ไม่พบผลการค้นหา
พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา เชิญชวนคนไทยรักษาศีล 5 สร้างเสริมสิริมงคล เนื่องในวันวิสาขบูชา พร้อมเผยตัวเลขเศรษฐกิจ -ส่งออก -การลงทุนเอกชน เติบโตดี ปลื้มจีดีพีไตรมาสแรกปี 2561 ขยายตัวร้อยละ 4.8 สูงสุดรอบ 5 ปี

พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี กล่าวในรายการ 'ศาสตร์พระราชา สู่การพัฒนาอย่างยั่งยืน' เมื่อค่ำวันที่ 25 พ.ค. ที่ผ่านมา ว่า เนื่องในโอกาสวันที่ 29 พ.ค. 2561 นี้ ตรงกับวันวิสาขบูชา นับเป็นวันที่สำคัญที่สุดในพระพุทธศาสนา ซึ่งเป็นวันคล้ายวันที่เกิดเหตุการณ์สำคัญของพระพุทธศาสนามากถึง 3เหตุการณ์ คือวันคล้ายวันประสูติ ตรัสรู้ และปรินิพพาน ขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ดังนั้น จึงเรียกวันนี้อีกอย่างหนึ่งว่า "วันพระพุทธเจ้า" โดยเกิดขึ้นตรงกัน ณ วันขึ้น 15 ค่ำ เดือน 6 

ทั้งนี้ เพื่อเป็นการน้อมรำลึกถึงพระคุณของพระองค์ ซึ่งองค์การสหประชาชาติ ได้กำหนดให้วันวิสาขบูชาเป็นวันสำคัญสากลของโลก พร้อมทั้งยกย่องให้พระองค์ทรงเป็นมหาบุรุษผู้ให้ความเมตาต่อหมู่มวลมนุษย์

ในปีนี้สมเด็จพระอริยวงศาคตญาณ สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก ทรงเตือนประชาชนอย่าขาดสติ รู้ทันกาย วาจา ใจ อันเป็นหนทางดับความทุกข์ อีกทั้ง ทรงสั่งสอนให้ประชาชนทั้งหลาย ละกิเลส ความโลภ โกรธ หลง อันเป็นบ่อเกิดแห่งความชั่ว ความเห็นแก่ตัว หากบุคคลใด ครอบครัวใด ชุมชนใด หรือ สังคมใด ปรารถนาจะประสบความสันติสุข จำเป็นต้องตื่นรู้ เพื่อรู้เท่าทันการคิด การกระทำด้วยสัมมาสติ อันเป็นหนทางสู่ปัญญา นำมาซึ่งความหลุดพ้นห้วงทุกข์ได้อย่างแท้จริง

เชิญชวนทำกิจกรรมเทศกาลวิสาขบูชา รักษาศีล 5 ทำบุญตักบาตร ปฏิบัติธรรม

ดังนั้น เนื่องในเทศกาลวิสาขบูชา ระหว่างวันที่ 23 - 29 พ.ค. นี้ จึงเชิญชวนประชาชน ทำกิจกรรม ณ วัด และพุทธศาสนสถานใกล้บ้าน ด้วยการรักษาศีล 5 ทำบุญตักบาตร ปฏิบัติธรรม เวียนเทียน พร้อมร่วมประดับธงธรรมจักร เพื่อสร้างเสริมสิริมงคลทั้งแก่ตนเอง ครอบครัว และจรรโลงพระพุทธศาสนาให้ยั่งยืนสืบไป

