ไม่พบผลการค้นหา
สองแนวทางอันแตกต่างของสอง 'ศูนย์กลางทางการเงินระดับโลก' กับการรับมือโควิด-10

ลีเซียนลุง นายกรัฐมนตรีสิงคโปร์ ประกาศให้คำมั่นกับประชาชนว่าสิงคโปร์พร้อมแล้วที่จะกลับมาทวงตำแหน่ง 'ศูนย์กลางทางการบินระดับโลก' อีกครั้ง หลังเจอผลกระทบจากโควิด-19 ยาวนาน 2 ปี ด้วยการการตัดสินใจผ่อนคลายมาตรการ "อย่างเด็ดเดี่ยว" ซึ่งทุกอย่างสามารถเปลี่ยนแปลงได้หากสถานการณ์เลวร้ายลง

นับตั้งแต่วันที่ 29 มี.ค.เป็นต้นไป ผู้คนในสิงคโปร์จะสามารถรวมตัวกันได้จากเดิม 5 คน เพิ่มเป็น 10 คน ขณะที่การใช้ชีวิตอยู่ภายนอกอาคาร ผู้คนสามารถเลือกได้แล้วว่าจะ 'สวมหน้ากากอนามัย' หรือไม่ เพราะรัฐบาลมองว่าสถานการณ์ตอนนี้อยู่ภายใต้การควบคุมได้แล้ว แต่ยังมีการคงมาตรการสวมหน้ากากเมื่ออยู่ภายในอาคาร

สิงคโปร์ต้องการออกมาตรการที่เอื้อให้อุตสาหกรรมหลักอย่างการท่องเที่ยวนั้นกลับมาได้โดยเร็วที่สุด มาตรการใหม่นี้จะอนุญาตให้ผู้ที่ฉีดวัคซีนครบ 2 โดสแล้วขึ้นไปสามารถเข้าประเทศได้โดยไม่ต้องกักตัว โดยข้อจำกับเกือบทั้งหมดจะถูกยกเลิกเพื่อต้อนรับนักเดินทางกลุ่มนี้เข้าประเทศอีกครั้งมีผลวันแรก 1 เม.ย.

ขณะเดียวกัน พนักงานมากราว 75% ที่ก่อนหน้านี้สามารถทำงานจากที่บ้านได้ ก็จะสามารถกลับมาทำงานที่ออฟฟิศได้ตามปกติ ขณะที่มาตรการสำหรับการจัดงานอีเวนต์ขนาดใหญ่จะมีการปรับอนุญาตให้ผู้คนเข้าร่วมงานได้สูงสุด 75% ของความจุของพื้นที่


ฮ่องกงติดเชื้อเพิ่ม 1 ล้าน อัตราเสียชีวิตสูงสุด

ด้านแคร์รี หล่ำ ผู้บริหารสูงสุดของเขตปกครองพิเศษฮ่องกง ถูกสื่อมวลชนตั้งคำถามว่าจะมีการปรับนโยบายสอดคล้องกับสิ่งที่ผู้นำสิงคโปร์ได้ออกมาแถลงหรือไม่ สิ่งที่หล่ำตอบไปยังผู้สื่อข่าวก็คือ "นั่นช่างเป็นคำถามที่ไร้ความหมาย" ก่อนจะตอบว่าฮ่องกงมีแนวทางของตัวเอง

"ฉันพูดมาหลายครั้งในหลากหลายโอกาสว่ามาตรการรับมือโควิดของแต่ละรัฐบาลมีความแตกต่างกัน และฉันไม่คิดว่าแนวทางใดแนวทางหนึ่งจะมีความเหมาะสมสำหรับทุกประเทศได้"

การระบาดระลอกล่าสุดในฮ่องกงมีผู้คนติดเชื้อใหม่ทะลุ 1 ล้านคน หรือ 15% ของประชากร และมีอัตราการตายต่อประชากรที่สูงที่สุดในโลกเพราะอัตราการฉีดวัคซีนในกลุ่มผู้สูงอายุที่ต่ำมาก 

หล่ำยังชี้ด้วยว่ามาตรการโควิดเป็นศูนย์จะยังดำเนินต่อไป และอาจจะมีการประกาศคลายมาตรการและข้อจำกัดลงหลังจากจากวันที่ 21 เม.ย.หากสถานการณ์เริ่มปรับตัวดีขึ้น โดยจะประกาศการผ่อนคลายมาตรการ 'เว้นระยะห่างทางสังคม' อย่างเป็นระบบใน 3 เฟสตลอด 3 เดือน 

เมื่อถูกถามว่า "ตอนนี้สิงคโปร์ได้แย่งตำแหน่งศูนย์กลางทางการเงินของภูมิภาคไปแล้วใช่หรือไม่" ผู้นำฮ่องกงกล่าวว่า "ฮ่องกงยังคงเป็นศูนย์กลางทางการเงินและการบินระดับโลก และยังคงเป็นสถานที่ที่เหมาะแก่การทำงานและใช้ชีวิตของผู้คน"