อีกไม่กี่อึดใจเราจะได้เห็นโฉมหน้าแชมป์ฟุตบอลโลกในครั้งนี้กันแล้ว หลังฟาดแข้งบนสนามกันมาต่อเนื่องมากกว่า 1 เดือน “ผู้ชนะคือผู้ที่จะจัดงานที่ยิ่งใหญ่นี้ขึ้น (The winners will be the organisers, those who organise this wonderful event)” วลาดิเมียร์ ปูติน ประธานาธิบดีรัสเซียกล่าวไว้ก่อนฟุตบอลโลกจะเริ่มขึ้นเพียงไม่กี่สัปดาห์ ที่งานฟอรั่มเศรษฐกิจ ที่นครเซนต์ปีเตอส์เบิร์ก เมื่อมีนักข่าวขอให้เขาทำนายผู้ชนะฟุตบอลโลก แม้ทีมชาติรัสเซียจะจบเส้นทางในรอบ 8 ทีมสุดท้าย แต่การที่รัสเซียได้เป็นเจ้าภาพจัดทัวร์นาเม้นท์ฟุตบอลโลกในครั้งนี้ หลายมองว่าคนที่ชนะก็คือ ‘ปูติน’

การได้รับเลือกให้เป็นเจ้าภาพในมหกรรมกีฬาทุกวันนี้ อาจไม่ได้เป็นของหวานที่สร้างความนิยมให้รัฐบาลอีกต่อไป มีตัวอย่างในการจัดโอลิมปิกและฟุตบอลโลกของบราซิลที่ตามมาด้วยความอื้อฉาวเรื่องความไม่โปร่งใส และความสิ้นเปลืองโดยไม่จำเป็น ถึงขั้นย้อนกลับมาสร้างกระแสต่อต้านให้กับรัฐบาลเอง

แต่สำหรับรัสเซีย การจัดฟุตบอลโลกครั้งนี้เป็นเหมือนการลบภาพลักษณ์แย่ๆ ที่มีต่อชาวโลก อย่างปัญหา ‘ฮูลิแกน’ ซึ่งเคยมีปัญหาในบอลยูโร 2016 ที่แฟนฟุตบอลรัสเซียหัวรุนแรงทำร้ายแฟนฟุตบอลชาวอังกฤษจนได้รับบาดเจ็บหลายสิบคน และมีการพบว่าฮูลิแกนเหล่านั้นไม่ใช่แค่แฟนบอลที่คึกคะนอง แต่ ถูกจัดตั้ง ฝึกฝนการต่อสู้มาอย่างดี โดยมีนักการเมืองในประเทศบางคนหนุนหลัง หรือจะเป็นประเด็นการเหยียดสีผิวและเหยียดผู้มีความหลากหลายทางเพศที่รัสเซียมีชื่อเสียงไม่ค่อยดีในเรื่องนี้

“มีชีวิตรอดกลับมาจาก 2 สัปดาห์ในรัสเซีย ไม่โดนทำร้ายจากฮูลิแกน ไม่ถูกหมีกิน หรือว่าถูกวางยา สื่ออังกฤษควรจะละอายที่ได้โฆษณาชวนเชื่อเกี่ยวกับคนรัสเซียมากเกินไป” แฟนบอลคนหนึ่งโพสต์ลงใน ทวิตเตอร์ เหมือนอย่างที่ปูตินเคยบอกว่าในฟุตบอลโลกผู้คนจะได้เข้าใจคนรัสเซียในมุมมองใหม่ ลบภาพความจำเดิมๆ จากอดีตออกไป

เสียงชื่นชมในการจัดฟุตบอลโลกครั้งนี้ ที่ดูเป็นมิตรกับผู้เยือนมากกว่าที่คิดกัน ไม่มีความรุนแรงให้เห็นมากนัก ฮูลิแกนก็ไม่ออกอาละวาด ทุกอย่างดูผ่อนคลาย กฎหมายเกี่ยวกับการชุมนุมถูกยกเว้นให้กับการเฉลิมฉลองอย่างยิ่งใหญ่ในเมืองต่างๆ

ระหว่างความยินดีที่ทีมชาติรัสเซียทำได้ดีเกินคาดในการล้มสเปนเข้ารอบ 8 ทีมสุดท้ายนั้นได้ รัฐบาลรัสเซียได้ผลักดันกฎหมายยืดระยะเวลาเกษียณอายุ ที่เรื่องของผู้คัดค้านโดนควบคุมตัวนั้นถูกกลบด้วยเสียงความยินดีในเกมฟุตบอล

ในเวทีโลกการบอยคอตต่างๆ ที่หลายคนขู่กันก็ไม่ได้เข้มข้นอย่างที่คิด เรื่องไม่ดีในเวทีโลกไม่ได้ถูกยกมาโจมตีรัสเซียมากมายอะไร สื่อต่างประเทศต่างมองว่าปูตินได้ชนะในเกมการเมืองโลก เพราะหากมองย้อนกลับไปเมื่อปี 2010 ที่ FIFA ได้ประกาศว่ารัสเซียได้รับเลือกให้เป็นเจ้าภาพฟุตบอลโลก เรื่องอื้อฉาวในเวทีโลกของรัสเซียมีมากเหลือเกิน ทั้งประเด็น ซีเรีย ไครเมีย หรือข่าวฉาวเรื่องการเลือกตั้งสหรัฐฯ ไปจนถึงเหตุลอบสังหารอดีตสายลับในอังกฤษ

หลังจบจากการเป็นเจ้าภาพโอลิมปิกฤดูหนาว 2014 ที่รัสเซียเป็นเจ้าภาพเพียง 4 วัน ปูตินได้ส่งกำลังไปยังเขตปกครองตนเองไครเมียที่เคยเป็นส่วนหนึ่งของยูเครน นำไปสู่วิกฤตไครเมียที่จบลงด้วยการแยกตัวจากยูเครนแล้วไปเป็นส่วนหนึ่งกับรัสเซีย และเมื่อสิ้นสุดฟุตบอลโลกครั้งนี้จึงเป็นที่จับตาว่า ก้าวต่อไปหลังฟุตบอลโลกของรัสเซียคืออะไร?