ไม่พบผลการค้นหา
‘เสรี’ ซัด ‘ก้าวไกล’ ขับ ‘หมออ๋อง’ พ้นพรรค ผิดธรรมชาติ เป็นการสมคบคิดสร้างเงื่อนไขรักษา ‘ผู้นำฝ่ายค้าน-รองปธ.สภาฯ’ ชี้เป็นปัญหาที่ศาลรัฐธรรมนูญต้องวินิจฉัย

วันที่ 29 ก.ย. ที่อาคารรัฐสภา เสรี สุวรรณภานนท์ สมาชิกวุฒิสภา (สว.) กล่าวถึงกรณีที่พรรคก้าวไกลมีมติขับ ปดิพัทธ์ สันติภาดา สส.พิษณุโลก ออกจากพรรคเพื่อรักษาเก้าอี้รองประธานสภาผู้แทนราษฏรคนที่ 1 ไว้ว่า การขับออกจากพรรคถือเป็นเจตนารมณ์ที่ให้สมาชิกพรรคที่ไม่สามารถทำงานร่วมกันได้ สามารถทำหน้าที่ สส. ต่อไปได้ แต่สิ่งที่มันปรากฎอยู่ในปัจจุบัน เป็นเรื่องที่เหมือนกับตกลงรู้เห็นร่วมกันที่จะไม่ให้อยู่กับพรรค 

เสรี กล่าวว่า สามารถดูได้ 2 นัย นัยแรกดูตามรัฐธรรมนูญ แต่อีกนัยคือการหลบเลี่ยง หาทางออกในการที่จะไม่พ้นออกจากตำแหน่งรองประธานสภาฯ ซึ่งเป็นประเด็นที่จะถูกวินิจฉัยต่อไปว่า การออกจากพรรคควรออกตามธรรมชาติ แต่การสมคบคิดรู้เห็นร่วมกันที่จะสร้างเงื่อนไขก็เป็นปัญหาที่จะต้องหยิบยกขึ้นมาวินิจฉัย และคนที่จะรับผิดชอบคือ ศาลรัฐธรรมนูญ 

ดังนั้น คนที่จะยื่นได้ก็คือคนที่เขาติดใจในเรื่องคุณสมบัติการดำรงตำแหน่ง ถ้าสมาชิกในสภาฯ รวมกัน 1 ใน 10 ก็สามารถยื่นต่อศาลรัฐธรรมนูญได้ เพื่อถามว่า พฤติกรรมการแถลงข่าวของพรรคก้าวไกลเป็นไปตามรัฐธรรมนูญ หรือการขับออกจากพรรคชอบด้วยรัฐธรรมนูญหรือไม่ 

“มันเป็นเรื่องน่าหนักใจ ส่วนหนึ่งเป็นทางออกที่ทำให้เขาอยู่ได้ทั้งสองตำแหน่ง ทั้งรองประธานสภาฯ และผู้นำฝ่ายค้าน แต่วิธีการแบบนี้อาจจะไม่ปกติ เป็นการออกแบบที่ไม่ขัดแย้งกัน แต่ตกลงกันเพื่อจะแยกกันอยู่” เสรี กล่าว 

แม้ว่าทางพรรคก้าวไกลจะยืนยันในกระบวนการตามกฎหมาย เสรี ให้ความเห็นว่า มันเป็นเรื่องของความคิดเห็น บางคนไม่ติดใจก็ไม่มีปัญหาอะไร ส่วนจะส่งผลต่อจุดยืนความสง่างามของพรรคหรือไม่นั้น มันเป็นจุดยืน หรือนโยบายของแต่ละพรรค เพราะก่อนหน้านี้ก็เคยมีแบบนี้ เมื่อเกิดความขัดแย้งกันอยู่ร่วมกันในพรรคหนึ่งไม่ได้ก็มีมติพรรคให้ออก แต่เมื่อไม่เป็นความขัดแย้งก็อยู่ที่มุมมองของแต่ละคน มันก็เป็นบรรทัดฐานว่า ในการที่จะขับออกจากพรรค ควรเป็นมติพรรคที่อยู่ร่วมกันไม่ได้จริงๆ ก็ให้โอกาสไปอยู่พรรคอื่นได้