วันที่ 12 ก.ค. 2566 ที่พรรคเพื่อไทย แพทองธาร ชินวัตร แคนดิเดตนายกฯพรรคเพื่อไทย กล่าวถึงกรณีที่คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) เรื่องให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยถือหุ้น บมจ.ไอทีวี พร้อมขอให้มีคำสั่งหนุกปฏิบัติหน้าที่ ส.ส. ว่า ตนให้กำลังใจ พิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกล มาเสมอ และขอให้ผู้ที่เกี่ยวข้องในกระบวนการดำเนินการ ในส่วนกระบวนการของ กกต.ที่ถูกมองว่าเร่งรัดจนเกินไปนั้น ตนเองไม่ค่อยแม่นในเรื่องกระบวนการทางกฎหมาย ว่าช้าหรือเร็วไปหรือไม่ ขอยังไม่แสดงความคิดเห็น แต่เราก็ยังจะเดินหน้าเสนอชื่อ พิธา เป็นนายกรัฐมนตรี คนที่ 30 ในที่ประชุมรัฐสภา ได้เหมือนเดิม โดยไม่กระทบอะไร 

เมื่อถามถึงความชอบธรรม ของ ส.ว. ในการโหวตพิธา หลังจากที่ กกต.ยื่นคำร้อง แพทองธาร ตอบว่า เป็นความเห็นของ ส.ว. แต่ก็อยากให้ยึดการตัดสินใจของประชาชน ที่เลือกมาแล้ว ดังนั้น ขอให้รอดูวันพรุ่งนี้ (13 ก.ค.)

เมื่อถามถึงความกังวล ของกระแสมวลชน ที่นัดชุมนุมหน้าอาคารรัฐสภา ในวันพรุ่งนี้ แพทองธาร ตอบว่า อยากให้มุ่งหน้าในเรื่องของการทำให้ประเทศขับเคลื่อนไปข้างหน้า อยากมองภาพใหญ่ แต่ในรายละเอียดต่างๆ ก็ให้ส่วนที่เกี่ยวข้องว่ากันไป “ขอพูดประมาณนี้ละกัน” 

เมื่อถามอีกว่า จนถึงวันนี้ พรรคเพื่อไทย ยังคงสนับสนุน พิธา เป็นนายกฯ อยู่หรือไม่ แพทองธาร ตอบทันทีว่า “ใช่ค่ะ” ต่อคำถามถึงกรณีหากศาลรัฐธรรมนูญ อยู่ระหว่างการพิจารณารับคำร้อง จะกระทบต่อการโหวต ในวันพรุ่งนี้ พรรคเพื่อไทยมองเรื่องนี้อย่างไร แพทองธาร ตอบว่า ให้กรรมการบริหารพรรคตอบดีกว่า “อิ๊งค์ยังไม่อยู่ในจุดที่จะให้ความเห็นเรื่องนี้” 

เมื่อถามถึงกรณีการกลับบ้านของ ดร.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ว่าจะกลับเมื่อไหร่ โดย แพทองธารตอบทันทีว่า “เรื่องนี้อิ๊งค์ตอบได้เต็มปาก เพิ่งได้คุยกับ ดร.ทักษิณ เมื่อคืนนี้ ดร.ทักษิณ บอกว่า เวลาอาจจะเหลื่อมกับที่บอกไว้ไม่มาก แต่ไม่อยากให้ประเด็นทางการเมืองที่ยังไม่นิ่ง มากระทบ ถึงแม้คุณพ่อย้ำว่า เราไม่เกี่ยวข้อง แต่ยังไงคนก็มองว่าเป็นการเมือง ก็ไม่อยากให้ถูกมองว่าเป็นส่วนหนึ่งของปัญหา ถ้าจะกลับมาแล้วแก้ปัญหาได้จะดีกว่า ในช่วงที่การเมืองยังไม่สงบ แล้วจะทำให้การเมืองวุ่นวาย ดร.ทักษิณ ไม่อยากให้เป็นอย่างนั้น ซึ่งตนคิดว่า ระยะเวลาอาจจะบวก-ลบไม่เยอะ” 