ทั้งนี้ การรักษาศีล 5 และการครองสติเป็นนิจ เป็นสิ่งที่รัฐบาลได้น้อมนำศาสตร์พระราชาเกี่ยวกับหลักการการปลูกต้นไม้ในใจคน มาประยุกต์เป็นหลักสูตรต้านทุจริตศึกษา โดยชี้ให้เห็นโทษของการโกงต่อตนเองและส่วนรวม รวมทั้ง การปลูกจิตสำนึก "โตไปไม่โกง" ซึ่งจะให้บรรจุไว้ตั้งแต่หลักสูตรการศึกษาขั้นพื้นฐานจนถึงระดับอุดมศึกษา และตลอดจนหลักสูตรตามแนวทางรับราชการของข้าราชการพลเรือน ตำรวจ ทหาร ด้วย

สำหรับการปลูกต้นไม้ในใจคน เนื่องในวันต้นไม้แห่งชาติ โดยต้นไม้ประจำรัชกาลที่ 10 คือ 'ต้นรวงผึ้ง' ซึ่งเป็นต้นไม้ประจำวันพระราชสมภพและผลิดอกเป็นสีเหลืองในช่วงวันพระราชสมภพ

ดังนั้น นายกรัฐมนตรีจึงขอเชิญชวนทุกภาคส่วน ทั้งภาครัฐ ภาคเอกชน และภาคประชาชน ร่วมกันปลูกต้นไม้ประจำรัชกาล ไม้มงคล หรือต้นไม้ประจำจังหวัด ตามโครงการประชารัฐร่วมใจปลูกต้นไม้ให้แผ่นดิน ในพื้นที่ป่าชุมชน ป่าในเมือง หรือพื้นที่ของตนเอง รวมทั้งการปลูกต้นไม้ตามเส้นทางหรือสวนสาธารณะต่าง ๆ

โชว์ผลงานเศรษฐกิจ ปลื้มจีดีพีไตรมาสแรกโตร้อยละ 4.8 มากที่สุดรอบ 20 ไตรมาส  

สำหรับเศรษฐกิจไทยมีการเติบโตจากช่วงเดียวกัน หรือ 3 เดือนแรกของปีก่อน ถึงร้อยละ 4.8 ซึ่งถือเป็นอัตราการเติบโตของเศรษฐกิจไทยที่ดีที่สุดใน 20 ไตรมาส ที่ผ่านมา จากการใช้จ่ายปริมาณการส่งออกสินค้าขยายตัวได้ถึงร้อยละ 5 จากประเทศคู่ค้า และการลงทุนของภาคเอกชนที่ขยายตัวดีต่อเนื่อง ซึ่งไตรมาสนี้ การลงทุนภาคเอกชนมีอัตราการเติบโตที่ร้อยละ 3.1 ซึ่งส่วนใหญ่เป็นความสนใจที่จะลงทุนใน 10 อุตสาหกรรมเป้าหมายของประเทศ เพื่อให้สอดคล้องกับทิศทางการพัฒนาประเทศด้วยสำหรับการวางรากฐานสำคัญ ได้แก่ ด้านกายภาพ ด้านทักษะ และด้านกรอบความยั่งยืน ซึ่งจัดให้มียุทธศาสตร์ชาติ 20 ปี และแผนปฏิรูปประเทศ เพื่อกำหนดทิศทางในการผลักดันนโยบายต่างๆ ให้สอดคล้องและตอบโจทย์ความต้องการของประเทศและประชาชนในระยะยาว

ทั้งนี้ การลงทุนโครงสร้างพื้นฐานด้านดิจิทัลและโทรคมนาคม โครงการเน็ตประชารัฐ ทุกหมู่บ้าน และโครงการระบบเคเบิลใต้น้ำ ระยะทาง 25,000 กิโลเมตร ซึ่งเป็นระบบเคเบิลใต้น้ำเส้นแรกเสมือนเป็น land bridge ทางด้านโทรคมนาคมระหว่างประเทศที่จะทำให้ประเทศไทย มีวงจรเชื่อมต่อโดยตรงไปยังประเทศที่เป็นศูนย์กลางการเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตที่สำคัญของโลก ตามนโยบายThailand 4.0 ของรัฐบาล และการพัฒนาข้อมูลขนาดใหญ่ของภาครัฐ (Big data) สำหรับเพิ่มประสิทธิภาพในการบริหารราชการแผ่นดินเป็นการเชื่อมโยงข้อมูลในมิติต่างๆ ให้เกิดความเชื่อมโยงทางเศรษฐกิจของประเทศในภาพรวมอีกด้วย

