แถลงการณ์สภานักศึกษามหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ศูนย์รังสิต เรื่อง จุดยืนของสภานักศึกษาต่อการลงมติเลือกนายกรัฐมนตรี เนื่องด้วยเมื่อวันที่ 5 มิ.ย. 2562 ที่ประชุมรัฐสภาได้ลงมติเลือก พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ให้ดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีด้วยคะแนนเสียง 500 คะแนนต่อ 244 คะแนน เป็นผลให้ พล.อ.ประยุทธ์ ได้ดำรงตำแหน่งดังกล่าวต่ออีกสมัย หลังจากที่ได้ดำรงตำแหน่งมาแล้วถึง 5 ปีจากการกระทำรัฐประหารเมื่อวันที่ 22 พ.ค. 2557 

สภานักศึกษามหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ศูนย์รังสิต มีความกังวลว่าการลงมติดังกล่าวจะมีความไม่เหมาะสมและไม่สง่างาม เนื่องจากการลงมติครั้งนี้ได้มีสมาชิกวุฒิสภาร่วมลงมติด้วย ทั้งที่สมาชิกวุฒิสภามิได้มาจากการเลือกตั้งโดยตรงของประชาชน หากแต่มาจากการสรรหาโดยคณะกรรมการสรรหาที่มี พล.อ.ประวิตร วงศ์สุวรรณ เป็นประธานคณะกรรมการ ทั้งยังปรากฏว่าสมาชิกวุฒิสภาทั้งหมดยังลงมติเลือก พล.อ.ประยุทธ์ เป็นนายกรัฐมนตรีด้วยมติเป็นเอกฉันท์ 

ดังนั้น นอกจากการลงมติครั้งดังกล่าว จะขัดต่อประเพณีการปกครองระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุขแล้ว ยังอาจเข้าข่ายการกระทำอันเป็นผลประโยชน์ ทับซ้อน เนื่องจากพล.อ.ประวิตร ผู้เป็นประธานคณะกรรมการสรรหาสมาชิกวุฒิสภานั้น ได้ดำรงตำแหน่งทั้งรองนายกรัฐมนตรีในคณะรัฐมนตรีของ พล.อ.ประยุทธ์ และประธานที่ปรึกษาคณะรักษาความสงบแห่งชาติเช่นกัน

นอกจากนี้ สภานักศึกษายังมีความเสียใจเป็นอย่างยิ่งที่ได้ทราบว่ามีศิษย์เก่าและอดีตบุคลากรของมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์หลายท่านได้ร่วมลงมติเลือก พล.อ.ประยุทธ์เป็นนายกรัฐมนตรี ทั้งที่ปรากฏโดยชัดแจ้งแล้วว่า พล.อ.ประยุทธ์ เป็นผู้กระทำรัฐประหารมีพฤติการณ์ล้มล้างรัฐธรรมนูญและการปกครองระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข

อีกทั้งยังใช้อำนาจละเมิดสิทธิและจำกัดเสรีภาพของประชาชน ซึ่งรวมถึงคณาจารย์และศิษย์ปัจจุบันของมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์อีกด้วย การกระทำของ ศิษย์เก่าและอดีตบุคลากรดังกล่าวถือเป็นการไม่เคารพต่อจิตวิญญาณและเกียรติภูมิของมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ที่ได้ยึดมั่นในการปกครองระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุขและต่อต้านเผด็จการมาทุกยุคทุกสมัยสภานักศึกษาขอแสดงจุดยืนไม่เห็นด้วยกับการกลับมาดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา และขอต่อต้านกระบวนการสืบทอดอำนาจของคณะรัฐประหารทุกรูปแบบ สภานักศึกษายังหวังเป็นอย่างยิ่งว่าทุกภาคส่วนจะร่วมกันคัดค้านกระบวนการสืบทอดอำนาจของคณะรัฐประหารและร่วมกันนำการปกครองระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุขคืนสู่ประเทศไทย