นายปลอดประสพ สุรัสวดี ประธานคณะ กมธ.วิสามัญพิจารณาร่าง พ.ร.บ.แก้ไขเพิ่มเติมพระราชกำหนดการประมง พ.ศ. 2558 พ.ศ. .... และคณะ แถลงข่าวสรุปผลการศึกษาของคณะ กมธ. เมื่อวันที่ 12 ธันวาคม 2567 โดยมอบรายงานฉบับนี้ เป็นของขวัญปีใหม่สำหรับพี่น้องชาวไทย เป็นฝันและขวัญที่ดีให้กับชาวประมงอีกครั้งหลังจากที่ได้การประมงซบเซาและแทบจะสูญหายไปในช่วง 10 ปีที่ผ่านมา คณะ กมธ. ใช้เวลา 10 เดือนในการศึกษาและแก้ไขพระราชกำหนดการประมง พ.ศ. 2558 เนื่องจากทราบดีว่าผลของกฎหมายดังกล่าวทำร้ายชาวประมง จากเดิมที่ไทยเคยเป็นผู้ส่งออกกลายเป็นผู้นำเข้า จากที่เคยมีเรือเป็น 10,000 ลำ เรือจม เรือจมหายไปครึ่งนึง ชาวประมงต้องมีหนี้สิน รัฐบาลตั้งแต่สมัย พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา จึงได้ทำการแก้ไขกฎหมายฉบับนี้มาอย่างต่อเนื่อง จนในวันนี้การศึกษาแก้ไขกฎหมายประมงได้เสร็จสิ้นแล้ว และหวังว่าสิ่งที่ได้ทำในวันนี้จะกู้ชีวิต กู้อาชีพประมงให้กลับขึ้นมาอีกครั้ง โดยจุดยืนของคณะ กมธ. ในการสร้างกฎหมายประมงฉบับใหม่ขึ้นมา เพราะต้องการให้มีกฎหมายสำหรับชาวประมงไทยฉบับใหม่ ซึ่งร่างบนความเป็นอิสระไม่มีภาวะกดดัน หรือบีบบังคับจากฝ่ายใดทั้งสิ้น กฎหมายฉบับนี้เป็นกฎหมายของสภาผู้แทนราษฎร และของสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรทุกคน ทุกพรรคการเมือง เพราะทุกคนมีความเห็นเหมือนกันที่จะให้แก้ไขกฎหมายฉบับนี้ วันนี้เป็นความสำเร็จของพรรคการเมืองทุกพรรค ไม่มีฝ่ายค้านฝ่ายหรือฝ่ายรัฐบาล กฎหมายประมงฉบับใหม่ร่างบนบริบทของการประมงไทย ซึ่งทำสืบต่อกันมา เป็นกฎหมายที่อนุรักษ์รักษาสัตว์น้ำให้กับลูกหลานต่อไปในอนาคต เกิดอาชีพประมงให้ชาวประมงไปจับปลา ไม่ใช่ลักขโมยทรัพยากรแต่ประการใด มีการปรับโทษทั้งหลายที่เกิดจากการกระทำผิดให้เป็นโทษเพื่อสั่งสอน ไม่ใช่โทษประหนึ่งว่าชาวประมงเป็นอาชญากรเพราะนี่ไม่ใช่อาชญากรรม สร้างโอกาสให้ชาวประมงพื้นบ้านมีโอกาสเติบโตเป็นชาวประมงพานิชย์ และกฎหมายฉบับนี้สร้างขึ้นบนข้อมูลทางวิชาการที่แม่นยำที่สุดเท่าที่เรามี
นอกจากนี้ กฎหมายฉบับนี้ยังพยายามเพิ่มพื้นที่ทำมาหากินทั้งในท้องทะเล แม่น้ำลำคลองให้เกิดประโยชน์มากที่สุด ด้วยการลดเขตทะเลชายฝั่งลงโดยไม่ใช่เป็นการทำลายสัตว์น้ำวัยอ่อนแต่ประการใดทั้งสิ้น เป็นการแยกกฎหมายประมงและกฎหมายแรงงานไม่ให้ปะปนกันอย่างที่ผ่านมา ไม่ทำให้ชาวประมงไทยตกเป็นเหยื่อในกฎของประเทศอื่น เป็นการบริหารทรัพยากรภายใต้กฎหมายเพื่ออำนวยความสะดวกแก่ชาวประมง กฎหมายประมงฉบับใหม่นี้จะทำให้ประเทศไทยเป็นประเทศผู้ส่งออกสามารถจับสัตว์น้ำได้มากขึ้น การนำเข้าสัตว์น้ำจากต่างประเทศจะถูกเก็บเงินหากกระทบต่อการบริโภคสัตว์น้ำภายในประเทศ และกระทบราคาของสัตว์น้ำในประเทศ โดยคณะ กมธ. ได้แก้ไขเพิ่มเติม 13 ประเด็น แต่ทั้งหมดนี้ยังไม่สมบูรณ์ จึงฝากให้สภาและรัฐบาลในวันข้างหน้านำข้อสังเกตของคณะกมธ. 12 ประเด็น เพื่อปรับปรุงต่อไป
ทั้งนี้ นายปลอดประสพ สุรัสวดี กล่าวทิ้งท้ายว่า ส่วนตัวแล้วตนคิดว่า การปฏิวัติรัฐประหารและการออกกฎหมายที่ทำร้ายชาวประมงก่อให้เกิดความเสียหายถือเป็นความเสียหาย สิ่งนี้ต้องไม่เกิดขึ้นอีกในประเทศไทย รวมถึงผู้บริหารต้องไม่ก้มหัวให้กับอิทธิพลภายนอก โดยเฉพาะอิทธิพลของชาวต่างชาติหรือคู่แข่งจนเป็นการทำร้ายประเทศตนเองเหมือนที่ชาวประมงถูกทำร้ายอยู่ในขณะนี้ ในขณะที่คนทานปลาก็ถูกทำร้ายด้วยการทานปลาในราคาที่แพงขึ้น การนำผลประโยชน์ของประเทศไปต่อรองในสิ่งที่ตนเองปรารถนา เพื่อความอยู่รอดของตนเองเป็นสิ่งที่ไม่สวยงามและไม่เหมาะสม ตลอด 10 ปีที่ผ่านมา นักวิชาการหลายคนไม่ซื่อตรงต่อหน้าที่ของตนเอง รับใช้สิ่งที่ไม่ถูกต้องจึงทำให้เกิดความเสียหายกับชาวประมง รวมถึงข้าราชการบางคน บางกลุ่ม ก็ใช้กฎหมายอย่างรุนแรงซ้ำเติมชาวประมง สส. ทั้งใหม่และเก่าที่ได้โหวตแก้ไขในวันนั้น ต่างร่วมกันทำงานมาจนถึงวันนี้ เป็นการแสดงความเสียใจกับสิ่งที่ผ่านมา จึงได้แก้ไขและมอบกฎหมายฉบับใหม่ให้กับประชาชน วันนี้ ตนขอเป็นตัวแทนของ สส. ทุกคน มอบรายงานของคณะกมธ. เป็นของขวัญปีใหม่ที่สดใสและเจริญมั่นคงให้กับประเทศไทย ให้กับพี่น้องประชาชนทุกคน และชาวประมงทุกคน เรามีความสดใสอยู่ข้างหน้า ขอให้ชาวประมงตั้งสติกลับมามีอาชีพนี้เหมือนเดิม ด้วยความสุจริต อะไรที่ไม่ดีก็อย่าทำ และประเทศของเราจะกลับมาเป็นเจ้าสมุทรเช่นเดิม