ไม่พบผลการค้นหา
'วัฒนา เมืองสุข' มองกรณีพรรคไทยรักษาชาติ เสนอชื่อแคนดิเดตนายกฯ ไม่ใช่การหาเสียง เตือนกกต. ควรพิจารณาตามหลักกฎหมาย

นายวัฒนา เมืองสุข แกนนำพรรคเพื่อไทย โพสต์เฟซบุ๊กระบุว่า ในฐานะเพื่อนร่วมอุดมการณ์ประชาธิปไตย ผมขอเป็นกำลังใจให้กับพรรคไทยรักษาชาติและผู้ที่เกี่ยวข้องในอันที่จะเดินหน้าต่อสู้ต่อไปตามอุดมการณ์ การยืนเคียงข้างประชาชนและไม่เอาด้วยกับเผด็จการที่โกงอำนาจประชาชนคือความสง่างามของพรรคการเมืองและนักการเมือง

"ผมมีความเห็นเหมือนกับนักกฎหมายอีกหลายท่านว่า การกระทำของพรรคไทยรักษาชาติเป็นเพียงขั้นตอนในการเสนอรายชื่อของผู้สมควรดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีอันเป็นไปตามรัฐธรรมนูญจึงไม่ใช่เป็นการหาเสียง" วัฒนา ระบุ

ทั้งนี้ กกต. จะเป็นผู้พิจารณาว่ารายชื่อที่เสนอมานั้นมีคุณสมบัติถูกต้องหรือไม่ หากเห็นว่าไม่เป็นไปตามกฎหมายก็ให้ถือว่าไม่มีการเสนอแต่ไม่ทำให้พรรคการเมืองและผู้ที่เสนอชื่อกลายเป็นผู้กระทำความผิด

สำหรับประเทศไทยเป็นสังคมนิติรัฐ นั่นคือสังคมที่ใข้กฎหมายเป็นหลักในการปกครอง แต่สิ่งที่สำคัญยิ่งคือการบังคับใช้กฎหมายที่จะต้องตรงตามเจตนารมณ์และเป็นไปเพื่อประโยชน์สูงสุดของประชาชนที่เป็นเจ้าของอำนาจ ในบริบทที่ประเทศกำลังเดินหน้าไปสู่การเลือกตั้งอันเป็นการต่อสู้กันระหว่างฝ่ายประชาธิปไตยกับฝ่ายเผด็จการที่ต้องการสืบทอดอำนาจ

ดังนั้นทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องจะต้องตระหนักถึงบรรยากาศการเลือกตั้งที่เสรี เป็นธรรมและตอบสนองต่อเจตนารมณ์ของผู้เป็นเจ้าของอำนาจ องค์กรที่มีหน้าที่เกี่ยวข้องกับการบังคับใช้กฎหมายจะต้องไม่ฉวยโอกาสบิดเบือนกติการับใช้เผด็จการเพื่อตัดทางเลือกของประชาชน

'ศรีสุวรรณ' ยื่น กกต. เสนอศาลรัฐธรรมนูญพิจารณายุบพรรคไทยรักษาชาติ

ด้านนายศรีสุวรรณ จรรยา เลขาธิการสมาคมองค์พิทักษ์รัฐธรรมนูญไทย ยื่นหนังสือถึง กกต. ขอให้ไต่สวนและวินิจฉัย พร้อมกับยื่นต่อศาลรัฐธรรมนูญว่าการกระทำของพรรคไทยรักษาชาติ ที่อาจส่อไปในทางขัดต่อระเบียบของกฎหมายและขัดต่อรัฐธรรมนูญ

จากการที่พรรคไทยรักษาชาติดำเนินการเสนอชื่อทูลกระหม่อมหญิงอุบลรัตนราชกัญญา สิริวัฒนาพรรณวดี มายัง กกต. มีเจตนาเพื่อมุ่งหมายให้สภาผู้แทนราษฎรพิจารณาให้ความเห็นชอบแต่งตั้งเป็นนายกรัฐมนตรี เมื่อวันที่ 8 ก.พ. 2562 เป็นการนำพระบรมวงศานุวงศ์ที่เป็นเจ้าแต่กำเนิดมายุ่งเกี่ยวกับการเมืองโดยชัดแจ้ง เป็นการเสนอชื่อบุคคลซึ่งเป็นผู้ขาดคุณสมบัติ หรือมีลักษณะต้องห้ามตามมาตรา 13 วรรคสอง ประกอบมาตรา 14 (2) ของ พ.ร.บ. ประกอบการเลือกตั้ง ส.ส. ปี 2561

จากหลักฐานและข้อกฎหมาย ถือได้ว่าการกระทำของพรรคไทยรักษาชาติ มีเจตนาที่จะฝ่าฝืนข้อ 17 ของระเบียบ กกต.ว่าด้วยการหาเสียงฯ ประกอบระเบียบ กกต.ว่าด้วยวิธีการหาเสียงฯ ฉบับที่ 2 ปี 2562 กกต.ในฐานะนายทะเบียนพรรคการเมือง จึงต้องดำเนินการตามมาตรา 93 ของ พรป.พรรคการเมืองปี 2560 เพื่อนำไปสู่การยื่นต่อศาลรัฐธรรมนูญเพื่อวินิจฉัย โดย กกต.ควรเร่งดำเนินในเรื่องนี้ เพื่อให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยและมีคำพิพากษาก่อนการเลือกตั้งในวันที่ 24 มี.ค.

ขณะเดียวกัน หัวหน้าพรรคและกรรมการบริหารพรรคไทยรักษาชาติควรแสดงความรับผิดชอบด้วยการลาออกจากตำแหน่งด้วย เพราะเพียงการออกแถลงการณ์คงไม่เพียงพอ ส่วนการเอาผิดกับบุคคลที่สาม หรือมือที่มองไม่เห็น ที่เป็นผู้สั่งการอยู่นอกพรรคนั้น ยอมรับว่ากฎหมายอาจเอาผิดไม่ได้