ไม่พบผลการค้นหา
'จุรินทร์' หารือเจ้าหน้าที่ตำรวจ เฟซบุ๊ก ลาซาด้า ช้อปปี้ ไปรษณีย์ไทย ขอป้องกันไม่ให้มีการขาย 'หน้ากากอนามัย' เกินราคาควบคุม ย้ำต้องขายชิ้นละไม่เกิน 2.50 บาท ส่วนนำเข้าบวกเพิ่มได้ไม่เกิน 60% พร้อมมอบกรมการค้าภายใน ตำรวจ ลงพื้นที่ตรวจสอบต่อเนื่อง หากพบการกระทำผิด ให้จัดการตามกฎหมายเด็ดขาด

จุรินทร์ ลักษณวิศิษฎ์ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ ได้ประชุมมาตรการป้องปรามและป้องกันการกักตุนและการขายหน้ากากอนามัยเกินราคาในสถานการณ์วิกฤติโควิด-19 รอบใหม่ มีนายบุณยฤทธิ์ กัลยาณมิตร ปลัดกระทรวงพาณิชย์ วัฒนศักย์ เสือเอี่ยม อธิบดีกรมการค้าภายใน พล.ต.ต.วิชัย สังข์ประไพ ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ พ.ต.อ.สุธีร์ มัลลิกะมาลย์ ผู้กำกับ (สอบสวน) กองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (บก.ปอท.) พ.ต.ท. ปริญญา ปาละ รองผู้กำกับการสอบสวนกองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับการคุ้มครองผู้บริโภค (บก.ปคบ.) บริษัท เฟซบุ๊ก (ประเทศไทย) จำกัด บริษัท ลาซาด้า จำกัด บริษัท ช้อปปี้ (ประเทศไทย) จำกัด บริษัท ไปรษณีย์ไทย จำกัด เป็นต้น เข้าร่วมหารือ

มัลลิกา บุญมีตระกูล มหาสุข ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ กล่าวว่า ในการประชุมครั้งนี้ จุรินทร์ได้ขอให้ทุกฝ่ายทำหน้าที่ตามกฎหมายอย่างเข้มงวด โดยให้ทุกแพลตฟอร์มออนไลน์ควบคุมร้านค้าหรือผู้โพสต์ขายออนไลน์ในแพลตฟอร์มตนเองอย่างเคร่งครัด ไม่ให้ขายเกินราคาหรือกระทำความผิด เพราะประกาศคณะกรรมการกลางว่าด้วยราคาสินค้าและบริการ (กกร.) เรื่องกำหนดราคาจำหน่ายและการแจ้งข้อมูลหน้ากากอนามัยยังบังคับใช้อยู่ โดยผู้ขายจะต้องขายหน้ากากอนามัย (Surgical mask) ไม่เกิน 2.50 บาทต่อชิ้น หน้ากากนำเข้าจะบวกราคาเพิ่มได้ไม่เกิน 60% ของราคานำเข้า ส่วนหน้ากากผ้าที่ใช้ทดแทน ไม่ได้อยู่ในบัญชีควบคุม

“ได้ขอให้เจ้าหน้าที่ตำรวจ เจ้าหน้าที่กรมการค้าภายใน และทุกแพลตฟอร์มที่ให้บริการออนไลน์ ทำหน้าที่และทำตามกฎหมายอย่างเข้มงวด และต้องไม่ให้เกิดปัญหากับผู้บริโภคและประชาชน พร้อมกับมอบกรมการค้าภายใน สำนักงานตำรวจแห่งชาติ และฝ่ายที่เกี่ยวข้องลงพื้นที่ ทั้งป้องกันและป้องปรามการกระทำความผิดการจำหน่ายเกินราคาหรือกักตุน หากใครพบการกระทำความผิดให้ดำเนินการตามกฎหมายอย่างเด็ดขาด เพื่อไม่ให้เป็นเยี่ยงอย่างและเกิดการเอาเปรียบประชาชน โดยประชาชนที่พบข้อมูลเบาะแสสามารถแจ้งสายด่วน 1569 ได้ทันที” มัลลิกา กล่าว

สำหรับ โทษที่ผู้กระทำความผิดตาม พ.ร.บ.ว่าด้วยราคาสินค้าและบริการ พ.ศ.2542 มีดังนี้ ความผิดการขายเกินราคาควบคุม (มาตรา 25) มีโทษจำคุกไม่เกิน 5 ปี ปรับไม่เกิน 1 แสนบาท ความผิดข้อหาไม่ปิดป้ายแสดงราคาขาย (มาตรา 28) มีอัตราโทษปรับไม่เกิน 1 หมื่นบาท ความผิดข้อหาขายแพงเกินสมควร (มาตรา 29) มีอัตราโทษจำคุกไม่เกิน 7 ปี ปรับไม่เกิน 1.4 แสนบาท และความผิดพ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ มาตรา 14 (1) ต้องมีเจตนาทุจริต โพสต์ข้อมูลเท็จ ผู้ใดกระทําความผิดที่ระบุไว้ดังต่อไปนี้ ต้องระวางโทษจําคุกไม่เกิน 5 ปี หรือปรับไม่เกิน 1 แสนบาท หรือทั้งจําทั้งปรับ


ข่าวที่เกี่ยวข้อง :