ไม่พบผลการค้นหา
'ภูมิธรรม' ปัดตอบทุกกระแสปรับ ครม. บอกยังไม่ได้คุยพรรคร่วมรัฐบาล โยนเป็นอำนาจนายกฯ บอก 'รมต.' มีชื่อหลุด ไม่เสียกำลังใจ ยังมุ่งมั่น​ทำงานอยู่

วันที่ 18 เม.ย. ภูมิธรรม​ เวช​ย​ชัย​ รองนายก​รัฐมนตรี​ และ​รัฐมนตรี​ว่าการ​กระทรวง​พาณิชย์​ กล่าวถึงกระแสข่าวการปรับคณะ​รัฐมนตรี​ (ครม.) ว่า ขณะนี้ยังไม่มีความชัดเจน เป็นเรื่องที่บุคคลภายนอกและสื่อมวลชนคาดเดา อำนาจจริงอยู่ที่นายกรัฐมนตรี ซึ่งนายกรัฐมนตรี ก็แสดงท่าทีชัดเจนหลายเรื่อง ว่ายังไม่พอใจกับการทำงานที่เป็นอยู่ และยังไม่ชัดเจนว่าจะปรับหรือไม่ปรับอย่างไร และเรื่องนี้ก็ไม่ได้มีใครถามท่าน ซึ่งรัฐมนตรีของพรรคร่วมรัฐบาลและพรรคเพื่อไทย ก็ยังคงทำงานอย่างเต็มที่ ทุกคนช่วยกันทำงาน อะไรจะเกิดก็เกิดเอง

เมื่อถามว่า ในฐานะที่เป็นผู้ประสานงานรัฐบาลได้มีการแจ้งพรรคร่วมรัฐบาลแล้วหรือไม่ หลังจากที่นายกรัฐมนตรี ระบุว่าจะมีการหารือกันหลังสงกรานต์ ภูมิธรรม ยืนยันว่า ตอนนี้ยังไม่ได้มีการพูดคุยกับพรรคร่วมรัฐบาล แม้แต่คนเดียว 

ส่วนพรรคร่วมรัฐบาล โดยเฉพาะพลังประชารัฐ (พปชร.) ที่ยังเหลือโควต้าเก้าอี้รัฐมนตรี 1 ตำแหน่งได้มีการแจ้งชื่อเข้ามาแล้วหรือไม่ ภูมิธรรม กล่าวว่า เป็นสิทธิ์ของพรรคพลังประชารัฐในโควต้า​นั้น หากจะเกิดขึ้นก็ให้พรรคพลังประชารัฐเป็นผู้กำหนด และขึ้นอยู่กับแผนรวมทั้งหมด ว่านายกรัฐมนตรีจะตัดสินใจอย่างไร

เมื่อถามว่า หากจะมีการปรับคณะรัฐมนตรี จะปรับเฉพาะพรรคเพื่อไทยหรือทั้งหมด เพื่อให้เหมาะสมกับงาน ภูมิธรรม กล่าวว่า ตอนนี้ยังไม่ได้มีการพูดคุยถึงเรื่องนี้ อย่างเป็นเรื่องเป็นราวชัดเจน มีแค่การฟังข่าว แต่รัฐมนตรีพูดคุยกันว่าเราทำงาน ไม่ได้แคร์ว่าอะไรจะเกิดขึ้นหรือไม่เกิดขึ้น เพราะถือว่าเราทำงานอย่างเต็มที่ ในทุกบทบาทที่ได้รับมอบหมาย ซึ่งก็ขึ้นอยู่กับสถานการณ์และการตัดสินใจของนายกรัฐมนตรี เข้าที่เข้าทางแล้วหรือยัง หากเข้าที่เข้าทางแล้ว ก็ไม่ต้องปรับ ถ้ารู้สึกว่า มีจุดไหนที่ไม่ชัดเจน นายกรัฐมนตรีก็คงต้องตัดสินใจ ซึ่งรัฐมนตรีทุกคนยอมรับหมด แต่ก็ขึ้นอยู่กับนายกรัฐมนตรี เพราะเป็นผู้นำสูงสุดในรัฐบาล จึงต้องเป็นผู้ตัดสินใจ 

เมื่อถามว่า เหมาะสมแล้วหรือไม่ที่จะปรับคณะรัฐมนตรี หรือเหมาะสมแล้วกับการรักษานโยบายของรัฐบาล ภูมิธรรม กล่าวว่า เท่าที่ดูทุกคนทำงานอย่างเต็มที่ ส่วนจะประสบความสำเร็จดีหรือไม่ ก็ต้องเป็นบุคคลภายนอกหรือประชาชนเป็นผู้ตัดสิน แต่ตอนนี้ตนคิดว่าทุกคนมุ่งมั่นทำงาน ไม่น่ามีปัญหาอะไร สำหรับการทำงาน จะทำให้ดีที่สุดได้มากที่สุดอย่างไร ต้องให้นายกรัฐมนตรีเป็นผู้ประเมิน

ส่วนที่มีการคาดเดากัน ว่าจะปรับคณะรัฐมนตรีในช่วงสิ้นเดือนนี้ ภูมิธรรม กล่าวว่า ต้องไปถามนายกรัฐมนตรี พรรคร่วมรัฐบาลยังไม่ได้พูดคุยกัน และยังไม่มีการประชุมกันอย่างชัดเจน

เมื่อถามว่า ขณะนี้ยังไม่ได้มีการประสานมาที่ตนในฐานะที่เป็นผู้ประสานงานรัฐบาลใช่หรือไม่ ภูมิธรรม กล่าวว่า ยังไม่มี ส่วนใหญ่เป็นการพูดคุยกันเรื่องงานเท่านั้น และตอนนี้รัฐมนตรีทุกคนก็ต้องไปเตรียมงานเรื่อง Digital wallet รวมไปถึงนโยบายต่างๆ ว่าจะทำอะไร ต่อเนื่องอย่างไรให้สำเร็จ ใครรับผิดชอบเรื่องอะไร ก็ต้องไปทำเรื่องนั้น 

ทั้งนี้ ภูมิธรรม ยืนยันว่า จิตใจของผู้ที่มีชื่อว่าจะถูกปรับอย่างเข้มแข็ง ยังทำงานแข็งแรงดี ไม่มีปัญหาอะไร เดี๋ยวในที่ประชุมคณะรัฐมนตรีก็คงจะได้พบกัน ไม่น่ามีปัญหาอะไร และไม่น่ารีบร้อนที่จะคิดถึงเรื่องนี้ ยังไม่ต้องรีบร้องตื่นเต้น เห็นมีข่าวมาตั้ง 4-5 วันแล้ว ชักไม่แน่ใจว่าตนจะโดนปรับด้วยหรือไม่ ก่อนจะย้ำว่าไม่น่ามีปัญหาอะไร

เมื่อถามว่า รัฐมนตรีที่มีชื่อก็พาเลทไปพบ ทักษิณ ชินวัตร ที่เชียงใหม่ นั้น ภูมิธรรม กล่าวว่า มีชื่อไม่มีชื่อก็ไป ไปตามความเหมาะสม อย่างนายกรัฐมนตรี ติดภารกิจก็ไปวันหลัง ตนไม่ได้ไป แต่ถ้ามีโอกาสก็จะเข้าไปขอพร


ชงแนวทางแก้รัฐธรรมนูญเข้า ครม. สัปดาห์หน้า

ภูมิธรรม กล่าวถึงการแก้ไขรัฐธรรมนูญว่า ขณะนี้กําลังเตรียมสรุป เพราะศาลรัฐธรรมนูญมีคำวินิจฉัยชัดเจน โดยคาดว่าจะส่งรายงานทั้งหมด เสนอเข้าคณะรัฐมนตรี (ครม.) ในสัปดาห์หน้า

เมื่อถามว่า แนวทางที่จะเสนอเข้า ครม.จะใช้การทําประชามติ 3 ครั้งเหมือนเดิมใช่หรือไม่ ภูมิธรรม กล่าวว่า เป็นแบบเดิมไม่เปลี่ยนแปลง เพราะเราทําด้วยความระมัดระวัง กระบวนการก็จะดำเนินไป ส่วนความเห็นต่างที่มีมากมาย ไม่ต้องกังวลใจ ยืนยันว่าที่ล่าช้า ไม่ใช่เพราะดึงเวลา แต่ต้องการความชัดเจน และเมื่ออํานาจบอกให้ดูหลักการที่เคยทํา เราจึงเลือกทางที่ปลอดภัยที่สุด คือการทำประชามติ 3 ครั้ง ไม่อยากให้ทําผิดและต้องไปเริ่มใหม่ ทั้งนี้ตนจะหารือกันนายกฯ ในวันนี้ หากมีเวลา

เมื่อถามว่า มีข้อกังวลในส่วนกฎหมายประชามติ อาจทําให้การแก้รัฐธรรมนูญไปต่อไม่ได้ จะดำเนินการอย่างไร

ภูมิธรรรม กล่าวว่า ก็เป็นไปตามกระบวนการ เราจะทําให้ดีที่สุด ไม่น่ากังวลใจอะไร เพราะอำนาจอยู่ที่ประชาชน อย่างไรก็ตามการจะทำให้รัฐธรรมนูญเป็นประชาธิปไตยมากขึ้น ต้องขึ้นอยู่กับ 3 ฝ่าย หากจะทําวันนี้ก็มี 2 ทางเลือก ระหว่างทำให้สุดแต่ไม่เกิดผล แต่ถ้าทําแบบที่เราเสนอ แม้จะไม่ได้ถูกใจทุกเรื่อง แต่ก็สามารถทำให้ประชาธิปไตยขยายตัวได้มากขึ้น เป็นประโยชน์หลายอย่าง มีเรื่องที่น่าสนใจกว่าข้อกังวลที่สุดขั้วไป หากเข้าใจจะแก้ปัญหาได้ดีขึ้น