น.ส.อนุตตมา อมรวิวัฒน์ รักษาการรองเลขาธิการพรรคเพื่อไทย และคณะทำงานเศรษฐกิจพรรคเพื่อไทย กล่าวว่า ตามที่พรรคพลังประชารัฐเปิดตัว 4 รัฐมนตรี อยากเรียกร้องให้ทั้งหมดลาออกจากตำแหน่ง เพื่อไม่เป็นการเอาเปรียบพรรคการเมืองอื่น แต่ขณะนี้ยังไม่ลาออกจึงอยากตั้งคำถาม 4 รัฐมนตรี ที่มีหน้าที่ดูแลเศรษฐกิจ 5 คำถามดังนี้
1. การที่กระทรวงอุตสาหกรรม มีหน้าที่ดูแล การส่งเสริมการลงทุน (บีโอไอ) ดังนั้น จึงอยากให้ ชี้แจงว่าตลอด 4 ปีที่ผ่านมาการขอส่งเสริมการลงทุนเหตุใดจึงลดลงอย่างมาก และการลงทุนจริงยิ่งลดลงมากกว่าก่อนมีการปฏิวัติมาก เป็นผลงานหาเสียงได้หรือไม่ และสาเหตุมาจากการปฏิวัติใช่หรือไม่
2. กระทรวงพาณิชย์ ที่รับผิดชอบราคาพืชผลเกษตร เหตุใดตลอด 4 ปีที่ผ่านมา ราคาสินค้าเกษตรจึงลดลงต่ำมาก รายได้เกษตรกรลดลงมาโดยตลอด จะถือเป็นผลงานได้หรือ และที่เคยบอกว่า เรือดำน้ำจะช่วยฟื้นเศรษฐกิจ จะช่วยได้อย่างไร ผลงานที่ผ่านมาจะใช้หาเสียงได้หรือไม่
3. ไทยแลนด์ 4.0 ที่เป็นเรื่องที่รัฐบาลใช้เป็นแนวทางพัฒนาประเทศ แต่ไม่ปรากฏผลงานที่เด่นชัด ประชาชนไม่สามารถรับรู้ได้ว่า ประเทศไทยเป็น 4.0 ได้อย่างไร มีแต่เรื่อง สวนทางกับการพัฒนา ทำให้ยิ่งถอยหลัง เช่น การนำ พรบ คอมพิวเตอร์ มาใช้เล่นงาน ดำเนินคดีกับ ผู้ที่เห็นต่างจากรัฐบาลอย่างไม่มีเหตุผล แม้กระทั่งการหาเสียงก็ห้ามใช้โซเชียลมีเดีย ทั้งๆที่อยู่ในยุคสมัยนี้แล้วที่ทั่วโลกต่างก็ใช้การหาเสียงผ่านโซเชียล จึงอยากให้อธิบายว่าการกระทำดังกล่าวเป็น 4.0 อย่างไร
4. การที่เศรษฐกิจ 4 ปีที่ผ่านมาขยายตัวเฉลี่ยปีละ 2% กว่าเท่านั้น และ พึ่งจะมาขยายตัวได้เกิน 4 % ในปีนี้ ทั้งที่ควรขยายตัวเกิน 4% ตั้งแต่ปีแรกถ้าไม่มีการประท้วงและไม่เกิดการรัฐประหาร เป็นการเสียโอกาสของประเทศใช่ หรือไม่ และ การที่สื่อต่างชาติเช่น บีบีซี รายงานว่า สัดส่วนของรายได้ที่เพิ่มขึ้นจากการเติบโตที่สูงถึง 96% ตกไปอยู่กับคนเพียง 1% ของประเทศเท่านั้น แสดงว่าคนส่วนใหญ่ยังลำบากมากใช่หรือไม่ ตอกย้ำความเหลื่อมล้ำใช่หรือไม่ จะเป็นผลงานหาเสียงได้หรือ
5. การที่รัฐมนตรีไปร่วมพรรคการเมืองที่ถูกสังคมสงสัยว่าเป็นการสืบทอดอำนาจและไม่ยอมลาออกทั้งๆที่การเลือกตั้งจะมีขึ้นในอีกไม่นาน การดำเนินนโยบายต่างๆในลักษณะ ลด แลก แจก แถม จะเป็นการเอื้อประโยชน์พรรคการเมืองที่สังกัดหรือไม่ และยังใช้ชื่อโครงการประชารัฐ เหมือนกับชื่อพรรคอีก ซึ่งไม่เหมือนรัฐบาลรักษาการของการเลือกตั้งที่ดำเนินนโยบายอะไรไม่ได้แล้ว และเหตุใด 4 ปีที่ผ่านมาถึงไม่ทำอะไร มาทำตอนเฉพาะช่วงใกล้เลือกตั้ง
ดังนั้นการที่พรรคพลังประชารัฐพยายามจะชูภาพบุคคลากรทางเศรษฐกิจ แต่ผลงานทางเศรษฐกิจใน 4 ปีกว่าที่ผ่าน ไม่ได้ทำให้ประชาชนมีความเป็นอยู่ดีขึ้น อีกทั้งยังไม่ยอมลาออกจากตำแหน่ง จะเป็นภาพลักษณ์ที่ติดลบในสายตาของประชาชน ทั้งนี้เชื่อได้ว่าประชาชนจะตัดสินใจเลือกพรรคการเมืองจากความสามารถในการบริหารและผลงานทางเศรษฐกิจที่เคยมีผลเป็นรูปธรรม ซึ่งเชื่อว่าประชาชนส่วนใหญ่คงมีพรรคการเมืองในใจแล้ว ที่จะทำให้ประชาชนกินดีอยู่ดีและมีความสุขมากกว่าตลอด 4 ปีที่ผ่านมามาก โดยเฉพาะแนวคิดทักษิโณมิกส์ ที่เป็นที่นิยมของประชาชนจำนวนมาก