วันที่ 5 เม.ย. ธนกร วังบุญคงชนะ อดีตรัฐมนตรีประจำสำนักนายกฯ สส.แบบบัญชีรายชื่อ และรองหัวหน้าพรรครวมไทยสร้างชาติ (รทสช.) กล่าวว่า การอภิปรายทั่วไปเพื่อซักถามข้อเท็จจริงหรือเสนอแนะปัญหาต่อคณะรัฐมนตรี โดยไม่มีการลงมติ ตามรัฐธรรมนูญฯ มาตรา 152 ตลอดทั้ง 2 วัน ตนมองว่า ไม่เกินที่คาดคิดไว้ เนื่องจากการอภิปรายของฝ่ายค้านส่วนใหญ่เป็นเรื่องเดิมๆ ยังคงใช้ข้อมูลเก่าขึ้นมาโจมตีรัฐบาล ไม่ต่างไปจากการอภิปรายครั้งก่อน แม้บางเรื่องเป็นการกล่าวหานายกฯและรัฐมนตรี แต่ก็ไม่มีการเปิดหลักฐานออกมาแสดง จึงถูกมองว่าเป็นการกล่าวหาเลื่อนลอย ขอแค่ได้ใช้วาทะกรรมต่อว่า วิพากษ์วิจารณ์ วนซ้ำไปมา บางคนใช้คำพูดที่ค่อนข้างรุนแรงไม่เหมาะสม
ทั้งนี้ ยังพบว่า เบญจา แสงจันทร์ สส.บัญชีรายชื่อพรรคก้าวไกล ได้อภิปรายและฉายสไลด์พาดพิงไปถึง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา อดีตนายกรัฐมนตรี ถือว่าไม่เหมาะสมอย่างยิ่ง เพราะเป็นการพาดพิงบุคคลภายนอกทำให้ต้องมีการประท้วงการอภิปรายทันที จึงประเมินให้คะแนนฝ่ายค้านในการอภิปรายทั่วไปแบบไม่ลงมติครั้งนี้ ถือว่าฟอร์มยังไม่ดีเท่าที่ควร ส่วนนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีที่ถูกอภิปราย ก็ได้ลุกขึ้นชี้แจงทันทีและให้ข้อมูลประชาชนได้เกิดความเข้าใจกระจ่าง
“แต่ก็ขอชื่นชม สส.ใหม่ พรรคก้าวไกลบางคน ที่อภิปรายด้วยความคล่องแคล่วพร้อมข้อมูล แต่ภาพรวมฝ่ายค้านก็ยังคงใช้ชุดข้อมูลเก่า มายำรวมเพื่ออภิปรายทั่วไปครั้งนี้ ส่วนมากเน้นใช้แต่วาทกรรมสร้างคำแรงๆ มากล่าวหาแต่ก็ไม่มีการเอาหลักฐานขึ้นมาโชว์ จึงมองว่า ฝ่ายค้านควร เตรียมข้อมูลให้ดีกว่านี้ ซึ่งจำเป็นต้องให้เวลารัฐบาลบริหารงานและใช้งบประมาณก่อน หากมีข้อมูลหลักฐานที่ชัดแจ้งเรื่องการทุจริต หรือการบริหารงานที่บกพร่อง ก็สามารถขอเปิดอภิปรายไม่ไว้วางใจแบบลงมติ ตามรัฐธรรมนูญมาตรา 151 ในสมัยประชุมหน้าได้“