ทันที่ พล.ต.อ.สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง นากยสมาคมฟุตบอลแห่งประเทศไทย เปิดเผยกับสื่อว่าจะมีการแถลงถึงการเอาผิดตามกฎหมายกับขบวนการล้มบอลขนาดใหญ่ ในฟุตบอลระดับลีกของประเทศไทย ในวันที่ 21 พ.ย. 2560 ทำให้เกิดคำถามว่าใครเป็นเจ้ามือใหญ่ในเกมนี้?
3-5 ปีที่ผ่านมาฟุตบอลระดับลีกของไทยมีความแข็งแกร่งมากขึ้นเรื่อยๆ เกิดกระแสท้องถิ่นนิยม ฐานแฟนคลับของแฟนบอลไทยเติบโตอย่างต่อเนื่อง มูลค่าถ่ายทอดสดลิขสิทธิ์สูงขึ้นเรื่อยๆ แต่กลับปมด่างพร้อย ที่จะทำให้บอลไทยเสียความน่าเชื่อถือ
บทเรียนเวียดนาม-มาเลเซีย ล้มบอลทำลีกพัง
ผู้สื่อข่าววอยซ์ทีวีพูดคุยกับ นายชัยวัฒน์ แก้วผลึก ประธานกลุ่มชมรม Cheerthai Power แหล่งชุมชนคนรักฟุตบอลไทยได้กล่าวถึงเรื่องนี้ว่า ปัญหาเรื่องการตัดสินที่ค้านสายตาแฟนบอลนั้นมีมานาน ต้องยอมรับว่าสมัยนี้แฟนบอลไทยดูบอลเป็นรู้กติกามากขึ้น ถ้าเขาเห็นว่าอะไรค้านสายตาเขาสามารถบอกถึงความผิดปกติได้ แต่เสียงของแฟนบอลเต็มที่ก็คือแสดงออกทางออนไลน์ จำเป็นต้องให้สมาคมมารับฟังปัญหาในส่วนนี้
กรณีอย่างลีกฟุตบอลอิตาลีที่เคยมีปัญหาล้มบอลจนต้องนำเทคโนโลยีมาช่วยในการตัดสินอย่างจริงใจ ทั้งการมีภาพวีดีโอย้อนหลังประกอบคำตัดสินและเทคโนโลยีโกล์ไลน์ ชัยวัฒน์กล่าวว่าถ้าไทยนำมาใช้จะช่วยลดปัญหาในส่วนคำตัดสินที่ค้านสายตาได้ระดับหนึ่งเช่นเดียวกัน
แต่สิ่งที่ชัยวัฒน์เป็นห่วงก็คือ "กีฬา-การพนัน-คนไทย" มักจะแยกออกจากกันไม่ค่อยได้ ถ้ามองย้อนไปในอดีตเรามีบทเรียนจากวงการฟุตบอลมาเลเซียหรือเวียดนาม ที่ทำให้เห็นว่าการล้มบอลทำให้ลีกภายในประเทศอ่อนแอจนจะล่มสลายมาแล้ว สมัยก่อนนักฟุตบอลไทยเวลาไปแข่งที่ต่างแดนเสร็จ ก็ต้องกลับมาสาบานที่วัดพระแก้วว่าไม่ได้ล้มบอล ทำให้เราเห็นว่าปัญหาดังกล่าวมีมายาวนานในวงการฟุตบอลไทย
การยกระดับมาตรฐานลีกฟุตบอลไทยให้เป็นอาชีพก็เป็นสิ่งสำคัญ ชัยวัฒน์กล่าวว่า เมื่อเกิดเรื่องอื้อฉาวแบบนี้อาจจะทำลายบรรยากาศของแฟนบอลได้ แฟนบอลบางส่วนจะเสียความรู้สึกว่าจะตามเชียร์สโมสรต่างๆไปทำไมในเมื่อมีผู้คอยกำหนดผลและอาจจะหันหลังให้กับฟุตบอลไทย แต่ชัยวัฒน์ยังเชื่อว่าแฟนบอลส่วนใหญ่ยังพร้อมจะให้การสนับสนุนสโมสรฟุตบอลไทยอยู่
ชัยวัฒน์ปิดท้ายด้วยวิธีป้องกันปัญหาการล้มบอลโดยมองว่าปัจจุบันลีกฟุตบอลไทยเป็นลีกอาชีพ ทั้งนักฟุตบอลและผู้ตัดสินมีรายได้ที่มากขึ้นในระดับที่เลี้ยงตัวเองได้สบาย ต้องมีความเป็นมืออาชีพมากขึ้น ทางสมาคมฟุตบอลฯก็ต้องบังคับใช้พ.ร.บ.กีฬาอาชีพฯ อย่างจริงจังในการแก้ปัญหา โดยได้รับความร่วมมือจากแฟนฟุตบอล ผู้บริหารสโมสร และนักเตะ เพื่อที่จะร่วมกันผลักดันลีกฟุตบอลอาชีพให้แข็งแรงยั่งยืนต่อไป
ข่าวที่เกี่ยวข้อง