วันที่ 26 ส.ค. เวลา 08.21 น. พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ในฐานะรักษาราชการแทนนายกรัฐมนตรี เดินทางเข้ามาปฏิบัติภารกิจภายในทำเนียบรัฐบาลเป็นครั้งแรก ภายหลังดำรงตำแหน่งรักษาราชการแทนฯ สืบเนื่องจากการที่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ถูกศาลรัฐธรรมนูญ สั่งพักการปฏิบัติหน้าที่นายกรัฐมนตรี ระหว่างรอคำตัดสินเรื่องวาระการทำงาน
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อ พล.อ.ประวิตร เดินทางมาถึงมีสีหน้าที่ยิ้มแย้ม ท่าทีผ่อนคลาย แต่ปฏิบัติที่จะตอบคำถามถึงความรู้สึก และอำนาจหลังรับตำแหน่งรักษาราชการแทน รวมถึงได้คุยกับ พล.อ.ประยุทธ์ หรือไม่ก่อนเดินทางขึ้นห้องทำงานบนตึกบัญชาการ 1
ขณะที่ภารกิจ พล.อ.ประวิตร วันนี้เวลา 09.30 น. จะพบกับ ดาโต๊ะ ศรี ฮัจญี ฟาดิลละห์ บิน ฮัจญี ยูโซ๊ะ รัฐมนตรีอาวุโส กระทรวงโยธาธิการ มาเลเซีย ที่เดินทางเข้ามาเยี่ยมคารวะในโอกาสเยือนประเทศ และเวลา 10.30 น. จะนั่งเป็นประธานการประชุมกองอำนวยการน้ำแห่งชาติ ครั้งที่ 1/2565 ผ่านระบบ Video Conference และการประชุมคณะอนุกรรมการอำนวยการด้านการบริหารจัดการทรัพยากรน้ำ ครั้งที่ 2/2565 ผ่านระบบ Video Conference ภายในตึกบัญชาการ 1 ทำเนียบรัฐบาลตลอด
พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี รักษาราชการแทนนายกรัฐมนตรี ในฐานะประธานคณะกรรมการยุทธศาสตร์การพัฒนาจังหวัดชายแดนภาคใต้ (กพต.) ต้อนรับ ดาโต๊ะ ศรี ฮัจญี ฟาดิลละห์ บิน ฮัจญี ยูโซ๊ะ รมต.อาวุโส และรมว.กระทรวงโยธาธิการ ประเทศมาเลเซีย โดยมีการหารือเพื่อผลักดันการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานสำคัญ โดยเฉพาะการค้าชายแดนบริเวณชายแดนไทย-มาเลเซียที่สำคัญ ได้แก่ อำเภอตากใบและอำเภอสุไหงโกลก จังหวัดนราธิวาส , อำเภอสะเดา จังหวัดสงขลา และอำเภอเมือง จังหวัดสตูล ตามเป้าหมายส่งเสริมการค้าและการท่องเที่ยวในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ โดยมีมูลค่าการค้าชายแดนไม่น้อย 1.1 ล้านบาทต่อปี
พล.อ.ประวิตร กล่าวว่า การพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานด้านการคมนาคมขนส่งและยกระดับศักยภาพด่านศุลกากรในพื้นที่ 5 จังหวัดชายแดนภาคใต้ จะเป็นการอำนวยความสะดวกการค้า การขนส่งสินค้าข้ามแดน การเดินทางของประชาชน การส่งเสริมการค้า การลงทุนและการท่องเที่ยว เป็นการพัฒนาที่สอดคล้องกับศักยภาพของพื้นที่และประชาชนอย่างแท้จริง ตามแผนงานการพัฒนาเขตเศรษฐกิจสามฝ่าย อินโดนีเซีย-มาเลเซีย-ไทย (IMT-GT) ให้เกิดผลที่เป็นรูปธรรม
สำหรับการหารือทวิภาคีวันนี้ เป็นประโยชน์ต่อการขับเคลื่อนโครงการให้บรรลุผลสำเร็จเป็นรูปธรรมทั้ง 4 โครงการ ได้แก่
1) โครงการก่อสร้างสะพานข้ามแม่น้ำโก-ลก ที่อำเภอตากใบ จังหวัดนราธิวาส – เปิงกาลันกูโบร์ รัฐกลันตัน มาเลเซีย
2) โครงการก่อสร้างสะพานข้ามแม่น้ำโก-ลก (ไทย-มาเลเซีย) แห่งที่ 2 อำเภอสุไหงโก-ลก จังหวัดนราธิวาส – เมืองรันเตาปันยัง รัฐกลันตัน ประเทศมาเลเซีย
3) การก่อสร้างถนนเชื่อมต่อด่านศุลกากรสะเดาแห่งใหม่กับด่านบูกิจกายูฮิตัมของประเทศมาเลเซีย
4) โครงการศึกษาทางเชื่อมต่อจังหวัดสตูล-รัฐเปอร์ลิส
ทั้งนี้ โครงการทั้ง 4 แห่ง จะมีการพูดคุยกันช่วงเดือน ธ.ค.นี้ เพื่อทำการออกแบบร่วมกัน รวมทั้งการกำหนดงบประมาณ ซึ่งประเทศไทยและมาเลเซีย จะออกงบประมาณกันคนละครึ่ง
ด้าน พล.ร.ต.สมเกียรติ ผลประยูร เลขาธิการ ศอ.บต. เปิดเผยว่า ผลการหารือเป็นไปได้ด้วยดี และทั้งสองประเทศยืนยันขับเคลื่อนความร่วมมือระหว่างกันในทุกมิติ ส่วนเวทีพูดคุยสันติสุขจะเกิดขึ้นอีกหรือไม่นั้นต้องรอในส่วนของสภาความมั่นคงแห่งชาติ (สมช.) ศึกษารายละเอียด ซึ่งมีคณะดูแลอยู่ แต่ในส่วนของ ศอ.บต.จะดูแลประชาชนในพื้นที่ให้ดีที่สุด รวมถึงเยียวยาผลกระทบที่เกิดขึ้นในพื้นที่ เพื่อให้ทุกคนเชื่อมั่นและอยู่ในแผ่นดินไทยได้
เมื่อถามว่า ทางการมาเลเซียได้สอบถามถึงสถานการณ์ในประเทศไทย ที่มีการเปลี่ยนแปลงนายกฯ หรือไม่ เลขาฯ ศอ.บต. ระบุว่า ไม่มีการพูดคุยในเรื่องนี้
สำหรับการเยือนประเทศไทยในครั้งนี้ เป็นผลสืบเนื่องจากปฏิสัมพันธ์เมื่อวันที่ 25 ก.พ. 2565 ดาโตะ ซรี อิซมาอิล ซาบรี ยาคบ นายกรัฐมนตรีมาเลเซีย เยือนประเทศไทยอย่างเป็นทางการตามคำเชิญของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เพื่อส่งเสริมมิตรภาพอันแน่นแฟ้นและยาวนานระหว่างทั้งสองประเทศ