วันที่ 2 มี.ค. ที่พรรคเพื่อไทย ณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ ผู้อำนวยการครอบครัวเพื่อไทย แถลงกำหนดการลงพื้นที่ภาคอีสานของพรรคเพื่อไทยในวันที่ 4-5 มี.ค.นี้ ว่า เป็นการลงพื้นที่ 3 จังหวัดโซนอีสานใต้ คือ นครราชสีมา บุรีรัมย์ และสุรินทร์ โดยเริ่มต้นในวันที่ 4 มี.ค. เวลา 10.00 น. เทศบาลเมืองปัก อ.ปักธงชัย จ.นครราชสีมา เวทีที่ 2 เวลา 14.00 น. ที่ลานข้างสถานีรถไฟ อ.คง จ.นครราชสีมา ซึ่งระหว่างทางจะแวะสักการะอนุสาวรีย์ท้าวสุรนารี หรือ ย่าโม จากนั้น ช่วงเย็นจะตั้งเวทีปราศรัยที่สนามหน้าศาลกลางนครราชสีมา เป็นสถานที่เดียวกับพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา และพรรครวมไทยสร้างชาติ ใช้ปราศรัยเมื่อวัน 25 ก.พ.ที่ผ่านมา และตนมั่นใจว่าเก้าอี้ที่เคยว่างในวันนั้น จะเต็มไปด้วยประชาชนที่มาฟังการปราศรัยของพรรคเพื่อไทย

จากนั้นในวันที่ 5 มี.ค. จะเดินทางต่อไปยัง จ.บุรีรัมย์ พร้อมตั้งเวทีปราศรัยในเวลา 11.00 น.ที่ศูนย์ประสานงานพรรคเพื่อไทย อ.ประโคนชัย และเดินทางต่อไปยัง จ.สุรินทร์ เพื่อตั้งเวทีปราศรัยที่ตลาดเมืองใหม่ไอคิว อ.เมือง โดยมีแกนนำพรรคเพื่อไทยร่วมเดินทางไปด้วย อาทิ นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว หัวหน้าพรรคเพื่อไทย ประเสริฐ จันทรรวงทอง เลขาธิการพรรคเพื่อไทย แพทองธาร ชินวัตร หัวหน้าครอบครัวเพื่อไทย สุทิน คลังแสง อดิศร เพียงเกษ เป็นต้น ทั้งนี้ น.ส.แพทองธาร จะร่วมลงพื้นที่กับพรรคเพื่อไทยจนกว่าจะครบกำหนดคลอด 

โดยจะมีการประกาศนโยบายเกี่ยวกับที่ดินทำกิน ระบบสาธารณูปโภค และราคาพืชผลทางการเกษตร ซึ่งกระบวนการของพรรคเพื่อไทยนั้น จะใช้เทคโนโลยีเข้ามาสนับสนุน และหาช่องทางในการส่งเสริมประชาชน เพื่อให้ผลผลิตทางการเกษตรที่เรามีสอดคล้องกับความต้องการตลาดโลก

ส่วนการลงพื้นที่อีสานใต้ครั้งนี้ ณัฐวุฒิ ระบุว่า เศรษฐา ทวีสิน ประธานที่ปรึกษาหัวหน้าครอบครัวเพื่อไทย ติดภารกิจสัปดาห์นี้ จึงไม่สามารถร่วมลงพื้นที่ได้ แต่ในสัปดาห์ต่อไปเชื่อว่าจะร่วมคณะลงพื้นที่กับพรรคเพื่อไทยด้วย 

เมื่อถามถึงการวางบทบาทของ เศรษฐา ให้ประชาชนเข้าใจ เพราะที่ผ่านมาจะรู้จักในแวดวงธุรกิจ ณัฐวุฒิ กล่าวว่า แน่นอนว่า เศรษฐา เป็นที่รู้จักและยอมรับในแวดวงธุรกิจ และจะเข้ามามีบทบาทในมติด้านนโยบายอื่นของพรรคเพื่อไทยด้วย ส่วนการเป็นที่รู้จักของประชาชนในช่วงต้น แน่นอนว่าอาจต้องใช้เวลาในการสื่อสาร แสดงบทบาท เพื่อเชื่อมต่อกับประชาชนมากขึ้น แต่เชื่อว่าการทำงานของพรรคเพื่อไทยจะทำให้ เศรษฐา มายืนในจุดที่ประชาชนสัมผัสได้และให้การตอบรับในนามที่ปรึกษาหัวหน้าครอบครัวเพื่อไทย หรือจะมีสถานะอื่นๆต่อไปได้เป็นอย่างดี 

ณัฐวุฒิ ยังกล่าวถึงการตอบรับ เศรษฐา ของสมาชิกพรรคเพื่อไทย ว่า เมื่อบุคคลที่มีศักยภาพจากด้านต่างๆเดินเข้าพรรค ก็เป็นเรื่องที่สมาชิกพรรคจะให้การตอบรับ แต่ท้ายที่สุดไม่ว่าพรรคเพื่อไทยจะตอบรับแบบไหนอย่างไร ก็เป็นเรื่องที่ประชาชนจะตัดสินใจ