เด็กระหว่างช่วงอายุ 3 ถึง 16 ปี จำนวน 18 ราย เสียชีวิตจากเหตุเพลิงไหม้ดังกล่าว ซึ่งส่งผลให้มีตัวเลขผู้เสียชีวิตรวมกันกว่า 41 ราย และบาดเจ็บอีก 14 ราย โดยเหตุเพลิงไหม้เริ่มเกิดขึ้นเมื่อช่วง 9.00 น. ตามเวลาท้องถิ่นของอียิปต์ สืบเนื่องจากเหตุไฟฟ้าขัดข้องบริเวณเครื่องระบายอากาศ ซึ่งตั้งอยู่บริเณชั้นสองของตัวโบสถ์ อย่างไรก็ดี โบสถ์ดังกล่าวตั้งอยู่ใกล้กันกับที่ชุมชนบริเวณอิมบาบาของกรุงไคโร
รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทยอียิปต์เปิดเผยว่า มีเจ้าหน้าที่ 2 ราย และพลเมืองอาสาอีก 3 ราย ที่ได้รับบาดเจ็บจากเหตุการณ์เพลิงไหม้ในครั้งนี้ อย่างไรก็ดี กรณีผู้เสียชีวิตและบาดเจ็บส่วนใหญ่เกิดขึ้นจากควันดำในบริเวณห้องเรียนของโบสถ์ หลังจากเกิดเหตุไฟฟ้าขัดข้อง
ทางการของโบสถ์เชื่อว่า เหตุการณ์ในครั้งนี้เกิดขึ้นจากอุบัติเหตุ อย่างไรก็ดี ชุมชนชาวคริสต์คอปติกในอียิปต์และศาสนจักรของคอปติกตกเป็นเป้าหมายความรุนแรงทางศาสนา ซึ่งมีรายงานการใช้ความรุนแรงและเข้าโจมตีชาวคริสต์ในอียิปต์เกิดขึ้นมาก่อน ทั้งนี้ การแบ่งแยกศาสนาในอียิปต์รุนแรงมากขึ้นเมื่อช่วงหลังการโค่นล้มระบอบการปกครองของ ฮอสนี มูบารัก เมื่อปี 2554
“เรากำลังติดต่อกับหน่วยงานท้องถิ่นและกระทรวงสาธารณสุขอย่างต่อเนื่อง” พระสันติปาปาทาวาดรอสที่ 2 ประมุขคริสตจักรคอปติกกล่าว ทั้งนี้ เหตุเพลิงไหม้ได้เกิดขึ้นเมื่อช่วงเวลาของการทำพิธีนมัสการพระเจ้าพอดี ในขณะที่ญาติๆ ของผู้เสียชีวิตกำลังเข้ารับศพ ผ่านการระบุตัวตนผู้เสียชีวิตกันตลอดช่วงวันที่ผ่านมา
อับเดิล ฟัตทา เอล ซีซี ประธานาธิบดีอียิปต์ได้ทวีตข้อความแสดงความเสียใจไปยังผู้สูญเสีย ก่อนส่งคำภาวนาให้ผู้เสียชีวิตได้เดินทางไปยังอีกฟากฝั่งของชีวิตเพื่อพบกับพระผู้เป็นเจ้า ทั้งนี้ ประธานาธิบดีอียิปต์ย้ำว่า ตนกำลังติดตาม “เหตุโศกนาฏกรรม” ในครั้งนี้อย่างใกล้ชิด และสั่งการให้เจ้าหน้าที่หาทางช่วยเหลือผู้ที่ประสบกับความสูญเสีย และผู้ที่ได้รับบาดเจ็บต่อไป
นอกจากนี้ เอล ซีซี ยังได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่วิศกรรมของกองทัพอียิปต์ เข้าทำการช่วยบูรณะและซ่อมแซมโบสถ์ขึ้นใหม่อีกครั้ง
ที่มา: