ตั้งแต่ช่วงบ่ายของวานนี้ (17 มี.ค.) เกิดไฟป่าในพื้นที่บริเวณรอยต่อพื้นที่อุทยานแห่งชาติดอยสุเทพ-ปุย อำเภอเมือง จังหวัดเชียงใหม่ กับพื้นที่หน่วยทหาร ซึ่งอยู่เชิงเขาด้านหลังบ้านพักของข้าราชการตุลาการศาลอุทธรณ์ภาค 5 ทำให้เกิดกลุ่มควันลอยขึ้นเป็นแนวยาวตามสันเขาอย่างชัดเจน โดยหลังได้รับแจ้งเกิดไฟป่า กำลังเจ้าหน้าที่สถานีควบคุมไฟป่าภูพิงค์ เจ้าหน้าที่อุทยานแห่งชาติดอยสุเทพปุย พร้อมด้วยกำลังทหารมณฑลทหารบกที่ 33 และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง กว่า 100 นาย นำอุปกรณ์ดับไฟ เดินเท้าเข้าดับไฟป่า เป็นระยะทางกว่า 2 กิโลเมตร ซึ่งต้องใช้เวลานานกว่า 1 ชั่วโมง พร้อมทำแนวกันไฟในพื้นที่ เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดการลุกลาม
ล่าสุดสถานีควบคุมไฟป่าภูพิงค์ คณะทำงานชุดที่ 11 สำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 16 (เชียงใหม่) รายงานผลการปฏิบัติงานดับไฟป่าดังกล่าว ว่าหลังจากที่ได้รับแจ้งว่า พบไฟเวลา 14.30 น. ของวันที่ 17 มี.ค. 2563 บริเวณหลังบ้านพักศาลอุธรณ์ ม. 4 ต.ดอนแก้ว อ.แม่ริม เริ่มส่งเจ้าหน้าที่ประกอบด้วย เจ้าหน้าที่สถานีควบคุมไฟป่าภูพิงค์ เจ้าหน้าที่ อช.ดอยสุเทพ-ปุย ชุดเสือไฟเชียงใหม่, เสือไฟโคราช, เสือไฟฉะเชิงเทรา, เสือไฟนครศรีธรรมราช และทหาร มทบ.33, ทหารปืนใหญ่ที่ 7 รวมจำนวนเจ้าหน้าที่ 70 นาย เข้าดับเวลา 15.28 น. พื้นที่เสียหาย 10 ไร่ ดับเสร็จเวลา 19.30 น. พื้นที่เสียหาย 60 ไร่
อย่างไรก็ตามจากไฟป่าในจุดดังกล่าวตั้งอยู่ไม่ห่างจากตัวเมืองเชียงใหม่ส่งผลให้ควันไฟจากไฟป่าครั้งนี้ลอยเข้ามาสะสมตัวในอากาศเหนือเมืองเชียงใหม่ และพื้นที่ใกล้เคียง ทั้งเขตอำเภอแม่ริมด้วย ทำให้เช้าวันนี้ (18 มี.ค.) สถานการณ์หมอกควันในตัวเมืองเชียงใหม่ยังคงวิกฤติต่อเนื่องไปอีก โดยเฉพาะจุดที่อยู่ใกล้การเกิดไฟป่า
จากข้อมูลของเว็บไซต์ CMU CCDC หรือ ศูนย์ข้อมูลการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ (Climate Change Data Center Chiang Mai University) รายงานสถานการณ์หมอกควันของจังหวัดเชียงใหม่ เช้านี้เมื่อเวลา 08.00 น. ข้อมูลรายชั่วโมง รายงานค่าฝุ่นพิษ PM2.5 พบว่าจุดที่ใกล้การเกิดไฟป่ายังคงสูงเกิน 300 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร อาทิ ที่ สนามกีฬา 700 ปีวัดได้ 324 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร ที่สถาวิจัยดาราศาสตร์วัดได้ 281 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร ที่โรงพยาบาลนครพิงค์เชียงใหม่ วัดได้ 205 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร
ขณะที่เช้านี้ รายงานจุด Hotspot (รอบเช้า) จำนวน 443 จุด อยู่ในพื้นที่ป่าสงวนแห่งชาติ 163 จุด ป่าอนุรักษ์ 267 จุด เขต สปก. 5 จุด ชุมชนและอื่นๆ 8 จุด
ส่วนมาตรการเชิงรุกในระดับพื้นที่ จนท.อ.เชียงดาว เข้าจับกุมผู้ลักลอบหาของป่า หลังระดมกำลังลาดตระเวนในปฏิบัติการ Set Zero พบของกลางอุปกรณ์ล่าสัตว์ ก่อนจะหลบหนีหายเข้าป่า 1 ราย โดย นายประกาศิต ระวิวรรณ หัวหน้าเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าเชียงดาว ได้รับแจ้งจากเจ้าหน้าที่ชุดสายตรวจชุดที่ 1 ที่ได้ออกตรวจปราบปรามการกระทำความผิดกฎหมายเกี่ยวกับป่าไม้และสัตว์ป่า สืบเนื่องจากการวางแผนการระดมกำลังลาดตระเวนเพื่อป้องกันผู้ลักลอบเข้าไปเผาป่าในปฏิบัติการ Set Zero บริเวณป่าห้วยแม่ข้อน หมู่ที่ 3 ตำบลเมืองงาย อำเภอเชียงดาว จังหวัดเชียงใหม่ ได้พบปางพักและเข้าทำการตรวจสอบ พบชาย 1 คนและหญิง 1 คน อยู่ในปางพัก คณะเจ้าหน้าที่ จึงได้แสดงตนเป็นพนักงานเจ้าหน้าที่ตามกฎหมายเกี่ยวกับการป่าไม้และสัตว์ป่า และในระหว่างที่พนักงานเจ้าหน้าที่ตรวจค้นบริเวณปางพักดังกล่าว ฝ่ายชายได้อาศัยความชำนาญในพื้นที่วิ่งหลบหนีเข้าป่าไป
ทั้งนี้ จากการตรวจค้น พบไก่แจ้ จำนวน 1 ตัว ซากกระรอก จำนวน 1 ตัว อาวุธปืนแก๊ปไทยประดิษฐ์ จำนวน 1 กระบอก เครื่องกระสุนปืน 1 ชุด มีดปลายแหลมพร้อมปลอก 1 ด้าม หนังสติ๊ก จำนวน 1 อัน ไฟแช็ก จำนวน 1 อัน ระเบิดปิงปอง จำนวน 5 ลูก สวิง จำนวน 1 อัน โทรศัพท์เคลื่อนที่จำนวน 2 เครื่อ ที่ดักนกพร้อมกระบอกใส่ จำนวน 1 ชุด กาวดักสัตว์ จำนวน 1 กระป๋อง ตะแกรงใส่ไก่ 1 อัน เจ้าหน้าที่จึงได้ร่วมกันตรวจยึดของกลางดังกล่าวทั้งหมด เพื่อร้องทุกข์กล่าวโทษต่อพนักงานสอบสวน สภ.เชียงดาว จ.เชียงใหม่ สอบสวนหาตัวผู้กระทำความผิดที่หลบหนีมาดำเนินคดีต่อไป