ไม่พบผลการค้นหา
'ณัฐวุฒิ' ผอ.ครอบครัวเพื่อไทย ระบุแผนการลงพื้นที่ จ.นครศรีธรรมราช ในชื่อตอน "ครอบครัวเพื่อไทย แหลงจริง ทำได้ คนใต้หรอยแรง" เผย 'แพทองธาร' ลงพื้นที่ภาคใต้ครั้งแรกในฐานะหัวหน้าครอบครัวเพื่อไทย และสะใภ้ชาวใต้ หวังยกระดับ และรักษาเสถียรภาพราคายาง-ปาล์มน้ำมัน

วันที่ 7 ธ.ค. 2565 ที่พรรคเพื่อไทย ณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ ผู้อำนวยการครอบครัวเพื่อไทย แถลงข่าวเรื่องครอบครัวเพื่อไทยลงพื้นที่ จ.นครศรีธรรมราช ในวันที่ 11 ธ.ค. นี้ ว่า การลงพื้นที่ใช้ชื่อตอนว่า 'ครอบครัวเพื่อไทย แหลงจริง ทำได้ คนใต้หรอยแรง' ที่หอประชุมเมืองเทศบาลนครนครศรีธรรมราช หรือหอประชุมทุ่งท่าลาด เวลา 09.15-11.30 น. นำโดย แพทองธาร ชินวัตร หัวหน้าครอบครัวเพื่อไทย ชลน่าน ศรีแก้ว หัวหน้าพรรคเพื่อไทย จาตุรนต์ ฉายแสง ประธานคณะปราศรัยหาเสียงเลือกตั้ง ซึ่งรับผิดชอบดูแลพื้นที่ภาคใต้ วิสุทธิ์ ไชยณรุณ ส.ส.พะเยา ในฐานะผู้รับผิดชอบนโยบายด้านการเกษตร สุธรรม แสงประทุม สมาชิกพรรคเพื่อไทย และสมาชิกคนรุ่นหนุ่มสาวที่จะไปพูดถึงแนวทางยกระดับราคาพืชผลการเกษตร และรักษาเสถียรภาพราคายาง และปาล์มน้ำมัน รวมถึงนโยบายของพรรคในภาพรวมระดับทั่วประเทศ เป้าหมายการแลนด์สไลด์ของพรรคเพื่อไทย เหตุผลความจำเป็น และสถานการณ์ที่กำลังเผชิญอยู่ขณะนี้ พูดถึงการกระจายอำนาจ 

ณัฐวุฒิ ระบุอีกว่า หลังเสร็จสิ้นเวทรีปราศรัย คณะครอบครัวเพื่อไทยจะเดินทางไป อ.สิชล จ.นครศรีธรรมราช เพื่อพบปะ หารือแลกเปลี่ยนความคิดเห็น รับฟังข้อเสนอในทางนโยบาย และแนวทางการแก้ปัญหา กับกลุ่มพี่น้องผู้ประกอบการประมงในพื้นที่ซึ่งได้รับการตอบรับใน 3 สมาคมที่จะส่งตัวแทนเข้าร่วม และผู้ประกอบการท่องเที่ยว ซึ่งถือเป็นแหล่งรายได้สำคัญ อีกแหล่งหนึ่งของ จ.นครศรีธรรมราช และพื้นที่ภาคใต้ เพราะมีศักยภาพในการท่องเที่ยวเชิงธรรมชาติ ศิลปวัฒนธรรม และวิถีชีวิต โดยหลังวิกฤตโควิด-19 พรรคเพื่อไทยมีแนวทางชัดเจน ที่จะพัฒนาส่วนกลาง และภูมิภาค รวมถึงโครงสร้างต่างๆ ให้สอดรับกับประชาชนที่จะเข้ามาท่องเที่ยวได้มากขึ้น 

ณัฐวุฒิ กล่าวอีกว่า คณะของหัวหน้าครอบครัวเพื่อไทยจะแวะเยี่ยมชมจุดชมวิวถนนเลียบชายฝั่งสองอำเภอคือ อ.ขนอม และอ.สิชล จ.นครศรีธรรมราช ซึ่งเกิดจากแนวคิดการก่อสร้างถนนเพื่อเป็นยุทธศาสตร์ในการท่องเที่ยวชายฝั่งอ่าวไทยในสมัยรัฐบาลยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ก่อนจะมีการรัฐประหารในเวลาต่อมา ก่อนที่จะเดินทางกลับกรุงเทพฯ ที่สนามบินสุราษฎร์ธานี 

