ในงานสัมมนาจากประชามติร่างรัฐธรรมนูญ สู่การสืบทอดอำนาจหลังเลือกตั้ง ที่มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ จัดโดยกลุ่มฟื้นฟูประชาธิปไตย นายยิ่งชีพ อัชฌานนท์ ผู้จัดการโครงการอินเทอร์เน็ตเพื่อกฎหมายประชาชน หรือ iLaw กล่าวว่า แนวทางการแก้ไขรับธรรมนูญปี 2560 แม้จะเป็นไปได้ยาก โดยเฉพาะกลไกลการพิจารณา จากการใช้เสียงข้างมากของสภาฯ แต่ต้องมีเสียง ส.ว. สนับสนุน 1 ใน 3 แต่ยังมองว่ามีโอกาสเกิดขึ้นได้
โดยทางออกที่มีความเป็นไปได้มากที่สุด คือต้องมาจากข้อเสนอของประชาชนผู้มีสิทธิ์เลือกตั้งในการเข้าชื่อไม่น้อยกว่า 50,000 คนขอแก้ไขรัฐธรรมนูญ ซึ่งจะมีความชอบธรรมมากที่สุด เพราะกลไกในการพิจารณาหาก ส.ว. ตีตกคำร้องของประชาชนก็จะส่งผลต่อภาพลักษณ์ ส.ว.เอง แต่การเสนอคำร้องในประเด็นต่างๆ ต้องเป็นไปอย่างประณีประนอม เช่น ไม่ใช่การยกเลิกอำนาจ ส.ว. แต่งตั้ง หรือ อำนาจ ส.ว. โหวตนากยกรัฐมนตรี แต่ควรเป็นลดอายุ ส.ว. อาจจะเหลือเพียง 3 ปี จาก 5 ปี แต่ตัวแปรที่สำคัญคือพรรคประชาธิปัตย์และพรรคภูมิใจไทย ที่จะต้องแสดงจุดยืนในการเสนอแก้ไขรัฐธรรมนูญด้วย และต้องเป็นฝ่ายกดดันฝ่ายรัฐบาลก่อน
ด้านนายสมบัติ บุญงามอนงค์ บก. ลายจุด หัวหน้าพรรคเกียน กล่าวว่า กลุ่มที่จะสามารถแก้ไขรัฐธรรมฉบับปัจจุบันได้ คือ ทหาร เป็นเรื่องยากสำคัญภาคประชาชนที่จะดำเนินการ ซึ่งการสืบทอดอำนาจคล้ายกับการติดยาเสพติดเป็นเรื่องที่แก้ลำบาก เพราะเป็นแผนการที่จะอยู่ต่อ มีการเขียนให้ ส.ว. เลือกนายกรัฐมนตรี 2 สมัย 8 ปี ดังนั้นมองว่า สิ่งที่ทำได้ คือ รอ และเอาพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา มาเป็นบทเรียน ในการบริหารประเทศ
