นายศิริชัย วัฒนโยธิน อดีตประธานศาลอุทธรณ์ เปิดใจผ่านรายการ Overview สถานีโทรทัศน์วอยซ์ทีวี หลังลาออกจากประธานศาลอุทธรณ์ เนื่องจากไม่ได้รับเลือกให้เป็นประธานศาลฎีกา ว่า ส่วนตัวไม่คิดว่าจะเป็นแบบนี้ เพราะศาลจะถือระบบอาวุโสเป็นหลักเป็นคนแรก ตนเป็นคนสุดท้ายของรุ่นที่ 19 นอกจากนั้นเป็นรุ่นที่ 20 ดังนั้น ตนเองควรได้เป็นประธานศาลฎีกาตามระบบอาวุโสที่เคยปฏิบัติมา อีกทั้งตนไม่มีข้อเสียในเรื่องความไม่บริสุทธิ์ ซึ่งตนเป็นคนตรง ข้าราชการตุลาการก็รู้ว่าตนเองถูกกลั่นแกล้ง ทั้งนี้ การที่ตนเองถูกโยกเป็นที่ปรึกษาประธานศาลฎีกาถือว่าเป็นเรื่องการเมือง ถ้าตนหาผลประโยชน์จากประธานศาลอุทธรณ์ในคดียาเสพติดจะได้เงินมหาศาล เพราะสามารถเขียนสำนวนให้ยกฟ้องได้ 

อดีตประธานศาลอุทธรณ์ ยังระบุถึงการเลือกตั้งที่จะเกิดขึ้นด้วยว่า ส่วนตัวก็อยากจะสมัครเป็นหัวหน้าพรรคการเมือง ถ้าหากพรรคการเมืองใดมาจ้างตนได้ ก็พร้อมจะเป็นหัวหน้าพรรคการเมือง เพื่อแก้ปัญหาการเมือง

เมื่อถามว่า กล้าลุยกับ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และพรรคพลังประชารัฐหรือไม่ นายศิริชัย ระบุว่า ตนเป็นคนตรงไปตรงมา ไม่ได้กลัวอะไร ถ้าเป็นหัวหน้าพรรคการเมืองต้องมีนโยบาย มีความดีความชอบ ถ้าประชาชนอยากได้ของใหม่ก็เลือกตน ซึ่งตนจะปรับเปลี่ยนแก้ไขระบบโดยเฉพาะการศึกษา ที่ต้องเปลี่ยนวิธีการสอนเด็กไม่ต้องให้ท่องจำ ให้เด็กรู้จักคิด หลักสูตรต้องเปลี่ยนได้แล้ว 

ถามว่า 4 ปีมานี้ มีการเมืองมายุ่งกับกระบวนการยุติธรรมไหม นายศิริชัย ยอมรับว่า "ตัวผมเองเป็นคนที่ค่อนข้างตรงไปตรงมาไม่ค่อยเข้ามาหาผม แต่ว่าจะดูจากสิ่งแวดล้อมต่างๆน่าจะมีบ้าง อย่างคำถามที่ว่าผมไม่ได้เป็น (ประธานศาลฎีกา) เพราะอะไร ผมตรงไปตรงมา เวลาเป็นประธานกรรมการสรรหาแล้วจะขอไม่ได้ มันก็ยังมีขบวนการที่อยากจะเข้ามายุ่งเกี่ยวกับศาลอยู่"

"ระบบการปกครอง ผมไม่ติดใจ ไม่ว่าจะเผด็จการ ประชาธิปไตย สังคมนิยม คอมมิวนิสต์ ขอให้ทำให้ประเทศไทยเจริญ เช่นเดียวกับประเทศจีนที่เมื่อก่อนยากจนแต่ตอนนี้รวยมาก เป็นพลเมืองของโลกมีคุณภาพ ใครก็ตามทำแบบนี้ได้ผมก็พอใจ" นายศิริชัย ระบุ

เมื่อถามว่า ประเทศไทยไม่มีประชาธิปไตยมา 4 ปีแล้วนับแต่ปี 2557 ระบบเผด็จการหรือประชาธิปไตยจะเป็นทางออก นายศิริชัย ระบุว่า ตนมานั่งดูแล้วนายกฯ ตอนนี้จะเอาพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี หรือไม่เอา มีอยู่สองกลุ่ม แล้วถ้าไม่เอาจะมีใครเป็นตัวเลือก ก็ไม่มี ดังนั้น ตนจะเป็นตัวเลือก คิดว่าตนเองจะดีกว่าพล.อ.ประยุทธ์ เพราะตอนนี้เป็นระบบที่พล.อ.ประยุทธ์ แต่งตั้งสภานิติบัญญัติแห่งชาติ มีอำนาจ คสช.แต่งตั้งได้ทุกอย่าง โดยมาตรา 44 สั่งได้ทุกอย่าง ถามว่าเศรษฐกิจดีขึ้นแค่ไหน และต่อไปมีการเลือกตั้ง ไม่สามารถสั่งให้ใครหยุดได้ ไม่สามารถใช้มาตรา 44 ได้ จะดีขึ้นกว่านี้หรือไม่

สำหรับนายศิริชัย วัฒนโยธิน อดีตประธานศาลอุทธรณ์ได้ลาออกจากราชการเมื่อวันที่ 17 ก.ค. 2560 หลังคณะกรรมการตุลาการศาลยุติธรรม (ก.ต.) แต่งตั้งนายศิริชัย เป็นประธานศาลฎีกา ตามที่คณะอนุกรรมการ ก.ตได้กลั่นกรองมาแล้ว แต่ที่ประชุม ก.ต.มีมติเอกฉันท์ 14 ต่อ 0 เสียงไมเห็นชอบให้นายศิริชัยเป็นประธานศาลฎีกา เนื่องจากเป็นผู้ไม่เหมาะสมที่จะดำรงตำแหน่งดังกล่าว แม้จะเป็นผู้อาวุโสสูงสุดก็ตาม