ไม่พบผลการค้นหา
‘ชัยวุฒิ’ ลงพื้นที่นครศรีฯ สักการะพระบรมธาตุฯ ขอพร พปชร.ได้ตั้งรัฐบาล เปรียบ ‘ประวิตร’ เป็นนายหัวเมืองคอนฯ ข่ม ‘แพทองธาร’ ชูตัวเองเป็นสะใภ้เมืองคอน บอกลุงป้อมดูแลรับใช้ประชาชนมาตลอด

วันที่ 29 เม.ย. ที่วัดพระมหาธาตุ วรมหาวิหาร จ.นครศรีธรรมราช ชัยวุฒิ ธนาคมานุสรณ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม ในฐานะรองหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ ได้เข้ากราบสักการะพระบรมสารีริกธาตุ พร้อมทำพิธีห่มผ้ารอบพระบรมธาตุ เพื่อความเป็นสิริมงคล รวมทั้งขอพรให้ได้รับชัยชนะในการเลือกตั้งที่จะมีขึ้นในวันที่ 14 พ.ค. นี้ เพื่อที่จะเป็นรัฐบาล 

จากนั้นเวลาประมาณ 15.15 น. ชัยวุฒิ ให้สัมภาษณ์ถึงกระแสของพรรคพลังประชารัฐในพื้นที่จ.นครศรีธรรมราช ที่ในขณะนี้อาจจะดีกว่าพรรครวมไทยสร้างชาติว่า ประชาชนในพื้นที่นครศรีธรรมราชก็ให้ความรักทั้งลุงตู่ และลุงป้อมอยู่แล้ว ดูจากการเลือกตั้งเมื่อปี 2562 ที่ผ่านมา ก็ได้รับ ส.ส.ถึง 4 คน วันนี้เมื่อทั้ง 2 ลุงแยกกันทำงาน ตนก็เชื่อมั่นว่า พรรคพลังประชารัฐก็ได้ลงพื้นที่ทำความเข้าใจจนประชาชนมีความเชื่อมั่นและรัก พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ในฐานะหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ หรือ ลุงป้อม และอยากให้เขาไปทำงานให้กับพี่น้องประชาชนอย่างแน่นอน 

ผู้สื่อข่าวถามถึงกรณีที่ แพทองธาร ชินวัตร แคนดิเดตนายกรัฐมนตรีพรรคเพื่อไทย ระบุว่า ขอแรงสนับสนุนจากชาวนครศรีธรรมราชในฐานะสะใภ้เมืองคอนฯ ชัยวุฒิ กล่าวว่า ลุงป้อมก็เป็นนายหัวเมืองคอน ทำงานเพื่อประชาชน ช่วยเหลือประชาชน ไม่ว่าจังหวัดนครศรีธรรมราชจะมีปัญหาอะไร พล.อ.ประวิตรก็ลงมาดูแลโดยตลอด ตนมั่นใจว่า คะแนนนิยมดีกว่าแน่นอนส่วนจะได้ ส.ส.กี่คนนั้น ก็คงจะระบุได้ยาก รู้เพียงแค่ว่าพล.อ.ประวิตร สู้ทุกที่ สู้ทุกเขต เพราะเราเป็นพรรคใหญ่และที่ผ่านมาก็เป็นแกนนำรัฐบาล เราก็สู้ทุกเขตทั่วประเทศ

เมื่อถามถึงการขอพรในวันนี้ ชัยวุฒิ กล่าวว่า ก็ขอพรให้ชนะเลือกตั้ง ให้ประชาชนรักและศรัทธาในพรรค พลังประชารัฐเลือกพรรคพลังประชารัฐให้เข้าไปเป็นรัฐบาล ทำหน้าที่เพื่อประชาชน 

ส่วนกรณีที่ นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว หัวหน้าพรรคเพื่อไทย ประกาศพร้อมลาออกจากหัวหน้าพรรค หากพรรคเพื่อไทยจับมือร่วมรัฐบาลกับพรรคพลังประชารัฐ หรือรวมไทยสร้างชาติ ชัยวุฒิ กล่าวว่า จริงๆ ก็ไม่อยากให้ นพ.ชลน่าน ลาออก ก็เห็นใจท่านแต่ในอดีตที่ผ่านมาก็เคยเห็นหัวหน้าพรรคลาออกมาแล้ว เพราะหัวหน้าพรรคก็อาจจะคิดไม่ตรงกับพรรคก็ได้ ทั้งนี้ก็คงต้องดูผลการเลือกตั้ง ไม่อยากให้รีบตัดสินว่า ใครจะจับมือกับใคร ที่สำคัญวันนี้นโยบายหรืออุดมการณ์บางอย่างของเรากับเขา ก็อาจจะไม่ตรงกัน แต่ถ้าหากมีการจับมือร่วมกันทำงาน ก็คงต้องมีการพูดคุย ทำข้อตกลงร่วมกัน แต่ถ้าสุดท้ายแล้ว ไม่สามารถจับมือกันได้ ก็คงต้องแยกย้ายกันทำงาน 

"การเลือกตั้งครั้งนี้ไม่ได้แบ่งเป็นฝักเป็นฝ่าย เพราะทุกพรรคก็มีนโยบายที่แตกต่างกัน ผู้สมัครก็แตกต่างกันประชาชนก็คงเลือกผู้สมัครที่มาทำงานรับใช้ได้ ในส่วนของพรรคพลังประชารัฐ เราก็พร้อมที่จะทำงานรับใช้ชาวนครฯทุกคน ขอให้ทุกคนเลือกพรรคที่รัก เลือกคนที่ใช่คนที่ชอบ อย่าไปยึดติดกับฝ่าย เพราะภายหลังการเลือกตั้ง มันไม่มีผ่านหรอกครับ ก็สลายกันไปหมด ต่างฝ่าย ต่างอาจจะมาจับมือกันร่วมรัฐบาลไป ทุกอย่างสามารถเกิดขึ้นได้หมด" ชัยวุฒิ กล่าว

ทั้งนี้ ชัยวุฒิ กล่าวทิ้งท้ายพร้อมหัวเราะอย่างสนุกสนานว่า ก็ไม่อยากพูดว่า พรรคพลังประชารัฐจะจับมือเป็นฝ่ายค้านกับพรรคก้าวไกล