ไม่พบผลการค้นหา
นายกรัฐมนตรีขอความเชื่อมั่นว่าการปรับครม.ใหม่จะทำให้รัฐบาลสามารถบริหารประเทศได้อย่างมีประสิทธิภาพและเป็นไปในทิศทางที่ไว้วางตามโรดแมป

พล.ท.สรรเสริญ แก้วกำเนิด โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า หลังมีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯ แต่งตั้งคณะรัฐมนตรีชุดใหม่ และมีอดีตรัฐมนตรีบางคนต้องพ้นจากตำแหน่ง แต่ในการประชุมคณะรัฐมนตรีนอกสถานที่ที่ จ.ปัตตานีและสงขลา ระหว่างวันที่ 27-28 พฤศจิกายนนี้ ยังคงกำหนดเดิม โดยรัฐมนตรีใหม่และรัฐมนตรีที่พ้นจากตำแหน่งจะไม่ได้เข้าร่วมประชุม ในส่วนของรัฐมนตรีเก่าที่ปรับเปลี่ยนตำแหน่งนั้น ยังคงเดินทางเข้าร่วมประชุม

คณะรัฐมนตรีสัญจรในฐานะรัฐมนตรีเดิมไปก่อน เพราะยังไม่ได้มีการเข้าเฝ้าฯ เพื่อถวายสัตย์ปฏิญาณตน จึงเข้าร่วมประชุมในฐานะของรัฐมนตรีกระทรวงเดิม

พล.ท.สรรเสริญ กล่าวด้วยว่า การประชุมคณะรัฐมนตรีครั้งนี้สามารถดำเนินการได้ เพราะตามกฎหมายกำหนดให้จะต้องมีจำนวน 1 ใน 3 ของรัฐมนตรีที่มีอยู่ จึงจะเปิดประชุมหรือพิจารณาเรื่องต่าง ๆ ได้

ทั้งนี้ ครม.ชุดใหม่ นายกรัฐมนตรีขอให้เชื่อมั่นในตัวของนายกรัฐมนตรีที่จะทำให้รัฐบาลสามารถบริหารประเทศได้อย่างมีประสิทธิภาพและเป็นไปในทิศทางที่ไว้วางตามโรดแมป

“นายกฯ ไม่ได้สบายใจ หรือแฮปปี้ดีใจที่มีบางคน ซึ่งเคยทำงานร่วมกันมาเป็นเวลานาน จะต้องพ้นจากตำแหน่ง หรือบางคนจะต้องถูกปรับออกจากตำแหน่งเดิม และมีคนใหม่เข้ามาทำหน้าที่แทน แต่อยากให้คิดว่าการปรับเพื่อจะทำให้เกิดประสิทธิภาพในการทำงานให้ได้มากที่สุด จึงมีความจำเป็นต้องปรับเปลี่ยน ดังนั้นเสียงวิพากษ์วิจารณาการปรับ ครม.ครั้งนี้ จึงไม่ใช่เรื่องใหม่ เพราะไม่ว่ารัฐบาล คสช. หรือรัฐบาลที่มาจากการเลือตตั้ง ทุกครั้งที่มีการปรับ ครม. ก็จะมีเสียงวิพากษ์วิจารณ์ออกมาอยู่แล้ว ดังนั้นจึงอยากให้ดูผลการปฏิบัติงานเป็นสำคัญ” พล.ท.สรรเสริญ กล่าว

พล.ท.สรรเสริญ กล่าวอีกว่า การปรับ ครม.ครั้งนี้ นายกรัฐมนตรีไม่ได้เน้นด้านใดเป็นพิเศษ แต่จะเน้นในทุกด้านตามคลาสเตอร์ที่วางไว้ อาทิ ด้านเศรษฐกิจ สังคม กฎหมาย และความมั่นคง เป็นต้น แต่ที่สำคัญ การทำงานของ ครม.ครั้งนี้จะรวดเร็ว ฉับไว ทันต่อเหตุการณ์ และประสบความสำเร็จตามกรอบเวลาที่นายกรัฐมนตรีวางไว้ ซึ่งเป็นสิ่งที่นายกฯ คาดหวัง