เมื่อเวลา 14.50 น. วันที่ 26 เม.ย. 2566 ที่สวนยาง โรงเรียนบ้านยางงาม อ.บางกล่ำ จ.สงขลา นายเศรษฐา ทวีสิน แคนดิเดตนายกรัฐมนตรี พรรคเพื่อไทย ให้สัมภาษณ์ภายหลังรับฟังเสียงสะท้อน ปัญหาราคายางพาราจากพี่น้องชาวสวนยางพารา ว่า หากพรรคเพื่อไทยเป็นรัฐบาลเราจะให้ราคายางสูงที่สุดเท่าที่เราจะทำได้ รวมถึงต้องเพิ่มผลิตผลต่อไร่ให้สูงขึ้นอย่างน้อยเท่าหนึ่ง ไปจนถึงการเปิดตลาดใหม่ๆ เราอาจจะต้องเจรจากับผู้ผลิตยางรายใหญ่ 3 ประเทศ คือ เวียดนาม มาเลเซีย และอินโดนีเซีย หากมีการจัดการที่ดีจะสามารถทำให้ยางราคาสูงขึ้นได้ ซึ่งรัฐบาล ดร.ทักษิณ ชินวัตร และยิ่งลักษณ์ ชินวัตร เคยทำมาแล้ว ทั้งนี้ พรรคเพื่อไทยไม่เคยได้ ส.ส.จากที่นี่เลย แต่เราตั้งใจเป็นรัฐบาลของคนไทยทุกคน เราจึงอยากขอแบ่งปันความรักจากพี่น้องภาคใต้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งวันนี้ที่ จ.สงขลา เราอยากปักธงให้พรรคเพื่อไทย ส.ส.สงขลา เข้าไปทำงานให้พี่น้องประชาชน ซึ่งเราก็อยากได้ ส.ส.ในพื้นที่ภาคใต้ให้ได้มากที่สุดเท่าที่สามารถทำได้ แต่เราคงไม่ตั้งเป้าอะไร แต่เราทำงานอย่างหนัก
เมื่อถามว่า ภาคใต้มีพรรคที่อยู่ในใจของคนใต้มานาน การเลือกตั้งครั้งนี้ภาคใต้ก็เป็นพื้นที่ท้าทายของพรรคเพื่อไทยเช่นกัน เศรษฐา กล่าวว่า ท้าทายแน่นอน ท้าทายทุกครั้ง เราเองก็ยอมรับว่าเราเป็นรองอยู่ แต่ด้วยนโยบายทำให้เรามั่นใจว่าครั้งนี้จะถูกใจพี่น้องประชาชนแน่นอน
เมื่อถามถึงการใช้อำนาจรัฐ อำนาจเงินในพี้นที่ภาคใต้ เศรษฐา กล่าวว่า เรามั่นใจในคณะกรรมการเลือกตั้ง (กกต.) ว่าจะดูแลควบคุมตรงนี้ให้ดี สำหรับพรรคเพื่อไทยเราไม่มีนโยบายลักษณะนี้อยู่แล้ว ขณะที่เราเชื่อว่าหากประชาชนเข้าใจนโยบายของพรรคเพื่อไทยถ่องแท้ จะเห็นความตั้งใจจริงของว่าที่ ส.ส.พรรคเพื่อไทย เรามั่นใจว่า เราน่าจะได้ปันความรักจากพี่น้องภาคใต้มาด้วย
เมื่อถามว่า มั่นใจกับตัวผู้สมัครส.ส.เขตของพรรคหรือไม่ เศรษฐา กล่าวว่า มั่นใจในตัวผู้สมัคร ส.ส.เขต ทุกคน จากการที่ได้ลงพื้นที่แล้ว ตนเชื่อว่า ส.ส.ทุกคนทำงานหนักมาก ลงพื้นที่พบปะพี่น้องประชาชนอย่างต่อเนื่อง “ก็หวังอยู่นะครับ”
เมื่อถามถึงกรณี พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯ ระบุ ประเทศไทยต้องใช้กัปตันที่มีประสบการณ์ ตอนนี้ถึงเวลาเปลี่ยนกัปตันคนใหม่ได้หรือยัง เพราะกัปตันคนเดิมอยู่มานานแล้ว โดย เศรษฐา กล่าวว่า ตนก็ให้เกียรติท่าน เพราะท่านเองก็เป็นผู้ใหญ่ในบ้านเมือง ท่านมีวิธีการสื่อสารของท่าน และมีนโยบายของท่านเองที่จะสื่อสารกับพี่น้องประชาชน พรรคเพื่อไทยเราโฟกัสเรื่องของเรา โดยเราตั้งใจที่จะเสนอนโยบายของเรา ตนว่า ช่วงเวลา 8-9 ปีที่ผ่านมาเป็นที่ประจักษ์อยู่แล้วว่าพี่น้องประชาชนต้องการอะไร ดังนั้น วันที่ 14 พ.ค.นี้ เราตั้งใจ และหวังว่าพี่น้องประชาชนเข้าใจว่า หากต้องการอนาคตที่ดีกว่า หวังว่าจะกาพรรคเพื่อไทยทั้ง 2 ใบ