พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ห่วงใยสถานการณ์อุทกภัยในพื้นที่ภาคใต้ โดยได้รับรายงานว่าตั้งแต่วันที่ 25 พ.ย. – 1 ธ.ค. 60 เกิดน้ำไหลหลากอันเนื่องมาจากฝนที่ตกหนักติดต่อกันหลายวันใน 9 จังหวัด คือ พัทลุง ตรัง นครศรีธรรมราช ปัตตานี สงขลา นราธิวาส ยะลา สุราษฎร์ธานี และสตูล รวม 84 อำเภอ และประชาชนได้รับผลกระทบ 161,266 ครัวเรือน
“นายกฯ สั่งการไปยังกระทรวงมหาดไทยให้ทุกจังหวัดออกติดตามสำรวจความเดือดร้อนของพี่น้องประชาชนและความเสียหายของสาธารณูปโภค เช่น ถนนหนทาง ไฟฟ้า ประปา และเร่งแก้ไขปัญหาเฉพาะหน้า เพื่อบรรเทาปัญหาให้กับทุกคนโดยเร็วที่สุด”
นอกจากนี้ นายกรัฐมนตรียังได้กำชับให้ทุกหน่วยงาน ได้แก่ ปภ. จังหวัด หน่วยทหาร องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น และหน่วยที่เกี่ยวข้อง บูรณาการให้ความช่วยเหลือผู้ประสบภัยอย่างเต็มที่ตามแผนเผชิญเหตุที่ได้กำหนดไว้ โดยเน้นการเข้าถึงผู้ประสบภัยให้ได้มากที่สุด ซึ่งล่าสุดขณะนี้มีการแจกจ่ายถุงยังชีพอย่างต่อเนื่อง และจัดตั้งศูนย์พักพิงชั่วคราวให้กับผู้ที่ไม่สามารถอาศัยอยู่ในบ้านเรือนของตนเองได้ในทุกจังหวัด
รวมทั้งศูนย์ ปภ.เขตได้ระดมเครื่องจักรกลด้านสาธารณภัย เต้นท์ที่พัก รถผลิตน้ำดื่ม รถไฟฟ้าส่องสว่าง รถสุขาเคลื่อนที่ เรือท้องแบน ให้บริการประชาชน ตลอดจนติดตั้งเครื่องสูบน้ำและเครื่องผลักดันน้ำเพิ่มเติม เพื่อเร่งระบายน้ำออกจากพื้นที่น้ำท่วมขังลงสู่ลำน้ำสายหลักและทะเลต่อไป
“ปริมาณฝนในภาคใต้จะลดลง แต่ยังคงมีฝนตกต่อเนื่องและมีฝนตกหนักบางพื้นที่ จึงขอแจ้งเตือนให้ประชาชนในพื้นที่เสี่ยงภัยยังคงป้องกันและระวังอันตราย เช่น น้ำป่าไหลหลาก หรือน้ำล้นตลิ่งฉับพลัน โดยผู้ที่ประสงค์จะขอความช่วยเหลือจากทางราชการ สามารถติดต่อได้ที่สายด่วนนิรภัย 1784 ตลอด 24 ชม.”