สำนักข่าวเอพีและเจแปนไทม์สรายงานความคืบหน้ากรณีเจ้าหน้าที่ตำรวจไทยจับกุมชาวต่างชาติ 10 คน แบ่งเป็นชายชาวรัสเซีย 7 คน และหญิงชาวเบลารุส 3 คน จากการเปิดสอนเรื่องเซ็กซ์ที่พัทยาเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว โดยสื่อต่างประเทศเปิดเผยว่า 2 ใน 10 ผู้ถูกจับกุม ได้แก่ น.ส.อนาสตาเชีย วาชูเควิช หรือ 'นาสเตีย ริบกา' นางแบบชาวเบลารุส และนายอเล็กซานเดอร์ คิริลลอฟ หรือ 'อเล็กซ์ เลสลี' ชาวรัสเซียผู้ประกาศตัวว่าเป็นกูรูด้านเซ็กซ์
ทั้งคู่ถูกนายอเล็กเซีย นาวัลนี แกนนำกลุ่มต่อต้านรัฐบาลรัสเซีย เอ่ยพาดพิงในวิดีโอที่เผยแพร่ผ่านยูทูบเมื่อวันที่ 8 ก.พ.ในฐานะผู้เปิดเผยเบาะแสโดยบังเอิญว่ารองนายกรัฐมนตรีด้านต่างประเทศของรัสเซียอาจพัวพันการแทรกแซงเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐฯ เมื่อปี 2016 ซึ่งเป็นกรณีเดียวกับที่หน่วยงานด้านความมั่นคงของสหรัฐฯ กำลังตรวจสอบข้อเท็จจริง
นายนาวัลนีได้เก็บรวบรวมข้อมูล รูปภาพ และวิดีโอต่างๆ จากบัญชีอินสตาแกรมและหนังสือชีวประวัติของริบกา จนสรุปได้ว่าริบกาและเลสลีอยู่ในเหตุการณ์ที่นายโอเล็ก ดีริปาสกา มหาเศรษฐีรัสเซียซึ่งเป็นชู้รักของริบกา นัดพบกับนายเซอร์เก เอ็ดวาร์อิช ปรีคอดโค รองนายกรัฐมนตรีรัสเซีย ด้านนโยบายต่างประเทศ เพื่อพูดคุยเรื่องการเมืองในสหรัฐฯ ช่วงเดือน ส.ค.2016 ซึ่งตรงกับช่วงที่ยังมีการหาเสียงเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐฯ พอดี
การเปิดโปงของนายนาวัลนีทำให้นายดีริปาสกาและนายปรีคอดโคออกมายอมรับว่านัดพบกันจริง แต่ย้ำว่าเป็นการพบกันในฐานะเพื่อนฝูง ก่อนที่ทั้งคู่จะร่วมกันยื่นฟ้องดำเนินคดีกับริบกาและเลสลี ในข้อหาละเมิดความเป็นส่วนตัว นำข้อมูลของทั้งคู่ไปเผยแพร่ผ่านสื่อสาธารณะ ทำให้เสื่อมเสียชื่อเสียง แต่ริบกาและเลสลีเดินทางมายังไทยเพื่อเปิดสอนเทคนิคด้านเซ็กซ์ที่พัทยา จนนำไปสู่การบุกจับกุมครั้งล่าสุด แต่ตำรวจไทยกล่าวว่า ทั้งหมดถูกจับเพราะอยู่เกินกำหนดวีซ่า ทำงานโดยไม่ได้รับอนุญาต และลักลอบเข้าเมือง
อย่างไรก็ตาม ริบกาและเลสลี รวมถึงผู้ถูกจับกุมทั้งหมด ได้รับอนุญาตให้ประกันตัวเมื่อวานนี้ (28 ก.พ.) ก่อนที่จะถูกนำตัวไปขังต่อที่ห้องกักของสำนักงานตรวจคนเข้าเมือง (ตม.) ในกรุงเทพฯ เพื่อรอดำเนินเรื่องส่งตัวกลับประเทศต้นทาง และริบกาได้โพสต์ภาพและข้อความใหม่ลงในบัญชีอินสตาแกรมส่วนตัวของเธอ ซึ่งมีผู้ติดตามอยู่ประมาณ 117,000 คนทั่วโลก โดยระบุว่า ทางการรัสเซียกดดันให้ไทยปฏิบัติตามข้อเรียกร้อง แต่ถ้าเธอและพรรคพวกถูกส่งกลับรัสเซีย ก็อาจจะต้อง 'ตายในคุก' หรือไม่ก็ 'ถูกฆ่า'
ริบกาเรียกร้องให้ทางการสหรัฐฯ ช่วยเหลือ แลกเปลี่ยนกับการเปิดเผยข้อมูลการแทรกแซงการเลือกตั้งของรัสเซีย ซึ่งเธอระบุว่ามีหลักฐานที่เป็นทั้งเสียงและภาพเคลื่อนไหว แต่ไม่ขอพูดอะไรผ่านสื่อมากไปกว่านี้ เพราะเป็นห่วงว่าชีวิตตัวเองจะไม่ปลอดภัย
ขณะที่เลสลีเขียนจดหมายเปิดผนึกผ่าน 'ข่าวสดอิงลิช' เมื่อวันที่ 27 ก.พ. ระบุว่าพวกเขาพร้อมจะให้ข้อมูลสำคัญกับทางการสหรัฐฯ เกี่ยวกับการแทรกแซงการเลือกตั้งประธานาธิบดี แต่สหรัฐฯ ต้องช่วยเหลือไม่ให้พวกเขาถูกส่งกลับไปยังรัสเซีย พร้อมย้ำว่าการจับกุมพวกเขามีเบื้องหลังทางการเมืองชัดเจน เพราะพวกเขา 'รู้มากไป' แต่โฆษกสถานทูตสหรัฐฯ ประจำประเทศไทย งดออกความเห็นต่อกรณีดังกล่าว
ด้านนายดมิทรี เปสคอฟ โฆษกประจำตัวประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ผู้นำรัสเซีย ปฏิเสธข้อกล่าวหาที่ระบุว่ารัสเซียกดดันทางการไทย พร้อมย้ำว่าการเดินทางเยือนไทยของนายนิโคไล ปาทรูเชฟ เลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติรัสเซีย เมื่อปลายเดือน ก.พ.ที่ผ่านมา ไม่เกี่ยวข้องใดๆ กับเรื่องนี้ เพราะเป็นการเดินทางไปปฏิบัติภารกิจตามปกติ
ทั้งนี้ รัสเซียมีกำหนดจัดการเลือกตั้งประธานาธิบดีในวันที่ 18 มี.ค. ซึ่งนายปูตินมีแนวโน้มว่าจะได้รับเลือกกลับมาดำรงตำแหน่งเดิมอีกวาระหนึ่ง แต่ขณะเดียวกันก็มีกระแสความไม่พอใจในรัฐบาลเพิ่มขึ้นเช่นกัน เนื่องจากแกนนำฝ่ายค้านคนสำคัญ รวมถึงนายนาวัลนี ถูกกล่าวหาและดำเนินคดีในเรื่องต่างๆ จนถูกตัดสิทธิไม่ให้ลงสมัครเลือกตั้ง ซึ่งหลายฝ่ายมองว่าเป็นการตั้งข้อหาทางการเมืองเพื่อสกัดคู่แข่งของนายปูติน
ข่าวที่เกี่ยวข้อง: