จากกรณีที่ทวิตเตอร์ติดแฮชแท็ก #สารสาสน์ราชพฤกษ์ มีการเผยแพร่คลิปวิดีโอขณะที่ครูประจำชั้นอนุบาล 1 โรงเรียนสารสาสน์วิเทศราชพฤกษ์ จ.นนทบุรี กำลังทำร้ายร่างกายเด็กนักเรียน จนมีกลุ่มผู้ปกครองจำนวนหนึ่งไม่พอใจเดินทางไปสอบถามข้อเท็จจริงดังกล่าวกับทางโรงเรียน แล้วเดินทางเข้าแจ้งความ กับ ร.ต.อ.ศุภกร แสงจันทร์ รองสารวัตร (สอบสวน) สภ.ชัยพฤกษ์ อ.ปากเกร็ต จ.นนทบุรี ให้ดำเนินคดีกับครูประจำชั้นอนุบาลคนดังกล่าว
โดยมีคลิปวิดีโอที่เผยแพร่กันในโลกออนไลน์เป็นเหตุการณ์เมื่อวันที่ 23 ก.ย.ที่ผ่านมา เวลาเกิดเหตุคือ 10.00-12.00 น. ครูกำลังทำร้ายเด็กนักเรียนหลายคนในห้องต่อหน้าครูด้วยกันในห้อง ซึ่งเห็นแล้วแต่ไม่ห้ามปราม
ในทวิตเตอร์จึงมีการเคลื่อนไหวผ่าน #สารสาสน์ราชพฤกษ์ นั้น ส่วนใหญ่โกรธแค้นแทนเด็กนักเรียน เพราะยังเด็กมาก และอาจจะซนบ้างตามอายุ แต่ก็ไม่ควรถูกทำร้ายด้วยการทุบตี และเป็นห่วงสภาพจิตใจของเด็กนักเรียนที่ถูกทำร้ายว่าต่อไปจะเป็นอย่างไร และอีกจำนวนหนึ่งยังถามครูกลับด้วยว่า ยังกล้าเรียกตัวเองว่าครูอีกหรือ เพราะคนเป็นครูไม่ควรทำร้ายลูกศิษย์
นอกจากนี้ยังมีส่วนหนึ่งเรียกร้องไปยังณัฏฐพล ทีปสุวรรณ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ ให้ออกมาจัดการกับปัญหาครูทำร้ายเด็กนักเรียนให้เป็นรูปธรรม อย่าทำเพียงแค่สัญญาซ้ำๆ แล้วมองเลยไปถึงขั้นที่ว่าการศึกษาไทยต้องได้รับการปฏิรูป เพราะเรื่องนี้ไม่ใช่เรื่องระหว่างผู้ปกครองกับโรงเรียนอีกต่อไป แต่เป็นเรื่องของสังคม ที่ต้องช่วยกันกดดันให้เกิดการเปลี่ยนแปลง เพราะนักเรียนทุกคนคืออนาคตของชาติ
ไล่ออกแล้วครูทำร้ายนักเรียน เสียใจเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น
ทั้งนี้ โรงเรียนสารสาสน์วิเทศราชพฤกษ์ ได้ทำหนังสือชี้แจงการลงโทษนักเรียนที่ไม่เหมาะสม ถึงศึกษาธิการจังหวัดนนทบุรี ระบุว่า จากเหตุการณ์พฤติกรรมการลงโทษนักเรียนที่เกิดขึ้น ในวันที่ 23 ก.ย. 2563 โรงเรียนสารสาสวิเทศราชพฤกษ์ ขอแสดงความเสียใจต่อนักเรียนและผู้ปกครองอย่างสุดซึ้ง มา ณ โอกาสนี้ และขอแสดงความรับผิดชอบต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น โดยได้เร่งติดตามตรวจสอบข้อเท็จจริงอย่างต่อเนื่อง
พบว่าในวันที่ 24 ก.ย. 2563 ได้มีผู้ปกครองเข้ามาร้องเรียนว่า บุตรหลานถูกคุณครูพี่เลี้ยง ได้แก่ อรอุมา ปลอดโปร่ง ทำโทษเกินกว่าเหตุผู้ปกครองจึงขอเข้ามาตรวจสอบภาพจากกล้องวงจรปิดในห้องเรียนระดับชั้นอนุบาล 1
ทางโรงเรียนได้เปิดห้องประชุมเพื่อรับรองผู้ปกครองและให้ผู้ปกครองได้ดูภาพเหตุการณ์โดยผ่านจอโปรเจกเตอร์เหตุการณ์ดังกล่าวต่อหน้า โดยมิได้มีการปิดบังความจริงหรือตัดต่อเนื้อหาใดๆ อันซึ่งจะทำให้เกิดความบิดเบือน ปรากฏว่า ภาพครูพี่เลี้ยงได้ลงโทษนักเรียนเกินกว่าเหตุจริง ทางโรงเรียนจึงได้ติดตามอรอุมา ปลอดโปร่ง มาชี้แจงในกรณีที่เกิดขึ้น โดยอรอุมายอมรับว่ากระทำการและใช้วาจาไม่เหมาะสมต่อนักเรียน เป็นเหตุให้นักเรียนได้รับความเสียหายทั้งทางด้านร่างกายและจิตใจ จึงให้พ้นสภาพของการเป็นบุคลากรของโรงเรียนทันที และจะลงโทษทางวินัยต่อบุคคลที่เกี่ยวข้องเป็นลำดับต่อไป
ทางโรงเรียนได้ร่วมกับผู้ปกครองนำคลิปไปแจ้งความที่ สภ.ชัยพฤกษ์ อำเภอปากเกร็ด จังหวัดนนทบุรี โดยลงบันทึกประจำวัน ณ วันที่ 24 ก.ย. 2563 โรงเรียนสารสาสน์วิเทศราชพฤกษ์ ได้พูดคุยกับผู้ปกครองเพื่อร่วมกันหาแนวทางในการแก้ไขปัญหาดังกล่าวแบ่งเป็น 2 ส่วน ได้แก่ 1.ด้านคดีความ โรงเรียนสารสาสน์วิเทศราชพฤกษ์จะคอยอำนวยความสะดวกให้แก่นักเรียนและผู้ปกครองเพื่อดำเนินคดีแก่ อรอุมา ปลอดโปร่ง และบุคคลอื่นที่เกี่ยวข้องจนถึงที่สุด โดยโรงเรียนสารสาสน์วิเทศราชพฤกษ์ ได้ส่งทีมกฎหมายคอยให้ความช่วยเหลือดูแลอย่างใกล้ชิด
และ 2.ด้านมาตรการป้องกัน แก้ไขปัญหา และการเยียวยา โดยผู้ปกครองได้เสนอแนวทางป้องกันและแก้ไขปัญหาหลายประการ เช่น การติดกล้องวงจรปิดในห้องเรียน การเปลี่ยนครูประจำชั้น และการจัดให้มีนักจิตวิทยาดูแลนักเรียน รวมทั้งแนวทางการเยียวยาต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น โดยจะมีการนัดพูดคุยอีกครั้งในวันที่ 29 ก.ย. 2563
พร้อมกับระบุว่า ตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา โรงเรียนสารสาสวิเทศราชพฤกษ์ ยึดมั่นในการให้ความรู้และความเป็นธรรมต่อนักเรียนและสังคม มีความเคารพในศักดิ์ศรีของความเป็นมนุษย์ โรงเรียนสารสาสน์วิเทศราชพฤกษ์ได้เปิดเผยข้อมูลทั้งหมดอย่างสุจริตและสัตย์จริง โดยมิได้เพิกเฉยหรือเข้าข้างผู้กระทำผิด และแสดงความรับผิดชอบในเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นทันที ทั้งการสอบสวนอย่างเปิดเผย การลงโทษทั้งในส่วนของโรงเรียนและตามกฎหมาย การปรึกษาหารือกับผู้ที่เกี่ยวข้องรวมถึงการเยียวยาแก้ไขป้องกัน เพื่อให้โรงเรียนรักษาไว้ซึ่งคำมั่นสัญญาในการเป็นสถาบันแห่งการศึกษาที่ปลอดภัยไว้ใจดังเดิมต่อไป
ข่าวที่เกี่ยวข้อง: