกลงทันที 12 เปอร์เซ็นต์ จากความเชื่อมั่นของนักลงทุนที่มีต่อแอปพลิเคชันวิดีโอสตรีมมิงสัญชาติอเมริกา

รายงานฉบับดังกล่าวของเน็ตฟลิกซ์ระบุว่า ไตรมาสที่ 2 ของปี 2019 จำนวนผู้ใช้งานเน็ตฟลิกซ์ในสหรัฐฯ ลดลงกว่า 130,000 คนในสหรัฐฯ เนื่องจากอัตราค่าบริการที่สูงและรายการทีวีโชว์ของเน็ตฟลิกซ์ที่ไม่ดึงดูด แม้ว่าจะมีจำนวนผู้สมัครเข้าใช้ในงานในไตรมาสที่ 2 นี้กว่า 2.7 ล้านคนก็ตาม ซึ่งน้อยกว่าจำนวนผู้ใช้งานที่เน็กฟลิกซ์ตั้งเป้าไว้ที่ 5 ล้านคน นอกจากนี้ในรายงานยังระบุว่า ในไตรมาสที่ 2 เน็ตฟลิกซ์มีกำไรเพียง 271 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯซึ่งลดลงจากไตรมาสแรกของปีที่แล้วที่มีกำไรถึง 384 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ

ทั้งนี้เมื่อไตรมาสแรกของปี 2019 เน็ตฟลิกซ์รายงานว่า มีผู้ติดตามใช้งานเพิ่มขึ้น 9.6 ล้านคน ขณะที่จำนวนผู้ใช้ทั่วโลกมีทั้งหมด 148.8 ล้านคน ซึ่งในสหรัฐฯ มีผู้ใช้งานเน็ตฟลิกซ์กว่า 40 เปอร์เซ็นต์ของผู้ใช้งานทั่วโลก โดยมีจำนวนคนใช้งาน 60.2 ล้านคน

อย่างไรก็ตามเมื่อรวมจำนวนผู้ใช้งานเน็ตฟลิกซ์ในไตรมาสที่ 2 ทำให้มีผู้ใช้งานทั่วโลก 151.5 ล้านคน ขณะที่ทางเน็ตฟลิกซ์คาดว่าในไตรมาสที่ 3 ของปี 2019 จะมีผู้ใช้งานเน็ตฟลิกซ์เพิ่มขึ้นอีก 7 ล้านคน โดยมีกลุ่มเป้าหมายอยู่ที่ตลาดในภูมิภาคละตินอเมริกา ยุโรปและเอเชีย โดยเฉพาะตลาดอินเดีย ซึ่งเป็นประเทศที่มีประชากรจำนวนมากที่สุดในโลกอันดับ 2 รองจากจีน

นักวิเคราะห์หลายคนมองว่าเน็ตฟลิกซ์กำลังเผชิญกับตลาดการแข่งขันแอปพลิเคชันวิดีโอสตรีมมิงที่เพิ่มมากขึ้น โดยเมื่อต้นปีที่ผ่านมาดิสนีย์ก็เปิดตัวแพลตฟอร์มสตรีมมิงเป็นของตนเองชื่อ Disney+ โดยจะเริ่มออนแอร์ในวันที่ 12 พฤศจิกายนที่จะถึงในภูมิภาคอเมริกาเหนือก่อน ซึ่งในแพลตฟอร์มของดิสนีย์นั้นมีจุดขายอยู่ที่เนื้อหาและรายการต่างๆ รวมไปถึงภาพยนตร์จากมาร์เวล สตูดิโอ และซีรีย์ Star Wars ที่เป็นของดิสนีย์ด้วย

ดิสนีย์ยังตั้งเป้าไว้ว่า แพลตฟอร์มวิดีโอสตรีมมิงของตนนั้นจะมีผู้ใช้งานถึง 60- 90 ล้านคน ภายในปี 2024

ขณะที่ทางค่ายวอร์เนอร์มีเดีย ก็ประกาศจะนำโปรแกรมต่างๆ ของตนเองไปฉายลงในแพลตฟอร์มวิดีโอสตรีมมิงของ HBO Max เช่นกัน นอกจากนี้ทาง Apple, NBCUniversal และ AT&T (T)'s WarnerMedia ก็มีแผนเปิดตัวแพลตฟอร์มวิดีโอสตรีมมิงในปีหน้า ซึ่งแม้จะมีการประเมินว่าการเปิดตัวแฟลตฟอร์มวิดีโอสตรีมมิงของค่ายอื่นๆ อาจจะไม่กระทบต่อจำนวนผู้ชมเน็ตฟลิกซ์มากเท่าใดนัก แต่สำหรับในอนาคตจะทำให้เน็ตฟลิกซ์ต้องผลิตเนื้อหาที่เป็นของตนเองมากขึ้นเพื่อแข่งขันในตลาด

ที่มา CNN / Yahoo

ข่าวที่เกี่ยวข้อง