สังคม
เมื่อ 'ความรัก' เจอ 'ความหลอกลวง' ธุรกิจงานแต่งอู้ฟู่ แต่ผู้เสียหายมีเพียบ
การแข่งขัน 'วิ่งเพื่อรัก' เปิดโอกาสให้คู่รักที่เตรียมตัวจัดการแต่งงาน 300 คู่ เข้าร่วมการวิ่งแข่ง พร้อมกับปฏิบัติภารกิจต่างๆ ตามเงื่อนไขของผู้จัดงาน รวมเป็นระยะทาง 3 กิโลเมตร เมื่อวันที่ 24 พ.ย.ที่ผ่านมา และผู้ชนะ ได้แก่ 'วสันต์ ทัศนามล' และ 'สายสร้อย ส่งประเสริฐ' ว่าที่คู่บ่าวสาวชาวไทย ใช้เวลา 27.43 นาที เป็นผู้ได้รับรางวัลเป็นแพคเกจจัดงานแต่งงานและทริปฮันนีมูนไปยังมัลดีฟส์และเมืองซัปโปโรที่ญี่ปุ่น โดยทั้งคู่เปิดเผยกับสำนักข่าวรอยเตอร์ว่า รู้สึกดีใจ เพราะไม่คาดว่าจะชนะ แต่ก็ถือว่าสมกับที่พยายามสู้กันมา
ทั้งนี้ กิจกรรม 'วิ่งเพื่อรัก' จัดขึ้นอย่างต่อเนื่องเป็นปีที่ 7 โดยเป็นความร่วมมือกันระหว่าง Easy FM 105.5 และ Crystal Design Center หรือ CDC โดยคู่รักที่เข้าร่วมการแข่งขันจะต้องสวมชุดเจ้าบ่าวและเจ้าสาวตามแบบสากล และเจ้าสาวจะเริ่มต้นออกวิ่งจากจุดสตาร์ทไปตามเส้นทางในระยะ 2 กิโลเมตร เพื่อไปพบกับเจ้าบ่าว และหลังจากนั้นเจ้าบ่าวต้องอุ้มเจ้าสาววิ่งอีก 1 กิโลเมตร จนถึงเส้นชัย
ที่ผ่านมา กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬาของไทยมีนโยบายส่งเสริมการท่องเที่ยวเพื่อการแต่งงานและฮันนีมูน ตั้งเป้าดึงดูดทั้งคู่รักชาวไทยและชาวต่างประเทศ โดยระบุว่าเป็นการขยายฐานตลาดของกลุ่มนักท่องเที่ยวที่มีความสนใจพิเศษและมีแนวโน้มจะใช้จ่ายสูง
โดยปีที่แล้ว ททท. จัดงานส่งเสริมการท่องเที่ยวเพื่อการแต่งงานและฮันนีมูน Destination Wedding Planners Congress (DWP Congress) 2017 แต่การแข่งขันวิ่งเพื่อชิงแพคเกจแต่งงานและทริปฮันนีมูนต่างประเทศ มูลค่ากว่า 2 ล้านบาทในครั้งนี้ ก็ช่วยสร้างสีสันให้กับธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับการแต่งงานซึ่งสร้างเม็ดเงินมหาศาลทั่วประเทศในแต่ละปีเช่นกัน
เมื่อเดือน เม.ย.ที่ผ่านมา นิตยสาร Hello! รายงานว่า 'ไทย' ติดอันดับ 3 ของประเทศปลายทางที่คู่แต่งงานนิยมเดินทางมาฮันนีมูน ซึ่งสถานที่ซึ่งมีผู้มาฮันนีมูนมากที่สุด ได้แก่ เชียงใหม่ กรุงเทพฯ และเกาะสมุย ส่วนอันดัน 2 คือ มัลดีฟส์ และอันดับ 1 เกาะบาหลีของอินโดนีเซีย โดยอ้างอิงข้อมูลการติดแท็กที่เกี่ยวข้องกับคำว่า #honeymoon ของผู้ใช้อินสตาแกรมทั่วโลกในช่วงปีที่ผ่านมา
อย่างไรก็ตาม ในขณะที่ธุรกิจเกี่ยวกับการแต่งงานและฮันนีมูนกำลังเติบโต ก็มีคดีฟ้องร้องที่เกี่ยวข้องกับธุรกิจเหล่านี้เพิ่มขึ้นเช่นกัน และหลายกรณีมีผู้เสียหายจำนวนมาก หรือไม่ก็กลายเป็นกระแสโด่งดังเป็นที่วิพากษ์วิจารณ์ของสื่อโซเชียลมีเดีย โดนคดีล่าสุดที่เพิ่งเกิดขึ้นเมื่อกลางเดือน พ.ย. เกิดจากผู้เสียหายราว 20 รายรวมตัวเข้าแจ้งความเอาผิดร้านเวดดิ้งแห่งหนึ่งในย่านลาดพร้าว ไม่ทำตามสัญญาในการบริการตามแพกเกจ
เมื่อตรวจสอบข้อมูลกับกรมพัฒนาธุรกิจการค้า กระทรวงพาณิชย์ พบว่าธุรกิจดังกล่าวถูกยกเลิกไปแล้ว แต่ยังมีผู้ใช้บริการไม่ได้รับบริการและไม่ได้เงินค่ามัดจำคืนอีกเป็นจำนวนมาก คิดเป็นมูลค่าความเสียหายราว 10 ล้านบาท
การสัญญาจองแพคเกจแต่งงานจึงควรตรวจสอบและพูดคุยรายละเอียดหรือเงื่อนไขต่างๆ อย่างชัดเจนตั้งแต่ต้น ในกรณีที่ฝ่ายหนึ่งฝ่ายใดผิดสัญญาจะได้สามารถดำเนินคดีหรือฟ้องร้องค่าเสียหายได้
ข่าวที่เกี่ยวข้อง:
