“เราต้องค้นหาต้นตอของไวรัสโควิด-19 ให้ลึกที่สุด… รวมถึงการเชื่อมโยงที่เป็นไปได้ กับสถาบันไวรัสวิทยาอู่ฮั่น” ไบเดนกล่าวในแถลงการณ์ “ในการดำเนินการตามกฎหมายนี้ ฝ่ายบริหารของผมจะปลดเอกสารจากชั้นข้อมูลความลับ และแบ่งปันข้อมูลนั้นให้มากที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้”
“ผมมีเป้าหมายเดียวกับรัฐสภาคองเกรส ในการเผยแพร่ข้อมูลเกี่ยวกับต้นกำเนิดของโควิดให้ได้มากที่สุด” ประธานาธิบดีสหรัฐฯ กล่าวย้ำ
ไบเดนเคยกล่าวไว้ในปี 2564 หลังจากเขาเข้ารับตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐฯ ว่า เขาได้ “สั่งให้คณะทำงานข่าวกรองใช้เครื่องมือทุกอย่างที่มี” เพื่อตรวจสอบต้นกำเนิดของไวรัสโควิด-19 ซึ่งมีความสงสัยว่าอาจอุบัติขึ้นในห้องปฏิบัติการทางเชื้อไวรัสของจีน
ไบเดนกล่าวว่า การดำเนินงานดังกล่าว “กำลังได้รับการดำเนินอยู่” แต่ข้อมูลข่าวกรองดังกล่าวจะได้รับการเปิดเผยออกมาให้มากที่สุด เท่าที่จะทำได้โดยไม่ก่อให้เกิด “อันตรายต่อความมั่นคงของชาติ”
ร่างกฎหมายกำหนดให้เผยแพร่เอกสารข่าวกรองดังกล่าว มีความเสี่ยงทางการเมืองสำหรับไบเดน ซึ่งกำลังเจรจารื้อฟื้นความสัมพันธ์ที่ยากลำบากกับ สีจิ้นผิง ประธานาธิบดีจีน หลังจากความสัมพันธ์ของสหรัฐฯ กับจีนเกิดความตึงเครียดมานานหลายปี
ในทางตรงกันข้าม ทางการจีนได้ออกมาปฏิเสธอย่างฉุนเฉียว ถึงความเป็นไปได้ที่จะมีการรั่วไหลของไวรัสโควิด-19 ระหว่างการวิจัยในห้องปฏิบัติการอู่ฮั่น ซึ่งอาจก่อให้เกิดการแพร่ระบาดใหญ่ของโควิด-19 ไปทั่วโลกในเวลาต่อมา
อย่างไรก็ดี สมาชิกรัฐสภาคองเกรสส่วนใหญ่ ต้องการติดตามทฤษฎีการรั่วไหลของไวรัสโควิด-19 จากห้องปฏิบัติการในอู่ฮั่นต่อไป และประเด็นดังกล่าวนี้ ได้กลายเป็นการจุดไฟการระดมพล โดยเฉพาะสำหรับฝ่ายตรงข้ามของไบเดนอย่างพรรครีพับลิกันของไบเดน ทั้งนี้ รัฐสภาคองเกรสได้ผ่านและส่งร่างกฎหมายนี้ ไปยังไบเดนเมื่อต้นเดือนที่ผ่านมา
การแพร่ระบาดของโควิด-19 ถูกตรวจพบครั้งแรกในปี 2562 ในเมืองอู่ฮั่น ทางตะวันออกของจีน ซึ่งทำให้มีผู้เสียชีวิตตามการนับอย่างเป็นทางการเกือบ 7 ล้านคนทั่วโลกจนถึงขณะนี้ โดยเป็นผู้เสียชีวิตจากโควิด-19 ที่มากกว่าล้านคนในสหรัฐฯ อย่างไรก็ดี เจ้าหน้าที่สาธารณสุขและคณะทำงานข่าวกรองสหรัฐฯ ยังคงมีความเห็นที่ต่างกันว่า โควิด-19 อาจแพร่กระจายแบบสุ่มจากสัตว์ที่ติดเชื้อ หรือรั่วไหลระหว่างการวิจัยที่ดำเนินการที่สถาบันไวรัสวิทยาอู่ฮั่น
กระทรวงพลังงานของสหรัฐฯ ซึ่งเป็นหนึ่งในหน่วยงานของสหรัฐฯ ที่สอบสวนกรณีภัยพิบัติ สรุปข้อมูลด้วย “ความมั่นใจที่ต่ำ” ว่าโควิด-19 น่าจะหลุดออกมาจากห้องปฏิบัติการ โดยการคาดการณ์ดังกล่าวได้รับความเห็นด้วยกับการประเมินของ FBI แต่ยังคงขัดแย้งกับข้อสรุปของหน่วยงานอื่นๆ หลายแห่ง
ที่มา: