ศาลแพ่ง มีคำสั่งไม่คุ้มครองชั่วคราวการจัดชุมนุมในวันที่ 13 ก.ค. 2563 นี้ หลังจากเมื่อวันที่ 9 ก.ค. กลุ่ม People Go Network ยื่นฟ้องศาลให้เพิกถอนการขยายเวลา พ.ร.ก.ฉุกเฉิน และข้อกำหนดห้ามชุมนุม รวมถึงขอคุ้มครองชั่วคราวดังกล่าว ส่วนการฟ้องให้เพิกถอนการต่ออายุ พ.ร.ก.ฉุกเฉินนั้น ศาลแพ่งนัดฟังคำสั่งวันที่ 5 ส.ค. โดยไม่มีการนัดไต่สวน
นายนิมิตร์ เทียนอุดม ตัวแทนเครือข่ายประชาชนเพื่อรัฐสวัสดิการ กล่าวว่า ศาลพิจารณาแล้วเห็นว่า ไม่มีเหตุที่จะให้การคุ้มครอง อย่างไรก็ตาม ทางเครือข่าย ยืนยันจะใช้สิทธิตามรัฐธรรมนูญ จัดการชุมนุมผลักดันผลักดันเรื่อง “บำนาญถ้วนหน้า” ให้ผู้สูงอายุตั้งแต่ 60 ปี ขึ้นไป ให้ได้รับเงินจากรัฐเดือนละ 3,000 บาท ซึ่งเป็นรายได้ขั้นต่ำตามเส้นความจน ในวันที่ 13 กรกฎาคมนี้อย่างแน่นอน ตามที่ได้แจ้งการชุมนุมไว้ตั้งแต่ต้นเดือนที่ผ่านมา
โดยช่วงเช้าของวันที่ 13 ก.ค. จะมีมวลชนประมาณ 300 คน ซึ่งจะมีมาตรการด้านสาธารณสุข เพื่อป้องกันโควิด - 19 รวมตัวหน้าที่ทำการสหประชาชาติ เพื่อชี้แจงรายละเอียดของ ร่างพ.ร.บ.บำนาญแห่งชาติ ตามหลักการ "บำนาญถ้วนหน้า" ซึ่งต้องรอการลงนามของนายกรัฐมนตรีก่อนเนื่องจากเป็นกฎหมายที่เกี่ยวข้องกับการเงิน จึงต้องมาทวงถามความคืบหน้ากับผู้เกี่ยวข้อง
จากนั้นจะมีการเดินเท้าไปรับประทานอาหารร่วมกัน ที่ด้านข้างทำเนียบรัฐบาล ซึ่งมีการเตรียมปิ่นโต 3 ชั้นมาเป็นเชิงสัญลักษณ์ในการรณรงค์ ที่สื่อถึง 3 ชั้นของระบบบำนาญประชาชนในประเทศไทย คือชั้นแรก เป็นบำนาญพื้นฐานแบบถ้วนหน้า, ชั้นที่ 2 คือบำนาญตามการจ้างงานหรือประกันสังคมและบำนาญข้าราชการ กับชั้นที่ 3 คือ การประกันภัยหรือชีวิต ที่บุคคลออกค่าใช้จ่ายเอง โดยการผลักดันเบี้ยชราภาพแบบถ้วนหน้า เป็นการสร้าง "ปิ่นโตชั้นนแรก" ในส่วนของบํานาญพื้นฐาน
โดยเครือข่าย ได้ประสานนายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรีไว้แล้ว ซึ่งนายจุรินทร์ รับปากจะมารับหนังสือและร่วมรับประทานอาหารกับภาคประชาชนด้วย
อ่านเพิ่มเติม