โทรศัพท์มือถือหรูอย่างไอโฟนของแอปเปิลประสบปัญหาการขายอย่างหนักในจีน ซึ่งนักวิเคราะห์มองว่ามีสาเหตุมาจากการตั้งราคาที่สูงเกินไปและการไม่มีลูกเล่นใหม่ๆที่น่าสนใจออกมาเมื่อเทียบกับหัวเว่ย แบรนด์โทรศัพท์สัญชาติจีน ด้านแอปเปิลรับทราบสถานการณ์ที่เกิดขึ้นและคาดการณ์ความเป็นไปได้ว่ายอดขายในตลาดจีนจะยังลดลงอย่างต่อเนื่องในไตรมาสที่ 1 ของปี 2562
ล่าสุดบริษัทค้าปลีกยักษ์ใหญ่ของจีนอย่าง ซูนหนิง (Suning) ออกโปรโมชั่นลดราคา ไอโฟน เท็นอาร์ รุ่นความจุ 128 กิกะไบต์ จาก 6,999 หยวน หรือประมาณ 33,000 บาท มาอยู่ที่ 5,799 หยวน หรือประมาณ 27,000 บาท โดยลดลงถึง 1,200 หยวน หรือประมาณ 5,600 บาท
ด้านบริษัทค้าปลีกอื่นๆในจีน ลดราคาลงไปต่ำกว่าซูนหนิงอย่างชัดเจน ผู้ค้ารายหนึ่งลดราคา ไอโฟน เท็นเอส แม็กซ์ รุ่นความจุ 256 กิกะไบต์ ซึ่งเป็นรุ่นเรือธงของแอปเปิล ลงมาอยู่ที่ 9,699 หยวน หรือประมาณ 45,700 บาท ซึ่งต่ำกว่าราคาขายกลางของแอปเปิลที่อยู่ที่ 10,999 หยวน หรือประมาณ 52,000 บาท ในขณะที่ผู้ค้ารายอื่นๆ จัดรายการลดราคา 700 หยวน หรือประมาณ 3,300 บาท ทั้งรุ่นความจุ 128 และ 256 กิกะไบต์
อย่างไรก็ตาม แม้จะมีการลดราคาจากผู้ขายรายย่อย แต่ราคาไอโฟนที่ขายในจีนก็ยังสูงกว่าราคาไอโฟนที่ขายในสหรัฐฯ ราคาขาย ไอโฟน เท็นเอส แม็กซ์ รุ่นความจุ 256 กิกะไบต์ อยู่ที่ 1,249 ดอลลาร์สหรัฐฯ หรือประมาณ 39,800 บาท
"ถึงเวลาแล้วที่ (ทิม) คุก และ แอปเปิล ต้องส่องกระจกและปรับปรุงการตั้งราคาและการพัฒนาด้านเทคโนโลยีของบริษัทให้ก้าวไปข้างหน้า ใช้ฐานการผลิตที่ใหญ่ที่สุดในโลกหันหัวเรือจากความมืดมิดในคูเพอร์ทิโนไปทิศทางอื่น" เดเนียล อีฟ กรรมการผู้จัดการใหญ่บริษัทเว็ดบุช ซีเคียวริตี้ (Wedbush Securities) กล่าว
ปัญหาการขายสินค้าแอปเปิลในจีนที่ตกต่ำลงมาจาก 2 สาเหตุสำคัญ โดยทั้งผู้เชี่ยวชาญและผู้บริโภคออกมาบอกเป็นเสียงเดียวกันว่า แอปเปิลตั้งราคาสินค้าผิดอีกทั้งยังไม่มีลูกเล่นหรือคุณสมบัติใหม่ๆออกมาล่อตาล่อใจ ฝั่งนักวิเคราะห์กล่าวว่าปัจจุบันคู่แข่งหลายรายกำลังเข้ายึดครองตลาดโทรศัพท์หรูที่เคยเป็นของแอปเปิลไป
ทั้งนี้ คำเตือนของผู้เชี่ยวชาญก็คือ หากแอปเปิลยังทะนงตัวและไม่คิดพัฒนาคุณภาพโทรศัพท์ให้สอดคล้องกับราคาครึ่งแสนของสินค้า การเผชิญชะตากรรมเดียวกับที่โนเกียเคยเผชิญคงมาหายใจรดต้นคอแอปเปิล
อ้างอิง; CNBC