ไม่พบผลการค้นหา
หลังจาก 'อีลอน มัสก์' ผู้ก่อตั้งเทสลาและสเปซเอ็กซ์ ลบบัญชีเฟซบุ๊กทิ้งเมื่อสัปดาห์ก่อน ก็มีคนดังอีกหลายรายทำแบบเดียวกัน รวมถึงนิตยสารผู้ชายอย่าง Playboy เพื่อตอบโต้เฟซบุ๊กที่ไม่ปกป้องข้อมูลส่วนตัวของผู้ใช้งาน

กระแสรณรงค์ให้ลบบัญชีเฟซบุ๊กทิ้ง #DeleteFacebook ยังไม่จาง เพราะเหล่าคนดังในหลายแวดวงประกาศว่าจะลบบัญชีเฟซบุ๊กเพิ่มขึ้น เพื่อตอบโต้ที่เฟซบุ๊กเป็นแพลตฟอร์มให้กับบริษัทวิจัยจากอังกฤษ 'เคมบริดจ์ แอนาลิติกา' ทำแบบสอบถามกับผู้ใช้เฟซบุ๊ก จนทำให้ข้อมูลส่วนตัวของผู้ใช้เฟซบุ๊กรั่วไหลกว่า 50 ล้านคน

'ไบรอัน แอ็กตัน' ผู้ร่วมก่อตั้งและพัฒนาแอปพลิเคชันสื่อสาร 'วอทซ์แอพ' ซึ่งถูกเฟซบุ๊กซื้อกิจการไปแล้ว เป็นคนแรกที่ประกาศว่าจะลบบัญชีเฟซบุ๊กทิ้ง โดยระบุว่าสิ่งที่เกิดขึ้นเป็นเรื่องที่ไม่อาจยอมรับได้ และคนดังคนต่อมา คือ 'อีลอน มัสก์' ผู้ก่อตั้งบริษัทเทสล่าและสเปซเอ็กซ์ ประกาศลบเฟซบุ๊กของบริษัทซึ่งมีผู้ติดตามรวมกันมากกว่า 2.5 ล้านคนทั่วโลก

ล่าสุด คูเปอร์ เฮฟเนอร์ ลูกชายของฮิว เฮฟเนอร์ ผู้ก่อตั้งนิตยสารเพลย์บอย ประกาศผ่านทวิตเตอร์เมื่อวานนี้ (28 มี.ค.) ว่าบัญชีเฟซบุ๊กของเพลย์บอยจะถูกลบทิ้งในเร็วๆ นี้ หลังจากที่เพลย์บอยต้องเจอกับความยากลำบากมากมายในการใช้เฟซบุ๊ก ทั้งเรื่องนโยบายห้ามเผยแพร่ภาพโป๊ และกรณีข้อมูลรั่วซึ่งถูกเปิดเผยเมื่อวันที่ 18 มี.ค.ที่ผ่านมา

ส่วนคนดังคนอื่นๆ ที่ประกาศว่าจะลบเฟซบุ๊ก ได้แก่ 'แฌร์' นักร้องหญิงชื่อดังชาวอเมริกัน และวิลล์ เฟอร์เรล นักแสดงตลก-นักเขียนบท และผู้กำกับชาวอเมริกัน ซึ่งประกาศว่าจะลบเฟซบุ๊กภายใน 72 ชั่วโมง รวมถึงมูลนิธิมอซิลลา ซึ่งเป็นผู้พัฒนาเบราว์เซอร์ มอซิลลา ไฟร์ฟ็อกซ์ สั่งระงับบัญชีเฟซบุ๊กชั่วคราว โดยระบุว่าจะกลับมาใช้อีกครั้งเมื่อเฟซบุ๊กปรับปรุงมาตรการด้านความปลอดภัยของข้อมูลผู้ใช้งานเรียบร้อยแล้ว

ขณะที่เว็บไซต์ซีเน็ตเผยแพร่ผลสำรวจความคิดเห็นพนักงานด้านเทคโนโลยี 2,600 คนซึ่งทำงานกับไมโครซอฟต์ สแนป อูเบอร์ กูเกิล แอมะซอน และเฟซบุ๊ก พบว่า ร้อยละ 31 ของผู้ตอบแบบสอบถามบอกว่าพวกเขาจะลบเฟซบุ๊กเพราะรู้สึกว่าข้อมูลส่วนตัวไม่ปลอดภัย โดยร้อยละ 50 ของพนักงานไมโครซอฟต์ระบุว่าจะลบบัญชีเฟซบุ๊กแน่นอน ส่วนพนักงานของเฟซบุ๊กเพียงร้อยละ 2 เท่านั้นที่ตอบว่าจะลบบัญชีเฟซบุ๊กส่วนตัว

แม้ว่ามาร์ก ซักเคอร์เบิร์ก ผู้ก่อตั้งและผู้บริหารเฟซบุ๊กจะออกมายอมรับความผิดพลาด และขอโทษผู้ใช้เฟซบุ๊กอย่างเป็นทางการ แต่กรณีข้อมูลรั่วก็ยังส่งผลกระทบต่อมูลค่าการตลาดของเฟซบุ๊กอยู่ดี โดยมูลค่าการตลาดร่วงลงมาถึง 58,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ภายในสัปดาห์เดียวเมื่อวันที่ 24 มี.ค. 

ที่มา: Bloomberg/ CNET/ FoxBusiness

อ่านเพิ่มเติม: