สถาบันเพื่อวิทยาศาสตร์และความมั่นคงระหว่างประเทศ ในกรุงวอชิงตันของสหรัฐฯ เปิดเผยว่า แม้สหประชาชาติจะลงมติคว่ำบาตรเกาหลีเหนือ จากกรณีที่เกาหลีเหนือทดสอบขีปนาวุธและอาวุธนิวเคลียร์อย่างต่อเนื่อง แต่ 49 ประเทศทั่วโลกกลับละเมิดมติคว่ำบาตรเกาหลีเหนือของยูเอ็น โดยเฉพาะประเทศคู่ค้าสำคัญของเกาหลีเหนืออย่างจีน เยอรมนี บราซิล อินเดีย และฝรั่งเศส

ในจำนวน 49 ประเทศ มี 13 ประเทศที่ยังคงรักษาความสัมพันธ์ด้านการทหารและการค้าอาวุธกับเกาหลีเหนือ ได้แก่ แองโกลา คิวบา คองโก เอริเทรีย นามิเบีย โมซัมบิก แทนซาเนีย อิหร่าน ศรีลังกา เมียนมา ซีเรีย ยูกันดา และอียิปต์

การท่องเที่ยวเกาหลีเหนือ

นอกจากนี้ ยังมี 19 ประเทศที่คงความสัมพันธ์ด้านการค้า ธุรกิจ และการทำธุรกรรมข้ามชาติกับเกาหลีเหนือ ได้แก่ แองโกลา บราซิล บัลแกเรีย จีน อียิปต์ เอธิโอเปีย เยอรมนี อินเดีย อิหร่าน มาเลเซีย นามิเบีย โปแลนด์ โรมาเนีย รัสเซีย สิงคโปร์ ศรีลังกา ซูดาน ซีเรีย และสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์

ขณะที่ 18 ประเทศ ยังคงนำเข้าสินค้าและแร่ ซึ่งอยู่ในบัญชีคว่ำบาตรของสหประชาชาติอย่างต่อเนื่อง ได้แก่ บาร์บาโดส จีน คอสตาริกา อียิปต์ เอลซัลวาดอร์ ฝรั่งเศส เยอรมนี อินเดีย อินโดนีเซีย อิหร่าน ไอร์แลนด์ มาเลเซีย เม็กซิโก ปากีสถาน ฟิลิปปินส์ ศรีลังกา ซีเรีย และเวียดนาม

โรงงานผลิตอาหารในเกาหลีเหนือ

ส่วนอีก 20 ประเทศ ให้ความช่วยเหลือเรือสินค้าจากเกาหลีเหนือในการเปลี่ยนธงหรืออำนวยความสะดวกในการเดินทาง โดยประเทศเหล่านี้ได้แก่ บราซิล กัมพูชา จีน อียิปต์ ฟิจิ กรีซ ญี่ปุ่น คิริบาส มาเลเซีย หมู่เกาะมาร์แชลล์ มองโกเลีย ปาเลา ปานามา เปรู รัสเซีย เซียร์ราลีโอน สิงคโปร์ แทนซาเนีย โตโก รวมถึงไทย

แม้ที่ผ่านมา นักวิเคราะห์หลายสำนักต่างตั้งข้อสังเกตว่า มาตรการคว่ำบาตรเกาหลีเหนือของสหประชาชาติไม่สามารถยับยั้งการพัฒนาขีปนาวุธและอาวุธนิวเคลียร์ของเกาหลีเหนือได้ และยิ่งทำให้ความตึงเครียดในคาบสมุทรเกาหลีทวีความรุนแรงยิ่งขึ้น แต่สถาบันเพื่อวิทยาศาสตร์และความมั่นคงระหว่างประเทศกลับแสดงความเชื่อมั่นว่า การคว่ำบาตรเป็นหนึ่งในมาตรการที่มีประสิทธิภาพ เช่นกรณีของยูกันดา ที่ตัดสินใจขับเจ้าหน้าที่ของเกาหลีเหนือออกจากประเทศ แม้ตลอดช่วงหลายปีที่ผ่านมา ยูกันดาจะได้รับความช่วยเหลือด้านการฝึกฝนทหารและตำรวจจากเกาหลีเหนือก็ตาม