ไม่พบผลการค้นหา
‘สกุณา’ ชี้ ‘ประยุทธ์’ อยู่เพื่อรักษาอำนาจไม่ได้อยู่เพื่อประชาชนอัด 4 ปี รายได้เกษตรกรไทยตกต่ำสวนทางพ่อค้านายทุนรวยเพิ่มขึ้น

วันที่ 14 ธ.ค. 2565 สกุณา สาระนันท์ ส.ส.สกลนคร พรรคเพื่อไทย เปิดเผยว่า ในช่วงที่ผ่านมา พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ทอดทิ้งเกษตรกรอย่างสิ้นเชิง แม้จะมีการเขียนนโยบายด้านการเกษตรไว้อย่างสวยงาม ว่าจะยกระดับราคาสินค้าเกษตร ให้เกษตรกรมีรายได้ที่ดีขึ้นอย่างมั่นคง และยั่งยืน แต่ตลอด 3 ปีกว่าจะครบ 4 ปี นโยบายของพล.อ.ประยุทธ์ ไม่เคยเกิดขึ้นจริง เพราะรัฐบาลไม่ให้ความสำคัญกับภาคเกษตรอย่างจริงจัง ปล่อยให้นายทุนเอาเปรียบปรับขึ้นสินค้าจำเป็นกับเกษตรกรอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะปุ๋ยที่ปรับสูงขึ้นถึง 4 เท่า รัฐบาลอ้างเหตุสงครามทำปุ๋ยมีราคาสูง รัฐแก้ไม่ได้ ปล่อยให้เกษตรกรแก้ปัญหารับภาระต้นทุนที่สูงขึ้นด้วยตัวเอง

พล.อ.ประยุทธ์ ดีใจที่การส่งออกสินค้าเกษตรได้ราคาดี รัฐบาลตีโจทย์ผิดหรือเปล่า การแก้ปัญหาเกษตรที่ดีที่สุดคือให้เกษตรกรอยู่ได้ มีเงินในกระเป๋าเกษตรกรเพิ่มขึ้น แต่รัฐบาลกลับปล่อยให้พ่อค้านายทุนกดราคารับซื้อ สินค้าเกษตรราคาถูก แล้วไปขายแพง การแก้ปัญหาให้เกษตรกรอย่าไปดูที่ยอดขายให้ไปดูที่รายได้เกษตรกร แม้ส่งออกสินค้าเกษตรดีแต่เงินถึงมือเกษตรกรหรือเข้ากระเป๋านายทุน 

สกุณา กล่าวด้วยว่าที่ผ่านมาพล.อ.ประยุทธ์ ไม่เข้าใจบริบทของภาคเกษตรกรรม ว่าต้องทำอย่างไรให้เกษตรกรมีรายได้เพิ่มขึ้น ไม่สามารถ ลดต้นทุนหรือเพิ่มคุณภาพในการผลิตให้กับเกษตรกรได้เลยนอกจากนี้น่า สงสารเกษตรกรที่ทำนากุ้ง เพราะเจ๊งไปหลายราย ปัจจจัยหลักมาจากกุ้ง ราคาตกและต้นทุนที่เพิ่มสูงขึ้น รวมทั้งการส่งออกที่ลดลงจากเดิมประเทศไทย ส่งออกกุ้งปีละ 500,000 ตัน ปัจจุบันลดลงเหลือเพียงปีละ 100,000 ตันเท่านั้น มาจากการที่รัฐบาลปล่อยให้นายทุนกินรวบตลาดกุ้งและเอาเปรียบเกษตรกรนากุ้ง 

”พล.อ.ประยุทธ์ ไม่เคยคิดแก้ปัญหาให้กับพี่น้องเกษตรกรอย่างแท้จริง เพราะไม่มีความรู้และไม่เข้าใจวิถีเกษตรอย่างแท้จริง เวลามีปัญหาก็อ้างว่า สั่งการไปแล้วแต่ไม่เคยติดตามผลการแก้ปัญหา ที่เป็นเช่นนี้เพราะ พล.อ.ประยุทธ์ ต้องการเพียงเข้ามามีอำนาจและสืบทอดอำนาจเท่านั้น ไม่ได้ต้องการเข้ามาแก้ปัญหาให้ประชาชน ส่งผลให้ประชาชนไม่ได้ประโยชน์อะไรกับการอยู่ในอำนาจของพล.อ.ประยุทธ์ แต่อย่างใด หากยังต้องการรั้งอำนาจต่อไปประชาชนคงทรมานกว่านี้” สกุณา กล่าว