ไม่พบผลการค้นหา
รองผู้บัญชาการ ปอท. ฝากถึงประชาชน โพสต์ข้อความใน 'วันโกหก' ระวังเข้าข่าย พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ โทษจำคุก 5 ปี

ที่ บก.ปอท. พ.ต.อ.ศิริวัฒน์ ดีพอ รอง ผบก.ปอท. ในฐานะ รองโฆษก สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) กล่าวถึงวัน April Fool's Day หรือ "วันโกหก" ว่า วันนี้ (1 เม.ย.) เป็นธรรมเนียมของฝรั่งจะเล่นมุกตลกและเรื่องหลอกลวงต่อกัน แล้วออกมาเฉลยในวันต่อมาโดยไม่ถือโทษโกรธกันว่า ฝากประชาสัมพันธ์ถึงพี่น้องประชาชนว่า ให้คำนึงระมัดระวังการแชร์ข้อมูลข่าวสาร เนื่องจากในช่วงเวลานี้ บ้านเมืองเรายังถือว่าอยู่ในช่วงเฝ้าระวังการแพร่ระบาดไวรัสโควิด-19 ประกอบกับพี่น้องประชาชนมีการเข้าถึงสื่อสังคมออนไลน์มากขึ้น 

จึงขอเตือนว่าอย่าโพสต์หรือแชร์เรื่องราวอะไรที่ไม่เป็นความจริง แล้วมาอ้างว่าเป็นการล้อเล่นในวันโกหกในลักษณะข่าวปลอม (Fake News) ที่ทำให้ผู้อื่นเสียหาย ได้รับความอับอาย โดยเฉพาะเรื่องที่เกี่ยวข้องกับการแพร่ระบาดโควิด-19 หรือในประเด็นอื่นที่ทำให้ประชาชนเกิดความตื่นตระหนก ซึ่งในเรื่องนี้มีกฎหมายควบคุมอยู่อย่างชัดเจน จึงขอความร่วมมือพี่น้องประชาชนหากจะร่วมสนุกด้วยการโกหกก็ขอให้เป็นไปอย่างสร้างสรรค์และไม่ละเมิดกฎหมาย


คุกหนัก 5 ปี 

หากฝ่าฝืนมีโทษจำคุกและเสียค่าปรับ ตามความผิด พ.ร.บ.ว่าด้วยการกระทำความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ.2560 มาตรา 14 (1) นำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ที่บิดเบือน หรือปลอมไม่ว่าทั้งหมดหรือบางส่วน หรือข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จ โดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหาย แก่ประชาชน

มาตรา 14 (2) ผู้ใดนำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จ โดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหายต่อการรักษาความมั่นคงปลอดภัยของประเทศ ความปลอดภัยสาธารณะ ความมั่นคงในทางเศรษฐกิจของประเทศหรือโครงสร้างพื้นฐานอันเป็นประโยชน์สาธารณะของประเทศ หรือก่อให้เกิดความตื่นตระหนกแก่ประชาชน มาตรา14(5) ผู้ใดเผยแพร่หรือส่งต่อซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ดังกล่าวข้างต้น ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 5 ปี หรือปรับไม่เกินหนึ่งแสนบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ


อย่าหลงเชื่อผู้ไม่หวังดี

รอง โฆษก ตร. กล่าวด้วยว่า มีผู้ไม่หวังดีพยายามปล่อยข่าวปลอมในหลายประเด็น เพื่อหวังให้ประชาชนเกิดความสับสนและตื่นตระหนกจึงฝากพี่น้องประชาชนใช้วิจารณญาณให้มากๆ ก่อนที่จะเชื่อและแชร์ข้อมูลโดยเฉพาะในสื่อสังคมออนไลน์ ซึ่งจะได้มีการบังคับใช้กฎหมายกับผู้กระทำความผิดดังกล่าว ตามนโยบายของรัฐบาลและสำนักงานตำรวจแห่งชาติด้วย รองโฆษก ตร.