เมื่อถามว่า กลับมาแน่ๆ ใช่หรือไม่ แพทองธาร ยืนยันว่า กลับมาแน่ๆ แต่ถ้าไม่ใช่เดือน ก.ค. ก็คงไม่นานกว่านั้นเยอะ ต้องดูก่อนว่าพรุ่งนี้ (13 ก.ค.) สถานการณ์จะจบลงอย่างไร

ถามว่า จะกลับมาหลังจากตั้งรัฐบาลเรียบร้อยแล้วใช่หรือไม่ แพทองธาร ตอบว่า คุณพ่อไม่ได้พูดในส่วนนี้ แต่ขอให้นิ่งกว่านี้หน่อย จะได้ไม่เป็นตัวกระตุ้นทางการเมือง ซึ่งปัจจัยหลัก ก็คือสถานการณ์ทางการเมือง เพราะกลับมายังไงก็เป็นประเด็น เราไม่อยากให้วุ่นวาย คุณพ่อก็เป็นห่วงประเทศชาติ อยากให้ตั้งรัฐบาลให้เสร็จ โหวตนายกฯให้จบ นิ่งพอสมควรแล้วดีกว่า มิเช่นนั้นจะเป็นปัจจัยทางการเมือง

เมื่อถามว่า มีแผนสำรองหรือไม่ หากโหวตพิธา ไม่สำเร็จ เพราะเพื่อไทย ก็เป็นหนึ่งในพรรคที่สามารถเสนอชื่อแคนดิเดตนายกฯได้เช่นกัน แพทองธาร ตอบว่า เราจะพยายามทำปัจจุบันให้ดีที่สุด และจะเป็นอย่างไรต่อ ก็ขอให้ดูวันพรุ่งนี้ เราจะได้เห็นอะไรที่ชัดมากยิ่งขึ้น ซึ่งถ้าตนพูดอะไรล่วงหน้า แม้เพียงวันเดียว ก็ยังเร็วไป และหวังว่าจะได้นายกรัฐมนตรีคนใหม่ ในวันพรุ่งนี้ และเราก็ต้องเต็มที่

ส่วนกรณีที่ ส.ว.มองว่า หากโหวตรอบแรกไม่ผ่าน ก็ไม่ควรเสนอชื่อซ้ำอีก แพทองธาร ตอบว่า ก็เป็นเพียงความเห็นของ ส.ว. เราควรดูทั้งภาพรวมมากกว่า ไม่ใช่ว่าพอ ส.ว.พูด แล้วทุกอย่างไปแบบนั้น เราต้องดูว่าเหตุการณ์จริง เป็นอย่างไร ตรงนั้นสำคัญกว่า และหลังจากนี้ 8 พรรคร่วม จะต้องคุยกันอย่างแน่นอน แม้ว่าผลจะออกมาเป็นอย่างไรก็ตาม 

เมื่อถามถึงกรณีที่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและ รมว.กลาโหม ประกาศวางมือทางการเมือง ลาออกจากทุกตำแหน่งในพรรครวมไทยสร้างชาติ แพทองธาร ตอบว่า เป็นเรื่องที่ดี เพราะท่านก็ทำงานมานาน ถ้าจะประกาศพักก็ดี จะได้พักผ่อน เพราะตนเองก็ยังไม่ได้ลาคลอดเลย ส่วนจะส่งผลทางการเมืองหรือไม่นั้น ตนมองว่า คนที่เป็นอดีตนายกฯ หรือ นายกฯ ทุกการเคลื่อนไหว ย่อมส่งผลทั้งนั้น 

เมื่อถามย้ำว่า พิธา ไม่สามารถไปต่อในตำแหน่งนายกฯ ได้จริงๆ พรรคเพื่อไทย พร้อมจะรับไม้ต่อหรือไม่ แพทองธาร เลี่ยงที่จะตอบคำถามนี้ พร้อมกล่าวติดตลกว่า “ไปต่อไม่ได้ เพราะนักข่าวกำลังบล็อกทาง ขอตัวเดินไปซื้อมิ้นต์ช็อกก่อนนะคะ”