ณัฐวุฒิ กล่าวว่า เป็นครั้งแรกที่ แพทองธาร จะเดินทางลงพื้นที่ในภาคใต้ตั้งแต่รับตำแหน่งหัวหน้าครอบครัวเพื่อไทย และจะมีครั้งต่อไปในพื้นที่ชายฝั่งอันดามัน อีกทั้งยังเป็นการลงพื้นที่ครั้งแรกในฐานะ 'สะใภ้ชาวใต้' เพราะครอบครัวของ ปิฎก สุขสวัสดิ์ สามีของแพทองธาร พื้นเพเป็นชาว ต.ท่าวัง จ.นครศรีธรรมราช รวมถึง น้องธิธาร บุตรสาวของแพทองธาร และสมาชิกใหม่ในครรภ์ที่จะไปพบปะพี่น้องประชาชนที่นั่นด้วย 

"บอกพี่น้องชาวภาคใต้ว่า ผมจะพาลูกหลานชาวใต้ไปคาราวะ แสดงความมุ่งมั่นตั้งใจที่ทำงานให้พี่น้องทั้งประเทศ และพี่น้องชาวใต้ ในวันที่ 11 ธ.ค. ตั้งแต่ ตี 9 .15 ขอให้ไปกันล่วงหน้าอย่าเกินจากนั้น แล้วเราจะพบปะแบบวิถีทางประชาธิปไตย" ณัฐวุฒิ กล่าว เป็นสำเนียงใต้ 

ณัฐวุฒิ เสริมอีกว่า ก่อนส่งท้ายปีเก่า ต้อนรับปีใหม่ พรรคเพื่อไทยมีแผนงานจะไปพบปะพี่น้องประชาชนส่วนภูมิภาค จึงขออนุญาตเล่าให้ฟังหลังกลับมาจาก จ.นครศรีธรรมราช และงานนี้ภาษาปักษ์ใต้ เรียกว่า 'เปิดตูเล' ยินดีต้อนรับทุกคน ทุกท่านในการที่จะมาพบปะสนทนามารับทราบความตั้งใจ มาฟังนโยบาย 

แม้จะทราบดีกว่า ภาคใต้อาจจะยังไม่ใช่พื้นที่เข้มแข็ง แต่ก็เป็นพื้นที่มุ่งมั่นตั้งใจว่า มีศักยภาพทางเศรษฐกิจ ทำให้พี่น้องประชาชนในพื้นที่อยู่ดีกินดี ลืมตาอ้าปาก และส่งผลต่อภาพรวมเศรษฐกิจของประเทศอย่างมีนัยยะสำคัญ 

เมื่อถามว่า พรรครวมไทยสร้างชาติ ซึ่งเป็นพรรคใหม่ของ พล.อ.ประยุทธ์ ตั้งเป้าจะกวาด ส.ส.ภาคใต้ พรรคเพื่อไทยมียุทธศาสตร์อย่างไร ณัฐวุฒิ กล่าวว่า อยากจะมี ส.ส. แบบแบ่งเขตในพื้นที่ แต่เราเดินทำงานในพื้นที่ภาคใต้ ด้วยการดำเนินงาน เข้าใจว่าความยากของพรรคเพื่อไทยในพื้นที่ภาคใต้นั้นมีมาก แต่วันนี้เงื่อนไขการเมืองแตกต่างไปคือ ตลอดเวลา 8 ปี ผู้คนจำนวนมาก และการบริหารงานของ พล.อ.ประยุทธ์ และรัฐบาล ไม่ใช่หนทางสู่อนาคตที่ดีกว่าพรรคการเมืองร่วม และรัฐบาล แทบทุกพรรคเวลานี้ ภาคใต้เป็นพื้นที่แข่งขันช่วงชิงสำคัญ ไม่ว่าจะพลังประชารัฐ ประชาธิปัตย์ หรือภูมิใจไทยซึ่งมี ส.ส. ในภาคใต้ กระทั่งรวมไทยสร้างชาติก็มีนักการเมืองใหญ่ในพื้นมี่ภาคใต้ ทยอยไปร่วมงาน ในช่วงที่ฝ่ายรัฐบาล ทำงานเข้มข้น คงไม่พูดถึงจำนวนที่นั่งคาดการณ์ แต่เราบอกพี่น้องชาวใต้ว่า หวังว่าจะได้รับโอกาสในการเลือกตั้ง 

เมื่อถามถึง ยุทธศาสตร์ในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ ณัฐวุฒิ กล่าวว่า จะขับเคลื่อนในทุกพื้นที่ด้วยเศรษฐกิจ และไม่ละเลยเรื่องความขัดแย้ง อีกทั้ง 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้เป็นพื้นที่ที่มีผู้สมัครของพรรคเพื่อไทย และทีมงานก็จะมีส่วนผลักดันให้ประชาชนรับทราบต่อไป