วันที่ 23 ธ.ค. 2565 อนุรักษ์ บุญศล ส.ส.สกลนคร พรรคเพื่อไทย เปิดเผยว่า กรณีที่พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และ รมว.กลาโหม เปิดทางให้คณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน หรือ กกพ. ปรับค่าไฟฟ้าผันแปร หรือ ค่าเอฟที ขึ้น 68.66 สตางค์ต่อหน่วย มาอยู่ที่ 93.43 สตางค์ต่อหน่วย ส่งผลให้ค่าไฟฟ้าเฉลี่ย ที่เรียกเก็บ กับประชาชน ในงวด เดือนก.ย.-ธ.ค.2565 ขึ้นมาอยู่ที่ 4.72 บาทต่อหน่วย จากงวดปัจจุบันเดือนพ.ค.-ส.ค.อยู่ที่ ประมาณ 3.79 บาทต่อหน่วย นับเป็นอัตราค่าไฟฟ้าสูงสุดเป็นประวัติการณ์
การปรับขึ้นราคาค่าไฟในครั้งนี้สร้างความวิตกกังวลให้กับประชาชน เพราะสภาพเศรษฐกิจที่ล่มสลาย ส่งผลให้รายได้ประชาชนลดลง ค่าไฟที่ปรับขึ้นมาคือปัญหาใหญ่ของประชาชน ทั้งนี้การไฟฟ้าไม่มีการลดหย่อน ไม่จ่ายเพียงวันเดียวให้เจ้าหน้าที่ยกหม้อไฟฟ้าไป ทำให้ชาวบ้าน ไม่มีไฟฟ้าจะทำอาหารให้ลูกๆกิน รวมทั้งยังต้องเสียค่าติดตั้งไฟใหม่อีก 100 บาท การปรับขึ้นค่าไฟฟ้าของรัฐบาลจึงเป็นการซ้ำเติมประชาชน
อนุรักษ์ กล่าวด้วยว่า พล.อ.ประยุทธ์บริหารผิดพลาดใช้นโยบายประชานิยมแบบผิดๆ ส่งผลให้กระแสเงินสดของ กฝผ.ติดลบมากกว่า 150,000 ล้านบาท เพราะพล.อ.ประยุทธ์กังลว่า หากให้มีการ ปรับราคาค่าไฟฟ้าตามรอบจะกระทบกับคะแนนความนิยม ดังนั้นจึงให้ กฝผ. แบกรับภาระแทนพี่น้องประชาชน จนสร้างปัญหาให้กับกฝผ. พรรคฝ่ายค้านเคยแนะนำให้ รัฐบาลเจรจากับผู้ผลิตไฟฟ้าเอกชน เพื่อขอลดค่าไฟ พร้อมจ่ายแต่รัฐบาลไม่ทำปล่อยให้นายทุนไฟฟ้ารวยเพิ่มขึ้น กลับมารีดเงิน จากประชาชนแทน
“พล.อ.ประยุทธ์คงไม่รู้สึกอะไร เพราะทุกวันนี้ พล.อ.ประยุทธ์ อาศัยอยู่บ้านหลวงหลังใหญ่ มีคนรับใช้ตลอด 24 ชั่วโมง ฟรีทุกค่าใช้จ่าย ทั้งน้ำ ไฟฟ้า แม้กระทั่งค่าน้ำมันรถก็ใช้งบหลวง จึงไม่ทราบว่าประชาชน ต้องลำบากแค่ไหนในการหาเงินมาจ่ายค่าไฟฟ้า ดังนั้นจากปัจจัยการบริหารงานที่ผิด พลาดของรัฐบาล จึงหาทางออกโดยการโยนภาระให้ประชาชนต้องรับกรรมที่ไม่ได้ก่อ หลายรัฐบาลคิดแต่จะเพิ่มเงินให้ประชาชน ต่างจากจาก พล.อ.ประยุทธ์ คิดแต่จะล้วงเงินในประเป๋าประชาชน ที่เอาไว้จ่ายให้ลูกไปโรงเรียน พล.อ.ประยุทธ์ไม่สงสารประชาชนบ้างหรือ ”อนุรักษ์ กล่าว