ความเคลื่อนไหวดังกล่าว จะส่งผลกระทบต่อพนักงานประมาณ 15% หลังจากบริษัทกำลังมีอัตราการเติบโตของผู้ใช้ที่ช้าลง และผลกำไรของบริษัทกำลังลดลงเมื่อไม่นานมานี้
อีริค หยวน หัวหน้าบริษัท Zoom และผู้นำของบริษัทอื่นๆ กำลังจะลดการว่าจ้างตำแหน่งในบริษัทของตัวเองครั้งใหญ่ เนื่องจากบริษัทต้องทำให้มั่นใจว่า Zoom จะรอดพ้นจากอัตราการเติบโตของรายได้ที่ลดต่ำลง ทั้งนี้ บริษัทด้านเทคโนโลยีอื่นๆ กำลังประสบกับปัญหาการเปลี่ยนแปลงโครงสร้างบริษัทที่คล้ายคลีงกัน
“ในขณะที่โลกเปลี่ยนไปสู่การใช้ชีวิตหลังการระบาดใหญ่ เราพบว่าผู้คนและธุรกิจยังคงพึ่งพา Zoom” หยวนเขียนในข้อความถึงพนักงาน “แต่ความไม่แน่นอนของเศรษฐกิจโลกและผลกระทบต่อลูกค้าของเรา หมายความว่า เราจำเป็นต้องมองเข้าไปข้างในอย่างจริงจังแต่สำคัญ เพื่อรีเซ็ตตัวเอง เพื่อให้เราสามารถฝ่าฟันกับสภาพแวดล้อมทางเศรษฐกิจ มอบบริการให้กับลูกค้าของเรา และบรรลุผลวิสัยทัศน์ระยะยาวของ Zoom”
Amazon และ Salesforce ยังเป็น 2 ในบริษัทยักษ์ใหญ่ที่ประกาศปลดพนักงานจำนวนมาก โดยพวกเขากล่าวว่าธุรกิจที่เติบโตอย่างรวดเร็ว ซึ่งเกิดขึ้นระหว่างการแพร่ระบาดของโควิด-19 กำลังจะสิ้นสุดลง ทั้งนี้ Layoffs.fyi ซึ่งติดตามประกาศการปลดพนักงานของบริษัทต่างๆ รายงานว่า บริษัทเทคโนโลยีมากกว่า 300 แห่งเลิกจ้างพนักงานเกือบ 100,000 คนในทั่วโลกตั้งแต่ต้นปีที่ผ่านมา
โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับ Zoom เพราะบริษัทต้องเผชิญกับความท้าทายครั้งใหญ่ เนื่องจากบริษัทเทคโนโลยีที่เป็นคู่แข่งได้อัปเกรดระบบวิดีโอของตัวเอง หลังจากก่อนหน้านี้ Zoom มีรายได้ของบริษัทเพิ่มขึ้นกว่า 2 เท่าในปี 2563 และเติบโตประมาณ 55% ในปี 2564 แต่ในปีที่แล้ว Zoom กลับมีกำไรของบริษัทที่ชะลอตัวลงเหลือเพียงเลขหลักเดียว และกำไรของบริษัทกำลังลดลงอย่างรวดเร็ว นอกจากนี้ หุ้นบริษัทยังลดลงมากกว่า 80% จากจุดสูงสุดในปี 2563
หยวนกล่าวว่า การปรับลดพนักงานจะส่งผลกระทบต่อทุกส่วนขององค์กร และเขามีเป้าหมายเพื่อการลดบทบาทที่ซ้ำซ้อนกันในบริษัท ตลอดจนมุ่งเน้นไปที่ลำดับความสำคัญสูงสุดของบริษัทใหม่ ทั้งนี้ Zoom ระบุว่า ทางบริษัทคาดว่าการปรับโครงสร้างจะมีค่าใช้จ่ายจำนวน 50 ถึง 68 ล้านเหรียญสหรัฐฯ (ประมาณ 1.67 ถึง 2.27 พันล้านบาท) โดยพนักงานที่ได้รับผลกระทบจะได้รับเงินเดือน และค่ารักษาพยาบาลเป็นเวลา 16 สัปดาห์ รวมถึงการให้การสนับสนุนอื่นๆ
หยวนยังกล่าวอีกว่า เขาจะลดเงินเดือนของตัวเองในปีงบประมาณที่จะถึงนี้ลง 98% และงดรับโบนัสด้วย โดยสมาชิกคนอื่น ๆ ของทีมผู้บริหารจะมีฐานเงินเดือนของพวกเขาลดลง 20% และไม่ได้รับเงินโบนัส “เราทำงานอย่างไม่รู้จักเหน็ดเหนื่อย… แต่เราก็ทำผิดพลาดเช่นกัน เราไม่ได้ใช้เวลามากเท่าที่ควรในการวิเคราะห์ทีมของเราอย่างถี่ถ้วน หรือประเมินว่าเรากำลังเติบโตอย่างยั่งยืน ไปสู่ลำดับความสำคัญสูงสุดหรือไม่” หยวนกล่าว
“ในฐานะซีอีโอ และผู้ก่อตั้ง Zoom ผมต้องรับผิดชอบต่อความผิดพลาดเหล่านี้และการกระทำที่เราทำในวันนี้ และผมต้องการแสดงความรับผิดชอบไม่ใช่แค่คำพูด แต่รวมถึงการกระทำของตัวเองด้วย” หยวนกล่าวเสริม ทั้งนี้ หลังจากการประกาศดังกล่าว หุ้นของ Zoom ปรับตัวพุ่งสูงขึ้นมากกว่าเดิม 8%
ที่มา: