วันที่ 15 เม.ย 2556 ที่ อ.บ้านโป่ง จ.ราชบุรี เศรษฐา ทวีสิน แคนดิเดตนายกรัฐมนตรีพรรคเพื่อไทย และประธานที่ปรึกษาหัวหน้าครอบครัวเพื่อไทย จักรพงษ์ แสงมณี นายทะเบียนพรรคเพื่อไทย ลิณธิภรณ์ วริณวัชรโรจน์ รองเลขาธิการ และรักษาการโฆษกพรรคเพื่อไทย
ขัตติยา สวัสดิผล ผู้สมัคร ส.ส.แบบบัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย พร้อมด้วย ชะวรลัทธิ์ (แจ๊คกี้) ชินธรรมมิตร ผู้สมัคร ส.ส.ราชบุรี พรรคเพื่อไทย เขต 4 เบอร์ 7 เดินตลาดเทศบาลป่านโป่ง เพื่อพบปะและขอเสียงประชาชนบ้านโป่ง โดยแม่ค้าได้แซว เศรษฐาว่า “หล่ออะไรอย่างนี้ ตัวจริงหล่อ หล่อกว่าในทวี แพ้ความหล่อ” ทำให้เศรษฐายิ้มเขิน
ขณะที่บางคนเดินเข้ามาจับมือ แล้วบอกว่า “ขอจับมือคนรวยหน่อย อยากรวยบ้าง” ซึ่งเศรษฐาได้ฝากเลือก ส.ส.ของพรรคเพื่อไทย เบอร์ 7 และเลือกพรรคเพื่อไทย เบอร์ 29 ด้วย แล้วคนไทยทุกคนจะรวยขึ้น
ขณะเดินหาเสียงภายในตลาดอยู่นั้น แม่ค้าขายข้าวเหนียวมะม่วงได้เรียก เศรษฐาให้เข้าไปชิมข้าวมะม่วง ซึ่ง เศรษฐา ก็ได้เข้าไปแวะชิม พร้อมบอกว่า “อร่อยมากๆครับ มะม่วงอกร่อง หวานมัน เข้ากันได้ดีครับ ข้าวเหนียวมะม่วงถือเป็น ซอฟต์พาวเวอร์หนึ่งของไทยเราด้วย” นอกจากนี้ ยังมีประชาชน เข้ามาให้กำลังใจเศรษฐา พร้อมบอกว่าขอให้เศรษฐาได้เป็นนายกฯ และมาเที่ยวตลาดบ้านโป่ง
สำหรับบรรยากาศการเดินตลาดบ้านโป่ง เศรษฐาและพรรคเพื่อไทยได้รับการตอบรับจากพี่น้องประชาชนเป็นอย่างมาก หลายคนเข้ามาขอถ่ายภาพ มอบดอกไม้ และทักทายให้กำลังใจ อย่างไรก็ตามเป็นที่น่าสังเกตว่า เมื่อ เศรษฐาเดินผ่านจุดใด พ่อค้าแม่ค้าที่ตลาดบ้านโป่งจะพูดว่า ใช่พรรคที่จะเติมเงินในกระเป๋า 10,000 ใช่หรือไม่ ขณะเดียวกัน ก็มีประชาชนตะโกนเรียก เศรษฐา ว่า “นายกฯ” ตลอดทาง
จากนั้นเวลา 12.40 น. เศรษฐา พร้อมด้วย ชะวรลัทธิ์ และคณะ เดินทางมาพบพี่น้องประชาชน อ.บ้านโป่งประมาณ 2,000 คน ที่หอประชุม อาคารอารีน่า อำเภอบ้านโป่ง โดยเศรษฐาได้สรงน้ำพระ ก่อนจะรดน้ำขอพรผู้สูงอายุเนื่องในวันผู้สูงอายุ และเทศกาลสงกรานต์
จากนั้น เศรษฐา กล่าวต่อหน้าประชาชนว่า ช่วงสงกรานต์อยากเดินทางไปพบพี่น้องประชาชนให้ได้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้ วันนี้ดีใจมาก ตอนแรกทราบว่าพี่น้องจะมา 700-800 คน แต่พอมาจริงมากว่า 2,000 คน ทั้งนี้ ตลอดช่วง 8 ปีที่ผ่านมาเป็นช่วงเวลาที่พี่น้องประชาชนทุกข์ทรมาน
