ไม่พบผลการค้นหา
เพื่อไทย เดินหน้า “30 บาทรักษาทุกที่” ครบทุกจังหวัดทั่วประเทศธันวาคมนี้ ‘หมอศรีญาดา’ กร้าว หากรอ 10 เดือน วัคซีนมะเร็งปากมดลูก 1.6 ล้านโดส - สถานชีวาภิบาล ไม่เกิดแน่

3 พ.ค. 2567 ในงาน ‘10 เดือนที่ไม่รอ ทำต่อให้เต็ม 10’ ของพรรคเพื่อไทย งานแสดงวิสัยทัศน์ และความคืบหน้าในนโยบายต่างๆ พร้อมประกาศเป้าหมายการทำงานในอนาคต ทันตแพทย์หญิงศรีญาดา ปาลิมาพันธ์ สส.บัญชีรายชื่อและรองเลขาธิการพรรคเพื่อไทย กล่าวว่า ในวันที่ 1 เมษายน 2544 รัฐบาลไทยรักไทย ทำฝันที่ไม่มีใครกล้าฝัน ทำสิ่งที่ทุกคนปรามาสว่าเป็นไปไม่ได้ ให้เป็นไปได้ โดยการนำร่อง ‘บัตรทอง’ หรือ ‘บัตร 30 บาท รักษาทุกโรค’ ใน 6 จังหวัด แล้วขยายครอบคลุมทั้งประเทศในเวลาไม่ถึง 1 ปี ทำให้ชีวิตประชาชนเปลี่ยนไปในวันเดียว คนไทยได้รับการรักษาเท่าเทียมกันด้วยหลักประกันสุขภาพถ้วนหน้า เรา ‘คิดใหญ่ ทำเป็น’ ทำนโยบายสำเร็จ แม้ในช่วงเวลาดังกล่าวยังไม่มีเทคโนโลยี แต่รัฐบาลไทยรักไทยต้องการสร้างระบบข้อมูลคนไข้ทั้งระบบ เชื่อมโยงกันในระบบคอมพิวเตอร์ ระบบจองนัดคิว เลือกวัน เวลา ได้  ‘เลือกหมอ’ ได้ ทำให้ในปัจจุบัน ‘การเชื่อมต่อข้อมูลสุขภาพในระบบสาธารณสุข’ เกิดขึ้นจริง 30 บาท รักษาทุกที่ เป็นจริงใน 137 วันแรก ของการจัดตั้งรัฐบาล 

โดยภายในเดือนมกราคม 2567 30 บาทรักษาทุกที่ นำร่อง 4 จังหวัดแรกสำเร็จ ได้แก่ แพร่ ร้อยเอ็ด เพชรบุรี และ นราธิวาส , มีนาคม 2567 นำร่องเพิ่ม 8 จังหวัด ได้แก่ เพชรบูรณ์ นครสวรรค์ หนองบัวลำภู อำนาจเจริญ นครราชสีมา สิงห์บุรี สระแก้ว พังงา ,เดือนพฤษภาคม 2567 นำร่องเพิ่ม 33 จังหวัด ได้แก่ เชียงใหม่ เชียงราย น่าน พะเยา ลำปาง ลำพูน แม่ฮ่องสอน กำแพงเพชร พิจิตร ชัยนาท อุทัยธานี สระบุรี นนทบุรี ลพบุรี อ่างทอง นครนายก พระนครศรีอยุธยา ปทุมธานี อุดรธานี สกลนคร นครพนม เลย หนองคาย บึงกาฬ ชัยภูมิ บุรีรัมย์ สุรินทร์ สงขลา สตูล ตรัง พัทลุง ปัตตานี ยะลา ทั้งหมดรวม 45 จังหวัด  

และภายในเดือนธันวาคม 2567 โครงการ 30 บาทรักษาทุกที่ จะดำเนินการได้ครบ 77 จังหวัดทั้งประเทศ ถือเป็นการปฏิรูประบบบริการสาธารณสุขครั้งใหญ่ที่สุดในรอบ 20 ปี เป็นการ‘ทำต่อ’ จากที่เราเคยทำเอาไว้เมื่อ 23 ปีที่ผ่านแล้ว

สำหรับสิทธิประโยชน์ของ 30 บาทรักษาทุกที่ ได้แก่ เจ็บป่วยเล็กน้อย รับยาที่ร้านขายยาใกล้บ้าน ,ตรวจเลือดที่แล็ปใกล้บ้าน ข้อมูลปรากฎที่โรงพยาบาลในวันรุ่งขึ้น, รักษาที่โรงพยาบาล กลับไปรับยาที่ร้านขายยาใกล้บ้านได้ ,เลือกโรงพยาบาลได้ โดยไม่ต้องกังวลค่าใช้จ่าย เพราะสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติจะดูแลทั้งหมด ด้วยการทำงานหนักของทีมสาธารณสุขไทย รวมถึงนโยบายฉีดวัคซีนป้องกันมะเร็งปากมดลูก ซึ่งเป็นสาเหตุการเสียชีวิตเป็นอันดับหนึ่งของผู้หญิงไทย โดย ณ วันที่ 24 เมษายน 2567 กระทรวงสาธารณสุข ฉีดวัคซีนมะเร็งปากมดลูก ในผู้หญิงอายุ 11-25 ปี แล้ว 1,668,000 ล้านโดส (ชนิด 2 เข็ม : 1.2 ล้านเข็ม , ชนิด 1 เข็ม : 4 แสนเข็ม ) จากเป้าหมาย 5 ล้านคน ภายในปี 2568 พร้อมวางเป้าหมายจะลดอัตราการเสียชีวิตของผู้หญิงจำนวน 2,400 คนต่อปี

นอกจากนี้ จะดำเนินการสานต่อนโยบาย 50 เขต 50 โรงพยาบาล โดยปีนี้เปิดโรงพยาบาลเขตแล้ว 2 แห่ง คือ โรงพยาบาลนพรัตนธานี คุ้มเกล้า (มีนบุรี) และโรงพยาบาลพระมงคลเทพมุนี พร้อมมีแผนขยายเพิ่ม โรงพยาบาลประจำเขตอย่างน้อย 10 แห่ง ภายในปี 2570 โดยจะเพิ่มโรงพยาบาลเขตภาษีเจริญ เขตคลองสามวา เขตทุ่งครุ เขตสายไหม วางแผนยกระดับโรงพยาบาลทหารอากาศ (สีกัน) กรมการแพทย์ทหารอากาศ เป็น โรงพยาบาลเขตดอนเมืองขนาด 120 เตียง รวมทั้งสถานชีวาภิบาล สถานที่ให้บริการผู้ป่วยระยะสุดท้าย โดยในระยะเวลา 10 เดือนที่ไม่รอ ได้สร้างสถานชีวาภิบาลในชุมชนไปแล้วกว่า 166 แห่งทั่วประเทศ โดยความร่วมมือกับคณะสงฆ์ และภายในปี 2570 ทุกตำบล จะต้องมีสถานชีวาภิบาลตำบลละ 1 แห่งให้ได้  

“เวลาไม่รอใคร และเราจะไม่รอ ขอทำงานต่อเพื่อพี่น้องประชาชน” ทันตแพทย์หญิงศรีญาดา กล่าว