'ฮัสซัน อัล คอนทาร์' ผู้ลี้ภัยชาวซีเรียวัย 36 ปี อาศัยอยู่ในบริเวณเทอร์มินอลขาเข้า (อาคารผู้โดยสารขาเข้า) ของสนามบินนานาชาติกัวลาลัมเปอร์ ประเทศมาเลเซีย มาตั้งแต่วันที่ 7 มี.ค. ทีี่ผ่านมา เนื่องจากรัฐบาลมาเลเซียไม่อนุมัติวีซ่าทำงานและอาศัยอยู่ในมาเลเซียให้แก่เขา
ขณะเดียวกัน สายการบินก็ไม่อนุญาตให้เขาขึ้นเครืองบิน เนื่องจากหนังสือเดินทางใกล้จะหมดอายุแล้ว
อย่างไรก็ดี หลังเกิดสงครามซีเรียไม่นาน 'อัล คอนทาร์' ได้ไปทำงานเป็นผู้จัดการด้านการตลาดในบริษัทที่สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ แต่หลังจากเขาตกงาน เขาถูกขับออกจากสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์เมื่อปี 2560 ที่ผ่านมา โดยเขาเลือกที่จะไปมาเลเซีย เนื่องจากมาเลเซียเป็นเพียงหนึ่งในไม่กี่ประเทศที่ชาวซีเรียไม่จำเป็นต้องใช้วีซ่าในการเดินทางเข้าประเทศ แต่หลังจากที่เขาอยู่ในมาเลเซียเกินกำหนดวีซ่านักท่องเที่ยว 3 เดือน เขาจึงถูกขึ้นบัญชีดำไม่ให้เข้าประเทศอีก
หลังติดอยู่ในอาคารผู้โดยสาร 'อัล คอนทาร์' ได้สร้างแฮชแท็ก #mystory_hassan #syrian_stuck_at_airport #airport_is_my_home เพื่อบอกเล่าเรื่องราวของตัวเอง จนคนเริ่มรู้จักเขามากขึ้น เนื่องจากเรื่องราวชีวิตของเขาคล้ายกับเรื่องราวของ 'วิกเตอร์ นาวอร์สกี' พระเอกในภาพยนต์เรื่อง The Terminal ซึ่งนำแสดงโดยทอม แฮงก์ นักแสดงฮอลลีวูดชื่อดัง โดยตัวละครดังกล่าวเดินทางออกจากประเทศสมมติแห่งนี้ และมาติดค้างอยู่ในสนามบินนานาชาติเจเอฟเค ในสหรัฐฯ แต่เขาไม่สามารถเดินทางเข้าสหรัฐฯ ได้ ขณะเดียวกัน ก็ไม่สามารถกลับบ้านเกิดซึ่งกำลังมีการรัฐประหารได้
อย่างไรก็ตาม 'อัล คอนทาร์' กล่าวว่าชีวิตประจำวันอาจคล้ายกับหนังเรื่อง The Terminal อยู่บ้าง แต่ก็ไม่เหมือนกันเสียทีเดียว เพราะเทอร์มินอลที่เขาอยู่ไม่มีร้านอาหารหรือร้านค้า มีเพียงแท่นชาร์จโทรศัพท์มือถือ 3 แท่น เก้าอี้ และห้องน้ำ และทุกคืนเขาจะไปนอนบนพื้นใต้บันไดเลื่อน แต่ในขณะที่พระเอกหนังได้เดทกับแคทเธอรีน ซีตา-โจนส์ ผู้แสดงเป็นนางเอกของเรื่อง แต่ 'อัล คอนทาร์' ต้องอยู่ในเทอร์มินอลเพียงลำพัง แต่เขาก็ใช้โอกาสนี้ให้การสร้างแฮชแท็ก #the_terminal_movie_2 และแท็กทอม แฮงก์ให้รับรู้เรื่องราวของเขาด้วย
แม้ปัจจุบันมาเลเซียจะรับผู้ลี้ภัยไปแล้วเกือบ 160,000 คน และทางการมาเลเซียได้ยื่นข้อเสนอให้ 'อัล คอนทาร์' ลงทะเบียนขอสถานะผู้ลี้ภัย แต่เขาปฏิเสธข้อเสนอดังกล่าว โดยให้เหตุผลว่า เขาไม่ต้องการรับความช่วยเหลือแบบชั่วคราว เพราะหากเขาไม่ได้รับสิทธิในการอาศัยอย่างถาวร ปรับตัวให้เข้ากับสังคมมาเลเซีย และไม่มีสิทธิทำงาน ชีวิตของเขาจะไม่ดีขึ้นเลยในระยะยาว
ปัจจุบัน ข้าหลวงใหญ่ผู้ลี้ภัยแห่งสหประชาชาติ หรือ UNHCR เปิดเผยว่ากำลังเจรจากับรัฐบาลมาเลเซีย เพื่อหาทางออกให้กับ 'อัล คอนทาร์'
ขณะที่ นักเคลื่อนไหวชาวแคนาดาได้ช่วยระดมทุนในเว็บไซต์ GoFundMe เพื่อซื้อตั๋วเครื่องบินให้เขาไปเอกวาดอร์ ซึ่งเป็นประเทศที่ชาวซีเรียสามารถเข้าประเทศได้โดยไม่ต้องใช้วีซ่า
'อัล คอนทาร์' เปิดเผยถึงเหตุผลที่เขาไม่สามารถกลับไปซีเรียได้ นอกจากประเด็นเรื่องสงครามที่ยังไม่มีทีท่าจะสิ้นสุดลงในซีเรียแล้ว เขายังไม่ได้เข้าเกณฑ์ทหารตามที่รัฐบาลของ 'บาชาร์ อัล อัสซาด' ประธานาธิบดีซีเรียบังคับ แต่เมื่อไม่กลับซีเรีย ก็ยังไม่มีประเทศไหนที่ต้องการให้เขาอยู่ในประเทศ ทั้งที่ตัวเขาเองไม่ใช่คนเลวร้าย
ข่าวที่เกี่ยวข้อง :