ชัยรัตน์ ไตรรัตนจรัสพร ประธานสภาอุตสาหกรรมท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (สทท.) คาดว่า ในไตรมาสที่ 4/2563 ไทยจะมีนักท่องเที่ยวต่างชาติเหลือเพียง 5 หมื่นคน ลดลงจากช่วงเวลาเดียวกันของปี 2562 ที่ 99.52% และคาดว่าจะมีรายได้จากนักท่องเที่ยวต่างชาติ 4,500 ล้านบาท ลดลง 99.11% ขณะที่ภาพรวมปี 2563 จะมีนักท่องเที่ยวต่างชาติประมาณ 6.7 ล้านคน ลดลง 83.07% มีรายได้จากนักท่องเที่ยวต่างชาติ 3.36 แสนล้านบาท ลดลง 82.59% ซึ่งจะเป็นปัจจัยสำคัญที่ทำให้ผู้ประกอบการภาคการท่องเที่ยวยังคงได้รับผลกระทบอย่างต่อเนื่อง ซึ่งเฉพาะภาคโรงแรมที่เริ่มเปิดรับนักท่องเที่ยวบางส่วนแต่ก็ต้องกลับไปปิดอีกรอบ หลังจากนักท่องเที่ยวไทยเดินทางน้อยกว่าที่คาดการณ์ไว้ แม้จะมีมาตรการกระตุ้นกรท่องเที่ยวจากภาครัฐ
โดยประธาน สทท. ประเมินว่า จากสถานการณ์การท่องเที่ยวที่เกิดขึ้น คาดว่าในช่วงปลายปีนี้จะได้เห็นผู้ประกอบการโรงแรมทยอยปิดกิจการต่อเนื่องและจะมีคนตกงานเพิ่มอีกเป็นจำนวนมาก โดยแรงงานเฉพาะภาคการท่องเที่ยวปัจจุบันอยู่ที่ 4.2 ล้านคน ในจำนวนนี้ 5 แสนคนตกงานไปแล้วแน่นอน และคาดว่าภายในสิ้นปีนี้จะตกลงเพิ่มอีกกว่า 5 แสนคน หรือรวมแรงงานภาคการท่องเที่ยวตกงานนับล้านคนในปีนี้
ดัชนีความเชื่อมั่นผู้ประกอบการท่องเที่ยวดีขึ้น แต่ยังอยู่ในเกณฑ์น่าห่วง
ขณะที่ดัชนีความเชื่อมั่นผู้ประกอบการท่องเที่ยวในไตรมาส 3/2563 ซึ่งเป็นการสำรวจความคิดเห็นของผู้ประกอบการท่องเที่ยว 700 ราย อยู่ที่ระดับ 60 ปรับตัวเพิ่มขึ้นเมื่อเที่ยบกับไตรมาสที่ผ่านมาที่ระดับ 37 สะท้อนถึงสถานการณ์การท่องเที่ยวที่ดีขึ้น แต่ยังถือว่าอยู่เกณฑ์น่าเป็นห่วง หรือต่ำกว่าระดับปกติที่ 100
ทั้งนี้ จากการสำรวจความคิดเห็นของผู้ประกอบการด้านการท่องเที่ยว พบว่า ต้องการการสนับสนุนจากภาครัฐ โดยเฉพาะการเยียวยาและฟื้นฟูอุตสาหกรรมท่องเที่ยว ด้วยการส่งเสริมการเดินทางท่องเที่ยวของชาวต่างชาติ, จัดตั้งธนาคารเพื่อการท่องเที่ยวหรือกองทุนฟื้นฟูผู้ประกอบการด้านการท่องเที่ยวและบริการเป็นการเฉพาะ, กระตุ้นการท่องเที่ยวในประเทศของคนไทย และสนับสนุนให้เกิดการเดินทางท่องเที่ยวภายในประเทศแบบเป็นหมู่คณะ รวมถึงการออกมาตรการเพื่อการแบ่งเบาภาระค่าใช้จ่ายของผู้ประกอบการต้องให้มีความต่อเนื่อง ทั้งการยกเว้นค่าธรรมเนียม, มาตราการทางภาษีในด้านต่างๆ และสนับสนุนให้ผู้ประกอบการเข้าถึงแหล่งเงินทุน
เตรียมทวงนายกฯ ช่วยเหลืออีกรอบ หลังไร้แววมาตรการต่อลมหายใจ
ประธาน สทท. ระบุว่า ขณะนี้ให้ทุกสมาคมในภาคการท่องเที่ยวกลับไปทำข้อเสนอด้านมาตรการช่วยเหลือเพื่อเตรียมรวมตัวขอพบนายกรัฐมนตรีเร็วๆ นี้ เสนอมาตรการช่วยเหลือผู้ประกอบการให้มีความคืบหน้ามากยิ่งขึ้น ทั้งในเรื่องของการจ่ายเงินช่วยเหลือประกันสังคม สินเชื่อดอกเบี้ยต่ำ หรือ ซอฟต์โลนที่ผู้ประกอบการยังเข้าไม่ถึง รวมถึงการจัดตั้งกองทุนแสนล้านช่วยเหลือผู้ประกอบการเอสเอ็มอีภาคการท่องเที่ยวด้วย
“ทุกวันนี้แต่ละสมาคมไม่อยากไปคุยกับรัฐบาลแล้ว พวกเราเสนอแสดงความคิดเห็นไปหมดแล้ว รัฐรับฟังก็จริง แต่ก็หายเงียบ ทั้งเรื่องเยี่ยวยา เรื่องดูแลผลกระทบ เขาบอกว่ารัฐบาลมีลูกหลายคน ท่องเที่ยวเป็นเพียงแค่ลูกหนึ่งคน จะช่วยคนเดียวไม่ได้” ชัยรัตน์ กล่าว
ส่วนโครงการ ‘เราเที่ยวด้วยกัน’ แม้ว่าจะส่งผลให้เกิดการตุ้นให้เกิดการใช้จ่ายด้านการท่องเที่ยวในประเทศ แต่การใช้จ่ายในภาพรวมยังมีไม่มากนัก ดังนั้นเห็นว่ารัฐบาลควรปรับเงื่อนไขให้นักท่องเที่ยวมีความสะดวกมากขึ้นที่จะเข้าร่วมโครงการ ทั้งการเพิ่มส่วนลดค่าห้องพักในช่วงวันธรรมดาจูงใจไห้เพิ่มยอดการท่องเที่ยวและเพิ่มเงื่อนไขการท่องเที่ยวแบบเป็นหมู่คณะผ่านบริษัททัวร์ หรือ ปรับรูปแบบจากการดำเนินการผ่านแอปพลิเคชัน ‘เป๋าตัง’ มาเป็นการแจกเป็นคูปองการท่องเที่ยวโดยตรงให้กับประชาชนแทน
‘เคทีซี’ เผยคนไทยใช้จ่ายผ่านบัตรโหมดท่องเที่ยวลดวูบ ยังไม่พบสัญญาณฟื้น
เจนจิต ลัดพลี ผู้อำนวยการการตลาดเพื่อการท่องเที่ยวและสันทนาการ บริษัท บัตรกรุงไทย จำกัด (มหาชน) หรือ เคทีซี เปิดเผยว่า พฤติกรรมการใช้จ่ายหมวดท่องเที่ยวของคนไทย ทั้งในส่วนของโรงแรม สายการบิน ทัวร์ รวมถึงการเดินทาง ที่มีสัดส่วนประมาณ 10% ของการใช้จ่ายผ่านบัตรทั้งหมด หรือมูลค่าการใช้จ่ายกว่า 18,000 ล้านบาทต่อปี ตั้งแต่ที่มีการแพร่ระบาดของโควิด-19 ส่งผลกระทบโดยตรงกับการใช้จ่ายในหมวดนี้ ซึ่งหายไปมากกว่าครึ่ง สะท้อนให้เห็นว่าคนยังชะลอการใช้จ่าย แม้ว่ารัฐบาลจะพยายามการกระตุ้นมาตรการไทยเที่ยวไทยผ่านทั้ง ‘เราเที่ยวด้วยกัน’ หรือ เพิ่มวันหยุดยาว โดยขณะนี้ยังไม่พบสัญญาณฟื้นตัวอย่างมีนัยสำคัญ