ไม่พบผลการค้นหา
‘วิสาร’ ลากไส้สายสัมพันธ์ ‘ประยุทธ์’ เฝ้าฟูมฟัก ‘อดีตอธิบดีกรมอุทยานฯ’ ตบสินบน เชื่อชิงย้ายเข้ากรุ ช่วยให้ตั้งหลักได้ วอน ‘วราวุธ’ อย่าเปลืองตัวชี้แจงแทน

วิสาร เตชะธีราวัฒน์ ส.ส.เชียงราย พรรคเพื่อไทย อภิปรายทั่วไปแบบไม่ลงมติตามาตรา 152 โดยบอกว่าไม่เชื่อว่านายกรัฐมนตรีตั้งใจที่จะปราบโกง โดยยกกรณีการจับกุม รัชฎา สุริยกุล ณ อยุธยา อดีตอธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช กรณีเรียกรับสินบน เกือบ 5 ล้านบาท เมื่อ 27 ธ.ค. 2565 ที่ผ่านมา โดยสิ่งที่ผิดสังเกตและอยากให้ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ตอบคำถามว่าไปเกี่ยวข้องกับเรื่องนี้ได้อย่างไร 

วิสาร เปิดหนังสือคำสั่งตั้งคณะกรรมการสอบสวนข้อเท็จจริงในวันที่ 27 ธ.ค. 2565 ในวันเดียวกันกับที่มีการจับกุม ลงนามโดยปลัดกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม และหนังสือคำสั่งย้ายอธิบดีกรมอุทยานฯ เข้าไปที่สำนักนายกฯ วันที่ 28 ธ.ค. 2565 โดยมองว่าเป็นการออกคำสั่งข้ามหน้าข้ามตากระทรวง ซึ่งตามปกติผู้บังคับบัญชาตามลำดับขั้นสามารถตั้งคณะกรรมการสอบ และออกคำสั่งพักราชการเองได้อยู่แล้ว 

“วันนี้ ปลัดกระทรวงฯ สั่งตั้งคณะกรรมการสอบข้อเท็จจริง วันรุ่งขึ้นนายกฯ ออกคำสั่งย้ายไปประจำสำนักนายกฯ อันนี้เหมือนเอาลูกไก่เข้าไปในปีกแม่ไก่หรือเปล่าครับ เอาไปใกล้ๆ เพื่อตั้งหลักหรือไม่ แต่ก็คิดว่าน่าจะเป็นจริง เพราะหลังจากนั้นเพียงเดือนเศษ วันที่ 3 ก.พ. 2566 ที่ผ่านมา ก็มีคำสั่งของปลัดกระทรวงได้มีคำสั่งให้อธิบดี ให้ออกจากราชการไว้ก่อน แต่ผลคือ อธิบดีคนนี้ ก็ไปฟ้อง เจ้าหน้าที่ชุดจับกุม” 

วิสาร จึงตั้งคำถามว่า เป็นเพราะพี่ชายของอธิบดีคนนี้ เป็นเพื่อนร่วมรุ่นกับ พล.อ.ประยุทธ์ ใช่หรือไม่ พร้อมระบุต่อว่า อธิบดีคนนี้ พล.อ.ประยุทธ์ ฟูมฟักมาตั้งแต่ยังเป็น ผบ.ทบ. ให้เข้ามาทำงานในตำแหน่งแรกคือ ผอ.สำนักไฟป่าฯ และในปี 56-57 ก็ช่วยกันโปรโมทแต่งตั้งให้เป็น รองอธิบดีกรมป่าไม้ ปีต่อมาขึ้น ผู้ตรวจราชการกระทรวงฯ ปีต่อมาเป็น รองปลัดกระทรวงฯ และเป็นอธิบดีในกรมใหญ่ คือ กรมอุทยานฯ 

“เรื่องนี้ขอร้องเลยครับ ท่านรัฐมนตรี วราวุธ ศิลปอาชา ไม่ต้องยุ่งครับ ไม่ต้องตอบ ท่านตอบท่านยิ่งเปลืองตัวครับ เพราะเรื่องพวกนี้ยังไงก็ไม่เกี่ยวกับท่าน แต่ที่ต้องถามตรง ๆ ก็คือ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ถ้าท่านรับว่าจริงก็แล้วไป ผมก็จะได้ยืนยันว่าท่านไปข้องเกี่ยว ยุ่งเกี่ยวกับการแต่งตั้งข้าราชการ แต่ถ้าท่านบอกว่าไม่จริง ท่านกล้าสาบานไหมครับว่าบุคคล คนนี้ ท่านไม่ได้บอกให้ใครไปแต่งตั้ง ท่านกล้าสาบานไหมครับ ต่อหน้าสร้อยพระที่ท่านคล้องคออยู่ก็ได้ครับ” 

วิสาร ยังระบุว่า ข้อครหาของเงิน 5 ล้านบาท ที่จับได้ หากไม่มีการสั่งย้ายไปอยู่ที่สำนักนายกฯ ก็คงจะมีการตรวจยึดของกลางได้เพิ่มเติม คล้าย ๆ กรณีอดีตปลัดกระทรวงคมนาคม พร้อมถามว่าเรื่องนี้เป็นการย้ายเพื่อตัดตอน ไม่ให้หาหลักฐานเพิ่มเติมหรือไม่ จนกระทั่งโจทก์ก็คือเจ้าหน้าที่ที่ไปบุกจับกลับโดนฟ้องเสียเอง