ไม่พบผลการค้นหา
กรมควบคุมโรค เตือนประชาชนช่วงฤดูฝนให้ระวังป่วยด้วยโรคติดเชื้อทางเดินหายใจจากเชื้อไวรัสอาร์เอสวี โดยเฉพาะกลุ่มเด็กเล็ก

นพ.สุวรรณชัย วัฒนายิ่งเจริญชัย อธิบดีกรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข เปิดเผยว่า ในช่วงฤดูฝนนี้ ประเทศไทยมักพบผู้ป่วยโรคติดเชื้อทางเดินหายใจจากเชื้อไวรัสอาร์เอสวี (RSV) เชื้อไวรัสนี้ติดต่อจากการสัมผัสสารคัดหลั่งของผู้ติดเชื้อ สามารถเข้าสู่ร่างกายผ่านทางตา จมูก ปาก ผู้ป่วยส่วนใหญ่จะแสดงอาการหลังสัมผัสถูกเชื้อในระยะเวลา 4-6 วัน ผู้ติดเชื้อจะเริ่มตั้งแต่มีไข้ ไอ มีน้ำมูก เจ็บคอ จนถึงอาการรุนแรง เช่น หายใจเร็ว หอบเหนื่อยเนื่องจากปอดอักเสบ กินอาหารได้น้อยลง ซึมลง การรักษาส่วนใหญ่เป็นการรักษาตามอาการ

โรคนี้พบได้ในผู้ป่วยทุกกลุ่มอายุ แต่อาการจะรุนแรงในเด็กเล็ก เด็กที่คลอดก่อนกำหนด และผู้สูงอายุมากกว่า 65 ปี รวมถึงผู้มีโรคประจำตัวเรื้อรัง เช่น เบาหวาน โรคปอด โรคหัวใจ หรือมีปัญหาเกี่ยวกับระบบภูมิคุ้มกันผิดปกติ 

ประเทศไทยมักพบเชื้อไวรัสอาร์เอสวีบ่อยในฤดูฝนและฤดูหนาว ช่วงที่ใกล้เคียงกับฤดูของไข้หวัดใหญ่ เชื้อไวรัสจะมีชีวิตอยู่นอกร่างกายได้หลายชั่วโมง อาศัยอยู่ตามวัตถุต่างๆ และแพร่กระจายผ่านการไอหรือจาม 

ข้อมูลจากการเฝ้าระวังเชื้อก่อโรคปอดอักเสบรุนแรงจากโรงพยาบาล 30 แห่งในประเทศไทย ระหว่างปี 2555-59 พบว่าในกลุ่มเด็กอายุต่ำกว่า 15 ปี ที่มีอาการปอดอักเสบรุนแรง 425 ราย มีการติดเชื้อไวรัสอาร์เอสวีร้อยละ 44 ตรวจพบเชื้อมากในกลุ่มอายุต่ำกว่า 2 ปี และเสียชีวิต 9 ราย ส่วนในผู้ใหญ่ที่มีอาการปอดอักเสบรุนแรง 97 ราย มีการติดเชื้อดังกล่าว 4 ราย และเสียชีวิต 2 ราย โดยผู้ป่วยที่มีโรคประจำตัว ได้แก่ เบาหวาน และมีประวัติสูบบุหรี่ สำหรับในปีนี้ (61) มีรายงานเหตุการณ์พบผู้ป่วยเป็นกลุ่มก้อน จำนวน 2 เหตุการณ์ โดยเป็นผู้ป่วยยืนยันการติดเชื้ออาร์เอสวี รวม 24 ราย

ด้านนายแพทย์นคร เปรมศรี ผู้อำนวยการสำนักระบาดวิทยา กล่าวว่า ปัจจุบันยังไม่มีวัคซีนป้องกันโรค แต่สามารถปฏิบัติตัวเพื่อป้องกันการติดเชื้อและลดการแพร่กระจายเชื้อไวรัสได้ ดังนี้

1.ล้างมือบ่อยๆ ทั้งก่อนรับประทานอาหารและหลังเข้าห้องน้ำ 

2.หลีกเลี่ยงการสัมผัสสารคัดหลั่งของผู้ที่ติดเชื้อ เช่น ผู้ป่วยไข้หวัดหรือปอดอักเสบ โดยเฉพาะเด็กที่คลอดก่อนกำหนดและทารกในช่วงอายุ 1-2 เดือนแรกไม่ควรให้สัมผัสกับผู้ติดเชื้อ 

3.หลีกเลี่ยงการนำมือที่ไม่สะอาดมาป้ายจมูกหรือตา ไม่ควรใช้แก้วน้ำร่วมกัน และทำความสะอาดของเล่นเด็กเป็นประจำ 

ส่วนกรณีที่มีอาการป่วยควรหยุดพัก โดยเฉพาะนักเรียน และควรปิดปากและจมูกเมื่อไอหรือจาม ดื่มน้ำมากๆ เพราะน้ำจะช่วยทำให้สารคัดหลั่ง เช่น เสมหะ หรือน้ำมูก ไม่เหนียวจนเกินไป และไม่ไปขัดขวางการทำงานของระบบทางเดินหายใจ หากผู้ป่วยอาการไม่ดีขึ้น เช่น ไอมากหอบเหนื่อย ซึมลง รับประทานอาหารได้น้อย ควรรีบพาไปพบแพทย์ทันที