ซึ่งรัฐบาลที่ผ่านมามีเวลาถึง 8 ปี แต่กลับทำให้เราต้องทนอยู่ในสถานการณ์แบบปัจจุบันที่รายได้ลด รายจ่ายเพิ่ม PM 2.5 วิกฤติ และประชาชนไม่มีสิทธิเลือกทำอาชีพที่ตนอยากทำ ดังนั้น พรรคเพื่อไทย เราสนับสนุนให้พี่น้องประชาชนมีสิทธิเลือกประกอบอาชีพ
เศรษฐา ย้ำว่า การเป็นทหารก็เช่นกัน เราต้องการให้พี่น้องมีสิทธิเลือก และสมัครใจเกณฑ์ทหาร นอกจากนี้ สังคมไทยกำลังเข้าสู่สังคมผู้สูงอายุ คนที่เกษียณอายุแล้วเก็บเงินได้ไม่พอเลี้ยงดูตนเอง พรรคเพื่อไทยจะสนันสนุนตรงนี้ และจะต้องส่งเสริมให้ลูกหลานไทยมีศักยภาพในการเลี้ยงดูตัวเอง และครอบครัวด้วย
ต่อมาคือเรื่องเศรษฐกิจ อัตราการเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจ (จีดีพี) ของไทย เติบโตเพียง 2.3% ต่ำกว่าค่าฝุ่น PM 2.5 เสียอีก พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีคนปัจจุบัน เกือบเรียกได้เต็มปากว่าไม่เคยเดินทางไปเปิดตลาดสินค้าให้คนไทยเลย
“ไม่รู้ว่าเพราะพูดภาษาอังกฤษไม่ได้ หรือไม่สนใจเลย แต่ถ้าได้นายกฯมาจากพรรคเพื่อไทย ไม่ว่าคนใด เราตกลงกันแล้วว่าจะออกไปเปิดตลาดสินค้าให้พี่น้องประชาชน” เศรษฐา ระบุ
อย่าให้ใครมาด้อยค่านโยบายกระเป๋าเงินดิจิทัล
เศรษฐา กล่าวอีกว่า สำหรับนโยบายกระเป๋าเงินดิจิทัล (Digital Wallet) ที่มีคนกล่าวถึงอย่างมากนั้น เรายืนยันที่จะเติมเงินใส่กระเป๋าให้พี่น้องประชาชนที่อายุ 16 ปีขึ้นไป คนละ 10,000 บาท และต้องใช้ให้หมดภายใน 6 เดือน ในระยะทาง 4 กิโลรอบที่อยู่ตามบัตรประชาชน ทั้งนี้อย่าให้ใครมาด้อยค่านโยบายนี้ อย่าให้ใครมาบอกว่านโยบายนี้เราไม่ดี เพราะเราคิดทุกอย่างมาอย่างรอบคอบแล้วทั้งหมด
“ถ้าเปรียบกับนโยบายบางพรรคที่จ่ายให้ท่าน 500-700 บาทต่อเดือน แบบนั้นจะเอาไปทำอะไรได้ เหมือนการหยอดน้ำข้าวต้มไปวันๆ แต่ที่พรรคเพื่อไทยให้ เราให้เอาพี่น้องเอาไปตั้งตัวได้ และหากครอบครัวใดที่มีรายได้ไม่ถึง 20,000 บาทต่อเดือน เราเติมให้จนถึง”เศรษฐา ระบุ
เศรษฐา ระบุว่า ที่สำคัญเรามีนโยบาย 30 บาทรักษาทุกโรค ซึ่งเราจะต่อยอดให้ครอบคลุมมากยิ่งขึ้น ตั้งแต่นี้ บัตรประชาชนใบเดียวก็รักษาได้เลย แต่นโยบายเหล่านี้เราจะทำได้ก็ต่อเมื่อพี่น้องเลือกเราทั้งคน ทั้งพรรคถ้าเบอร์พรรคก็เบอร์ 29 แต่ถ้าที่บ้านโป่งต้องเลือกเบอร์ 7 ชะวรลัทธิ์ เป็นคนที่อยู่กับพรรคมาเสมอ เข้าใจนโยบายของพรรคเพื่อไทยเป็นอย่างดี
ดังนั้นต้องช่วยกันผลักดัน ชะวรลัทธิ์ แล้วเราจะดูแลพี่น้องประชาชนอย่างดี และเราทุกคนต้องออกไปใช้สิทธิเพื่อแสดงให้คนทั้งประเทศทราบว่า เราพอแล้วกับ 8 ปีที่ผ่านมา จากนี้เป็นเวลาของเพื่อไทยแลนด์สไลด์ทั้งแผ่นดิน