ยืนยันมีแผนรับมือผู้สูงวัยระยะยาว-เตรียมมาตรการพัฒนาแรงงานสูงอายุ

พร้อมกับระบุ ว่าปัจจุบันรัฐบาลมีมาตรการที่ครอบคลุมเพื่อดูแลและสนับสนุนการดำรงชีวิตของผู้สูงอายุ โดยมีแผนงานระยะยาวในการดูแลสุขภาพและพัฒนาทักษะผู้สูงอายุร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง อาทิ แผนจัดหางานให้ผู้สูงอายุ พ.ศ. 2560 – 2564 และแผนสุขภาพแห่งชาติ พ.ศ. 2560 – 2564

ขณะเดียวกัน ในด้านสวัสดิการ รัฐบาลมีการอุดหนุนเงินยังชีพของผู้สูงอายุ เดือนละ 600 – 1,000 บาท อย่างต่อเนื่อง โดยดูแลให้ตรงกับกลุ่มเป้าหมายมากขึ้น ซึ่งเป็นกลุ่มผู้สูงอายุที่มีรายได้ไม่เกิน 1 แสนบาทต่อปี

นอกจากนี้ รัฐบาลยังมีการเตรียมความพร้อมในการพัฒนาแรงงานผู้สูงอายุ ในกรณีที่ประสงค์จะกลับเข้าสู่ตลาดแรงงาน โดยเฉพาะในชนบทผ่านวิสาหกิจชุมชน พร้อมมาตรการจูงใจให้องค์กรต่างๆ เข้าร่วมสนับสนุนด้วย รวมทั้ง การเพิ่มจำนวนสมาชิกกองทุนการออมแห่งชาติ เพื่อรองรับสังคมผู้สูงอายุ ซึ่งมาตรการต่าง ๆ เหล่านี้ ถือเป็นการดูแลผู้สูงอายุอย่างครอบคลุมในทุกมิติ

ดังนั้น จะเห็นว่าการปฏิรูปในภาพรวมของประเทศนี้ ทั้งด้านโครงสร้างพื้นฐานคมนาคม ดิจิทัล กฎหมายและข้อมูลขนาดใหญ่ (Big data) มีส่วนสำคัญต่อการกระจายความเจริญและรายได้สู่ท้องถิ่นทุกภูมิภาคอย่างต่อเนื่องแต่อาจต้องอาศัยเวลาและความร่วมมือกันของทุกภาคส่วนด้วยเพื่อให้สอดคล้องกับแนวทางการพัฒนาประเทศอย่างรอบด้าน

'นายกฯ' แต่งกลอนวันศุกร์ เพิ่มให้อีกบท

ในโอกาสนี้ นายกรัฐมนตรียังได้กล่าวถึงอีกหนึ่งบทกลอนในช่วงสุดสัปดาห์ ดังนี้

จะมีไหม เมื่อไร ไทยสงบ   

ทุกคนพบ ความสุข ตามที่หวัง

อย่าทำให้ ไทยทั้งชาติ ขาดพลัง       

สิ้นความหวัง หมดสุข ให้ทุกคน

ทั้งการเมือง บริหาร ต้องสานต่อ      

ให้เพียงพอ เพื่อประโยชน์ มหาศาล

หากเนิ่นช้า เกินไป จะเสียการ        

ให้ทุกท่าน ทุกคน นั้นสุขใจ

ขอพี่น้อง ผองไทย ช่วยสร้างชาติ      

ป่าวประกาศ ร่วมใจ ไทยเข้มแข็ง

ข่าวเกี่ยวข้อง :